Friday, June 12, 2009

เรื่องย่อ: ก๊วนกามเทพ



“ก๊วนกามเทพ”
บทประพันธ์ วัตตราบ
ทละครโทรทัศน์ ปณธี - ภควดี
กำกับการแสดง วีระชัย รุ่งเรือง
ผลิตโดย บริษัท ดวงมาลีมณีจันทร์ จำกัด
ผู้จัด จันทร์จิรา จูแจ้ง
ออกอากาศ ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 19.15 น. ทางช่อง 3


ถึงแม้ ดวงดาว บุตรสาวคนโตจาก ตระกูลทรัพย์สถิตย์ จะเคยพลาดหวังจากการเป็นสะใภ้แห่ง อภิบูรณา มาแล้วครั้งหนึ่ง หลังจากที่ ไพลิน แม่ของ รองเมือง ไม่ยอมมาสู่ขอเธอให้กับรองเมืองบุตรชาย แต่กลับไปรับ วารี ลูกผู้ดีเก่า มาเป็นสะใภ้แทน แต่ดวงดาวก็ยังคงรักษาคำมั่นสัญญาที่ ก้องไกร ผู้เป็นสามีเคยบอกยก เกษรา บุตรสาวเพียงคนเดียวให้ไปเป็นสะใภ้แห่งอภิบูรณาตกแต่งกับ วาทิต ลูกชายของรองเมืองและวารีให้ได้ ถึงแม้คุณ เรือนทอง ผู้เป็นยาย ดวงเดือน และ ดวงแก้ว ผู้เป็นน้าของเกษราจะไม่เห็นด้วยกับความเห็นของดวงดาวก็ตาม เพราะยังเจ็บแค้นใจไม่หาย ถึงแม้เวลาจะล่วงเลยมานานแล้วก็ตาม แต่ดวงดาวก็ยังคงยืนยันที่จะให้เกษราพิสูจน์ถึงคุณค่าของหญิงสาวแห่งตระกูลทรัพย์สถิตย์ให้ได้ ทั้งยังเป็นการรักษาคำมั่นของผู้เป็นสามีอีกด้วย


เรือนทองรู้สึกผิดไม่น้อย ที่ส่งเกษราไปเรียนต่อที่เมืองนอกเสียนาน เพื่อเป็นการถ่วงเวลาไม่อยากให้เกษราแต่งงานกับวาทิต เพราะหลังจากที่เกษราเดินทางกลับมาจากฝรั่งเศส เกษราก็กลายเป็นสาวฝรั่งจ๋า เปรี้ยวจี๊ด ชนิดที่ไม่เหลือความเป็นกุลสตรีไทยเอาไว้เลย ดวงดาวจึงเริ่มปฏิบัติการขั้นแรก ด้วยการหาครูมาอบรมขัดเกลากิริยา


มารยาทของเกษราเสียใหม่ โดยมี เพ็ญแข อดีตครูใหญ่ที่ผันตัวเองมาเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินของคุณเรือนทอง หลังจากที่โรงเรียนได้ถูกปิดลง รับอาสาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการทำหน้าที่นี้เอง เพ็ญแขพยายามส่งครูฝีมือดีมาอบรมเกษราแล้วหลายคนด้วยกัน แต่ทุกคนก็ต้องถอยร่นกลับไป ด้วยเพราะทนฤทธิ์เดชของเกษราไม่ไหว สุดท้ายเพ็ญแขจึงต้องดั้นด้นไปตามหาบรรดาครูเพื่อนเก่า ซึ่งแต่ละคนก็มีฝีไม้ลายมือระดับเจ้าของรางวัลกันทั้งนั้น แล้วเธอก็ได้พบกับครู เพลินตา เป็นคนแรก ซึ่งในอดีตเพลินตาเคยพานักเรียนไปกวาดรางวัลการประกวดปรุงและตกแต่งอาหารระดับประเทศมาหลายรางวัล แต่ปัจจุบันสาวใหญ่ก็กลายเป็นแม่ค้าขายอาหารตามสั่งอยู่ในตลาดโดยมี สายไหม น้องสาวเป็นผู้ช่วยไปเสียแล้ว ครู สมพร ซึ่งเป็นครูสอนวัฒนธรรมไทย และมารยาทที่เคยพาเด็ก ๆ ไปกวาดรางวัลการประกวดมารยาทดีเด่นมาแล้วก็กลายเป็นเจ้าของ ค่ายมวยสมพรยิม สืบทอดกิจการครอบครัวหลังจากที่พ่อของเธอเสียชีวิตลง ส่วนครู นวลน้อย อดีตครูสอนนาฏศิลป์ก็กลายเป็นครูสอนหางเครื่องรำซิ่งโชว์ตามคาเฟ่ให้กับ โชค ผู้เป็นหลานชาย เพ็ญแขเริ่มหมดหวังจากเพื่อน ๆ ทั้งสามของเธอ เพราะนอกจากทุกคนจะไม่เหลือคราบความเป็นครูคนเก่าอีกแล้ว แต่ละคนก็แทบจะไม่อยากกลับไปเป็นครูเหมือนดังเดิมอีก มีเพียงค่าตอบแทนที่เพ็ญแขนั้นเสนอเอาไว้ชนิดที่เรียกว่าสูงลิบ เพื่อจูงใจเพื่อน ๆ ให้กลับมาทำงานในหน้าที่เหมือนเดิมเท่านั้นที่ทิ้งไว้ให้ทุกคนคิด แล้วเพ็ญแขก็เดินทางกลับมากรุงเทพฯ ด้วยความหวังที่เลือนราง


รองเมืองตั้งใจที่จะให้วาทิตแต่งงานกับเกษราเหมือนเดิม เพราะนอกจากจะเป็นการรักษาสัญญากับเพื่อนเก่าอย่างก้องไกรแล้ว เขายังสำนึกในบุญคุณในครั้งที่ก้องไกรยังมีชีวิตอยู่ และได้เกื้อกูลช่วยเหลือเขาเรื่องเงินทองจนสามารถมีฐานะอยู่ได้ดีจนถึงทุกวันนี้ เมื่อรองเมืองรู้ข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์ว่าเกษราได้เดินทางกลับมาจากต่างประเทศแล้ว เขาจึงไม่รอช้ารีบเชิญเกษรามาทานข้าวที่อภิบูรณาทันทีเพื่อเป็นการดูตัวและผูกสัมพันธ์ของคนทั้งสองตระกูลเข้าด้วยกัน แต่ทุกอย่างก็กลับดูเหมือนจะไม่เป็นใจเพราะทั้งไพลินประมุขแห่งอภิบูรณา ซึ่งเป็นผู้ดูแลอภิบูรณาอยู่ขณะนี้ และ รำไพ ผู้เป็นป้าหัวโบราณที่ประชดไพลินด้วยการไม่ทำอะไร นอกจากใช้สมบัติเก่าไปวัน ๆ เพราะไพลินบังคับให้เธอแต่งงานกับคนลวงโลกพ่อของ รุ่งทิวา จนชีวิตครอบครัวของเธอต้องพังทลายลง รพีพรรณ ผู้เป็นอาของวาทิต ซึ่งชอบเข้าสังคมและพูดคุยแต่เรื่องนินทาว่าร้ายชาวบ้านตลอดเวลา ทำตัวไร้สาระไปวัน ๆ ก็แสดงท่าทีไม่ชอบใจเกษราตั้งแต่แรกเห็น ที่สำคัญเธอไม่อยากให้คนของทรัพย์สถิตย์มาร่วมใช้นามสกุลเดียวกับเธอรวมไปถึงวาทิตด้วย เพราะนอกจากเกษราจะไม่มีกิริยามารยาทเหมือนกุลสตรีไทยแล้ว เธอยังแต่งตัวเป็นสาวเปรี้ยวจัดชนิดที่ชายหนุ่มทนรับไม่ไหว ผิดกับเขาที่เป็นคนคร่ำเคร่งอยู่ในกฎระเบียบแห่งชีวิต ยิ่งถ้าเปรียบเทียบกับ กิ่งแก้ว เพื่อนอาจารย์ในมหาวิทยาลัยซึ่งมีความงามพร้อมแล้วเกษราก็ตกรอบแรกไปเลย แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านความหวังที่เกษราจะได้เป็นสะใภ้แห่งอภิบูรณาก็เรืองรองขึ้นมาทันที เมื่อสามอาจารย์เดินทางมาที่ทรัพย์สถิตย์พร้อม ๆ กัน ถึงแม้แต่ละคนจะแสดงท่าทีไม่ลงรอยกันเพราะต่างคนต่างมั่นใจในความเป็นหนึ่งของตัวเอง แต่ทุกคนก็เริ่มทำงานด้วยความตั้งใจ แม้จะต้องล่าถอย อ่อนใจไปบ้างในบางครั้ง เมื่อเกษราออกฤทธิ์ทำท่าไม่สนใจเรื่องวิชาความรู้ต่าง ๆ ที่อาจารย์ทั้งสามสอนให้ จะลุกจะนั่งก็ดูขัดหูขัดตา แถมยังแต่งตัวหวือหวาไปซะทุกอย่าง ซ้ำยังชอบชวนอาจารย์ทั้งสามออกไปท่องราตรีในยามค่ำคืน
เกษราถูกเรียกตัวไปที่อภิบูรณาบ่อยครั้งขึ้น เพื่อทดสอบเรื่องกิริยามารยาท ซึ่งเกษราเองก็แสนจะเบื่อหน่าย ในการที่คุณไพลินจะต้องทานอาหารตำรับชาววังแทบทุกมื้อ ต้องฟังดนตรีไทย บางครั้งก็จะมีทั้งรุ่งทิวาบุตรสาวของรำไพและกิ่งแก้วมาคอยบรรเลงให้ฟัง แถมเธอยังต้องอ่านหนังสือให้คุณย่าไพลินฟังอีก แต่ความน่าเบื่อหน่ายเหล่านี้ก็ค่อย ๆ จืดจางลงเมื่อเกษราได้พบกับ คุณปู่พจน์ ซึ่งป่วยเป็นอัมพาตอยู่ที่เรือนหลังเล็ก เธอมีโอกาสได้พูดคุยกับชายชราด้วยบ่อยครั้ง จนกลายเป็นความผูกพัน เพราะนอกจากวาทิตแล้วสมาชิกในบ้านอภิบูรณาไม่เคยมีใครหันมาสนใจดูแลปู่พจน์เลย เมื่อวาทิตได้รู้จากผู้เป็นปู่ว่าเกษรามักจะมานั่งเป็นเพื่อนคุยคลายเหงา ชายหนุ่มจึงเริ่มมองหญิงสาวในทางที่ดีขึ้น ยิ่งเมื่อวันที่เขาเกิดล้มป่วยลงอย่างกะทันหัน เกษราก็รีบพาเขาไปหาหมอและดูแลปรนนิบัติอย่างดี จึงยิ่งทำให้ชายหนุ่มเห็นความดีและความอ่อนหวานในตัวเกษรามากยิ่งขึ้นไปอีก


ครูทั้งสามต่างก็แข่งกันที่จะสอนให้เกษราเรียนได้ดีที่สุดในวิชาของตนเอง ถึงแม้บางครั้งจะถูกดวงเดือนกับดวงแก้วคอยขัดขวางการเรียนการสอนอยู่บ้าง เพราะผู้เป็นน้าก็เห็นด้วยกับเรือนทองที่ไม่ต้องการให้หลานสาวตกไปเป็นสะใภ้ของบ้านอภิบูรณา ทั้ง เพลินตา สมพร และนวลน้อย ต่างก็พยายามที่จะให้ตนเองได้เป็นครูเพียงคนเดียวของเกษราเพื่อที่จะได้เงินก้อนโตตามที่เพ็ญแขเคยเสนอให้ไปจัดการหนี้สินของตนเองเกษรารับรู้ถึงปัญหานี้จึงอาสาที่จะขอเงินพิเศษเพิ่มให้จากเพ็ญแข ทำให้ครูทั้งสามเพิ่มความรักในตัวเกษรามากขึ้นและยอมร่วมมือกันที่จะทำให้ลูกศิษย์ของตนเองเข้าไปเป็นสะใภ้แห่งอภิบูรณาให้ได้


ในงานเลี้ยงฉลองแซยิดคุณไพลิน เกษรากับอาจารย์ทั้งสามต้องกลายเป็นแม่งานไปโดยปริยาย หลังจากที่รำไพและรพีพรรณวางแผนให้ เอียด แม่บ้านใหญ่และ ล้อม ผู้เป็นหลานสาวลาพักร้อน แล้วแกล้งโทร.ไปปรึกษากับดวงดาวเรื่องงานเลี้ยง ดวงดาวเองก็ได้โอกาสที่จะโชว์ฝีมือของลูกสาวจึงตกปากรับคำให้เกษราเป็นแม่งานในครั้งนี้ เพื่อเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่าเกษราเหมาะสมที่จะเป็นสะใภ้แห่งอภิบูรณาเรือนทองไม่ยอมไปร่วมงานครั้งนี้ และยังยืนยันที่จะไม่ร่วมวงศ์ตระกูลกับอภิบูรณาเหมือนดั่งเดิม เพลินตา สมพร และ นวลน้อย ช่วยกันเนรมิตงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยมีรุ่งทิวายื่นมือมาช่วยเรื่องงานครัวบ้าง จึงทำให้เธอสนิทสนมกับเกษรามากยิ่งขึ้น กิ่งแก้วแสดงการรำอวยพรเพื่อเป็นของขวัญให้กับไพลิน ซึ่งก็ทำให้คุณย่าชอบใจไม่น้อย วาทิตเองก็พลอยทึ่งในความสามารถของหญิงสาวไปด้วย ส่วนเกษรานั้นเตรียมการรำฉุยฉายเอาไว้ แต่เกิดความผิดพลาดชุดเกิดหายไปอย่างไม่รู้สาเหตุ เธอจึงต้องโชว์จินตลีลาเพลงบัวขาวแทน โดยมีครูทั้งสามช่วยกันร้องเพลงสดให้ แต่เหมือนโชคเข้าข้าง เพราะเพลงบัวขาวคือเพลงโปรดของไพลิน สร้างความประทับใจให้กับหญิงวัยกลางคนไม่น้อย วาทิตเองก็เริ่มทึ่งและพึงใจในตัวของเกษรา มีเพียงแต่กิ่งแก้วเท่านั้นที่ไม่พอใจกับภาพที่หล่อนได้เห็น
งานแต่งงานของเกษรากับวาทิตถูกจัดขึ้นในเวลาต่อมา ทั้ง ๆ ที่ไพลินก็ยังไม่เต็มใจสักเท่าไหร่นัก วาทิตเองก็ทำไปเพื่อไม่ต้องการได้ชื่อว่าเป็นลูกที่อกตัญญู ดวงดาวมั่นใจว่าลูกสาวของตนเองนั้นจะเป็นสะใภ้ที่ดีได้ เรือนทองมอบที่ดินผืนใหญ่ให้เป็นของขวัญในวันแต่งงาน ซึ่งก็ถึงกับทำให้รำไพและรพีพรรณอิจฉาในความร่ำรวยอย่างแท้จริงของบ้านทรัพย์สถิตย์ ส่วนกิ่งแก้วนั้นก็มีความหวังว่าทั้งสองจะต้องหย่าขาดจากกันในเวลาไม่นาน หลังจากที่รำไพและรพีพรรณได้พูดให้ความหวังว่าทั้งสองคนไม่ได้รักกัน ที่วาทิตแต่งงานด้วยเพียงเพื่อต้องการพยุงฐานะของอภิบูรณาไว้เท่านั้น เกษราเองก็เป็นเพียงสะใภ้แต่ในนาม เธอไม่ได้เกี่ยวข้องกับวาทิตฉันท์สามีภรรยาทั่วไป


เกษราขอเวลาในการปรับตัวและทำใจเป็นเวลาสามเดือน เพราะเธอเองก็อึดอัดในความเป็นระเบียบและชีวิตที่อยู่แต่ในกรอบของวาทิต ยังดีที่เธอนั้นมีคุณปู่พจน์เป็นเพื่อนคอยพูดคุยอยู่เสมอ บางครั้งครูทั้งสามก็มาเยี่ยมและขออนุญาตพาหญิงสาวออกไปเที่ยวข้างนอกบ้านบ้างทำให้คลายเครียดลงไป ครูทั้งสามก็พลอยหลงใหลในแสงสียามค่ำคืนไปกับเกษราด้วย ไพลินเองก็เริ่มพึงใจกับหลานสะใภ้คนนี้ เพราะทุกครั้งที่เกษราออกไปนอกบ้าน เธอก็จะมีของติดไม้ติดมือกลับมาฝากทุกคนในบ้าน ซึ่งแสดงถึงความมีน้ำใจได้อย่างชัดเจน และความที่เกษรานั้นทำตัวตามสบาย ไม่ต้องเคร่งเครียดกฎระเบียบเหมือนกับคนในบ้าน ทำให้ทุกอย่างดูผ่อนคลายไปด้วย แต่ทุกสิ่งทุกอย่างนั้น รุ่งทิวาก็จะคอยตักเตือนเกษราเสมอว่าสิ่งไหนควรหรือไม่ควรที่จะปฏิบัติในอภิบูรณา


ไพลินมีอาการเครียดจัด เมื่อเธอขาดส่งบ้านและที่ดินที่เอาไปจำนองไว้กับธนาคาร ส่วนทรัพย์สินภายในบ้านรองเมืองก็นำออกไปขายจนแทบเกลี้ยง วาทิตเองก็พลอยเงียบขรึมเพราะกังวลไปด้วย มีแต่รำไพที่ขอเดินทางไปต่างประเทศกับบรรดาข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ โดยอ้างว่าไม่อยากให้ใครรู้ถึงฐานะที่ตกต่ำภายในบ้าน ส่วนรพีพรรณก็มุ่งเอาแต่ออกงานสังคมโดยไม่มองฐานะของตนเอง ทิ้งให้รุ่งทิวาเป็นคนดูแลไพลินเพียงลำพัง เกษรานั้นเข้าใจดีถึงสถานการณ์ทุกอย่าง เพราะเธอแอบได้ยินไพลินพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ธนาคารโดยบังเอิญ เกษราจึงให้เรือนทองผู้เป็นยายรับซื้อบ้านและที่ดินเอาไว้เมื่อมีเจ้าหน้าที่ธนาคารนำมาเสนอขายกับเพ็ญแข โดยที่คนของอภิบูรณาไม่มีโอกาสได้รับรู้เลยกิ่งแก้วไม่ละความพยายามเธอยังคงเข้ามาวุ่นวายกับวาทิตอยู่เสมอ จนรุ่งทิวาเองอดเป็นห่วงไม่ได้ หญิงสาวจึงตักเตือนวาทิตให้บอกกับกิ่งแก้วว่าอย่ามายุ่งวุ่นวายเรื่องราวภายในบ้านมากนักซึ่งวาทิตเองก็รู้ทุกอย่างดีแต่ก็ไม่อาจจะพูดกับเธอได้ ชายหนุ่มจึงเริ่มเห็นอกเห็นใจเกษรามากยิ่งขึ้น เรือนทองได้เป็นเจ้าของทรัพย์สินของอภิบูรณาทั้งหมดโดยที่ไม่มีใครในบ้านของวาทิตรับรู้เลยแม้กระทั่งตัววาทิตเอง ชายหนุ่มมักจะแวะไปเยี่ยมเยือนเรือนทองอยู่เสมอจึงทำให้หญิงวัยกลางคนเริ่มรักใคร่ในตัวของหลานเขยคนนี้ เรือนทองสั่งให้เพ็ญแขชี้แจงเรื่องธุรกิจตึกแถว ห้องเช่า และที่ดินต่าง ๆ ให้วาทิตรับรู้ แรก ๆ วาทิตนั้นไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย แต่เรือนทองหาทางออกด้วยการเสนอเงินเป็นค่าตอบแทนให้ ทำให้วาทิตสบายใจขึ้น เขาตั้งอกตั้งใจที่จะช่วยเรือนทองดูแลเรื่องทรัพย์สมบัติอย่างดี ซึ่งก็สร้างความพอใจให้กับเรือนทองเป็นอย่างมาก เพราะอย่างน้อยแผนการที่ใช้ลองใจของวาทิตเรื่องการดูแลทรัพย์สินก็ประสบความสำเร็จไปแล้วหนึ่งอย่าง เรือนทองไม่ห่วงอีกต่อไปหากวันหนึ่งวาทิตจะเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินของเธอทั้งหมด เพราะเขาจัดว่าเป็นเด็กหนุ่มที่มีนิสัยดี ซื่อสัตย์คนหนึ่งเลยทีเดียว เมื่อวาทิตได้มีโอกาสใกล้ชิดกับคนของทรัพย์สถิตย์ เขาก็เริ่มคุ้นเคยสนิทสนมกับทุกคนในบ้านในเวลาเพียงไม่นาน รวมถึงครูทั้งสามของเกษราด้วย ทำให้ชายหนุ่มเริ่มมองเกษราในแง่มุมที่ดีขึ้นมาอีก
ยังไม่ทันที่ความสัมพันธ์ของเกษรากับวาทิตจะดำเนินไปด้วยดี โรเจอร์ คนรักเก่าของเกษราก็เดินทางกลับมาจากฝรั่งเศส โรเจอร์ตัดพ้อต่อว่าที่เกษราแต่งงานอย่างกะทันหัน และไม่ยอมบอกกับเขาเพราะหญิงสาวเคยให้สัญญากับชายหนุ่มว่าจะให้คำตอบเรื่องความรักกับเขาก่อน เกษราให้ความสนิทสนมกับโรเจอร์ด้วยความจริงใจ เพราะครั้งหนึ่งหญิงสาวเคยไปอาศัยอยู่ที่บ้านของโรเจอร์ครั้งที่ไปเรียนต่อที่เมืองนอก เธอจึงให้โรเจอร์เข้ามาพักอยู่ในบ้านทรัพย์สถิตย์ ระหว่างที่มาเที่ยวเมืองไทย ด้วยความเป็นห่วงครูทั้งสามจึงออกปากตักเตือนด้วยความหวังดีเพราะเกรงว่าเกษราจะผิดใจกับวาทิต แต่กลับสร้างความไม่พอใจให้กับเกษราเป็นอย่างมาก ครูทั้งสามน้อยใจมากจึงถือโอกาสลาเพ็ญแขกลับบ้านโดยทั้งสามให้เหตุผลว่าหมดหน้าที่ของพวกเธอแล้ว เกษราพาโรเจอร์ไปทานข้าวที่บ้านอภิบูรณาและได้พบกับกิ่งแก้วซึ่งนั่งเคียงคู่อยู่กับวาทิต ทำให้ไพลินกระอักกระอ่วนใจมากกับภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในบ้าน กิ่งแก้วเองก็เกิดการปะทะคารมกับโรเจอร์ วาทิตก็รู้สึกเสียหน้าอย่างแรงจึงมีเรื่องทะเลาะกับเกษรา ทุกอย่างจึงดูยุ่งเหยิงไปหมดประจวบกับที่เรือนทองป่วยหนัก เกษราจึงต้องกลับไปดูแลยายที่บ้านบ่อยครั้ง ทำให้ทั้งสองห่างเหินกัน วาทิตเข้าใจเกษราผิดมากขึ้นไปอีก เพราะเข้าใจว่าผู้เป็นภรรยานั้นกลับไปคบหากับแฟนเก่าเหมือนดั่งเดิมถึงขนาดไม่มีเวลากลับมาหาตนที่บ้านอีก รำไพกับรพีพรรณได้ที ก็ยุให้วาทิตหย่าขาดกับเกษรา ซึ่งกิ่งแก้วเองก็เห็นดีด้วยจึงตามไปต่อว่าเกษราถึงที่บ้าน และบังเอิญได้พบกับโรเจอร์ทั้งสองจึงปะทะคารมกันอีก โรเจอร์นั้นไม่ยอมแพ้เขาตามไปหาเธอถึงมหาวิทยาลัย ถึงแม้จะมี รัศมี เพื่อนขาเม้าท์คนสนิทของกิ่งแก้วคอยกีดกัน หนุ่มตาน้ำข้าวตามกิ่งแก้วจนไปถึงที่บ้านและได้ทำความรู้จักกับพ่อและแม่ของเธอ ด้วยเพราะเขาเริ่มพอใจในตัวอาจารย์สาวผู้นี้เข้าเสียแล้ว ความมึนตึงประชดประชันระหว่างสองสามีภรรยาทำให้สถานการณ์ยิ่งตึงเครียด วาทิตกล่าวหาว่าเกษราจะกลับไปคืนดีกับโรเจอร์ ส่วนเกษราเองก็ต่อว่าชายหนุ่มที่ต้องการจะหย่าขาดจากเธอก็เพื่อไปแต่งงานใหม่กับกิ่งแก้วและจะเอาสมบัติมากู้ฐานะบ้านอภิบูรณาด้วยหลังจากที่เขาและเธอได้หย่าขาดจากกัน ด้วยความโกรธที่ถูกเกษราต่อว่าชายหนุ่มจึงขาดสติปลุกปล้ำหญิงสาวในคืนนั้น และเขาก็ได้รู้ว่าเกษราเป็นหญิงสาวที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่ใช่สาวเปรี้ยว หัวนอก เหมือนกับภาพที่ทุกคนมองเห็น


เกษรากลับมาอยู่บ้านทรัพย์สถิตย์ด้วยหัวใจที่ชอกช้ำและผิดหวังในตัววาทิต เธอสารภาพกับโรเจอร์ว่าสามารถมอบเพียงความเป็นเพื่อนให้กับโรเจอร์ได้เท่านั้น ซึ่งชายหนุ่มเองก็เข้าใจดีและพร้อมที่จะช่วยเหลือเกษราเมื่อรู้ว่าเธอกำลังมีปัญหากับวาทิต โรเจอร์ไปพูดตักเตือนให้กิ่งแก้วได้คิดอีกว่า ยังมีคนใกล้ตัวกิ่งแก้วอีกคนที่ยังสนใจเธออยู่ สร้างความงุนงงให้กับหญิงสาวเป็นอย่างยิ่ง หนุ่มตาน้ำข้าวตัดสินใจออกจากบ้านทรัพย์สถิตย์ แล้วย้ายไปอยู่บ้านใกล้ ๆ กับบ้านของกิ่งแก้วในเวลาต่อมา ชายหนุ่มจึงเริ่มตามจีบกิ่งแก้วอย่างเป็นจริงเป็นจังเกษราตามไปขอขมาครูทั้งสาม ซึ่งทั้งเพลินตา สมพร และ นวลน้อย ก็ยังคบหากันอยู่เหมือนเดิม ไม่ว่าวันใดที่นวลน้อยนึกอยากกินอะไรขึ้นมาก็จะให้เพลินตาทำให้ทาน โดยมีโชคขี่มอเตอร์ไซค์ไปรับกับข้าวมาให้ ซึ่งก็เป็นเหตุให้โชคได้รู้จักกับสายไหมน้องสาวของเพลินตาที่มีฝีไม้ลายมือเรื่องทำกับข้าวไม่แพ้ผู้เป็นพี่สาว ด้วยความเจ้าชู้ของโชคเขาก็ออกลวดลายจีบสายไหมเข้าทันที แต่เพลินตานั้นไม่ชอบใจจึงคอยขัดขวาง ทำเอาชายหนุ่มนึกเกรง ๆ อยู่เหมือนกัน แต่เมื่อมีเกษรามาเป็นแขกที่บ้าน โชคก็เลิกสนใจสายไหมทันทีและหันมาจีบเกษราอย่างจริงจัง แต่เการาก็ไม่ได้ถือสา ปล่อยให้โชคพร่ำเพ้อไปแต่เพียงคนเดียว


ปู่พจน์ป่วยหนัก เฝ้าเรียกหาแต่เกษรา ชายชราขอร้องให้ทุกคนในบ้านเลิกทำท่ารังเกียจสะใภ้หัวนอกคนนี้ แถมขอร้องให้รำไพและรพีพรรณเลิกใช้จ่ายฟุ่มเฟือย จนทำให้อภิบูรณามีปัญหาเรื่องการเงิน เมื่อความลับนี้ถูกเปิดเผยขึ้น ทั้งสองคนจึงถูกไพลินต่อว่าจนต้องยอมรับผิด ปู่พจน์มอบที่ดินผืนสำคัญที่เก็บไว้ตั้งแต่ยังหนุ่มให้กับวาทิตเพื่อนำไปขายแล้วเอาเงินไปไถ่บ้านและที่ดินคืนจากเรือนทอง ไพลินตกใจมากที่สามีล่วงรู้ความลับอันนี้จึงรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถปกป้องทรัพย์สมบัติของตระกูลเอาไว้ได้ เรือนทองเองเมื่อหายจากอาการป่วยก็เดินทางไปที่อภิบูรณาทันที สอบถามเอาความจริงจากวาทิตว่ายังรักหลานสาวของเธออยู่หรือไม่ เพราะอย่างไรเสียเกษรากับวาทิตก็จะได้เป็นเจ้าของทรัพย์สินทั้งหมดอยู่ดี แต่หากวาทิตหมดรักในตัวเกษราแล้วเธอก็จะขายบ้านและที่ดินคืนให้ แต่ไม่มีคำตอบใด ๆ ออกมาจากปากวาทิต ทำให้ทุกคนในบ้านสงสัยถึงความในใจที่เขามีต่อเกษรา


เมื่อวาทิตนึกทบทวนถึงความรู้สึกที่แท้จริงที่เขามีต่อเกษรา ชายหนุ่มจึงตัดสินใจขายที่ดินย่านชานเมืองแล้วนำเงินไปซื้อบ้านและที่ดินของอภิบูรณาคืน เรือนทองเสียใจมากที่วาทิตไม่สามารถกลับมาคืนดีกับเกษราได้อีกจึงจำใจขายทรัพย์สินนั้นคืนให้วาทิตไป ในขณะที่เรือนทองและเพ็ญแขกำลังกลุ้มอกกลุ้มใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพลินตาก็มาปรากฏตัวที่บ้าน เพราะเธอเองก็อดสงสัยในพฤติกรรมของเกษราไม่ได้ ที่ไปขอพักอาศัยอยู่กับตนที่ต่างจังหวัด และไม่เคยพูดถึงวาทิตเลย จึงลงทุนมาสืบเรื่องราวด้วยตนเอง ทั้งเรือนทองและเพ็ญแข จึงเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้กับเพลินตาได้รับรู้ วาทิตไปหากิ่งแก้วที่บ้านและได้รู้ว่าเธอได้ติดบ่วงดวงใจของโรเจอร์เข้าให้แล้ว หญิงสาวจึงสารภาพกับชายหนุ่มว่าจะไปอยู่เมืองนอกกับโรเจอร์ในอนาคต โรเจอร์เองก็บอกกับวาทิตว่าเกษรานั้นมีใจรักต่อวาทิตอย่างแท้จริง สองหนุ่มเกิดความเข้าอกเข้าใจและจับมือแสดงความเป็นมิตรต่อกัน


วาทิตได้พบกับเพลินตาและได้รับรู้เรื่องราวของเกษราทั้งหมดขณะที่ไปอยู่กับครูทั้งสาม ชายหนุ่มจึงรีบกลับไปที่บ้านและบอกกับผู้เป็นย่าว่าจะไปสู่ขอหญิงสาวคนหนึ่งแต่งงาน โดยให้ย่าไปเป็นผู้ใหญ่ให้ ไพลินเข้าใจว่าวาทิตจะไปขอกิ่งแก้วมาเป็นสะใภ้ จึงออกปากปฏิเสธเสียงแข็งไม่ยอมให้ใครมาเป็นสะใภ้อีกนอกจากเกษรา เพราะอย่างไรเสียเธอก็เป็นเด็กสาวที่มีจิตใจงดงามคนหนึ่งเลยทีเดียว เมื่อไม่มีเกษราอยู่ในบ้านก็พลอยทำให้ทุกอย่างเงียบเหงากลับไปสู่บรรยากาศแบบเดิม ๆ


โชคยังตามตื้อเกษราอย่างไม่ย่อท้อ ท้ายสุดเกษราจึงบอกกับเขาว่า เธอแต่งงานแล้ว และไม่สามารถปันใจให้กับชายอื่นได้อีกนอกจากวาทิต และคิดกับโชคเพียงแค่พี่ชายคนหนึ่งเท่านั้น ขอให้เขากลับไปให้ความสำคัญและดูแลสายไหมเหมือนดั่งเดิม โชคจึงได้คิดและหวนกลับไปหาสายไหมอีกครั้ง วาทิตลงทุนติดตามเพลินตาไปงอนง้อขอคืนดีกับเกษราถึงอ่างทอง แต่ไม่ว่าอย่างไรเกษราก็ไม่คลายความโกรธไปได้เสียที จนชายหนุ่มท้อใจเดินทางกลับกรุงเทพฯ อย่างหมดหวัง ทำให้ครูทั้งสามของเกษราพลอยเศร้าใจไปด้วย ครูเติม เพื่อนครูซึ่งรู้จักคบหากับครูสมพรมาเป็นเวลานานก็อดเป็นห่วงสาวใหญ่ไม่ได้ที่เป็นกังวลเรื่องของเกษราจนทำให้เครียดจัด ครูเติมจึงคอยเฝ้าปลอบใจและสารภาพว่าหลงรักสมพรมานับสิบปีและจะไม่รอเวลาอีกต่อไป ทำให้สมพรถึงกับปลื้มและซาบซึ้งกับคำว่าความรักในครั้งนี้


โรเจอร์ตัดสินใจจะพากิ่งแก้วไปอยู่ที่ฝรั่งเศสด้วยจึงพาพ่อกับแม่มาพบญาติผู้ใหญ่ของกิ่งแก้วที่บ้าน ชายหนุ่มออกปากอยากหาแม่ครัวคนไทยสักคนไปช่วยงานที่ร้านอาหารไทยที่โน่น กิ่งแก้วนึกถึงเพลินตาครูสาวของเกษราได้จึงเดินทางไปที่อ่างทองเพื่อพบครูเพลินตาที่นั่น ทั้งสมพรและนวลน้อยต่างก็ดีใจไปกับเพื่อนที่จะได้ไปอยู่ต่างประเทศ กิ่งแก้วได้พบกับเกษราที่นั่นเธอขอโทษในสิ่งที่ผ่านมาและหวังว่าเกษราจะกลับไปคืนดีกับวาทิตในเวลาไม่นาน ประจวบกับที่ปู่พจน์เสียชีวิตลงเกษราจึงยอมกลับมาที่อภิบูรณา ทุกคนมีท่าทีดีกับเธอไม่เหมือนดั่งแต่ก่อน วาทิตยอมสารภาพตรง ๆ ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอในคืนนั้น แท้ที่จริงก็คือความรักที่อยู่ในใจของเขามาเป็นเวลานาน ชายหนุ่มทั้งเสียใจและน้อยใจที่เกษราทิ้งเขาไปอย่างนั้น ต่อไปนี้เขาจะไม่ยอมให้เกษราหนีไปไหนอีก ไม่ว่าหญิงสาวอยากจะทำตัวอย่างไรในบ้านอภิบูรณาเขาก็ยอมได้ทุกอย่าง หากแต่อย่าหนีหายไปจากชีวิตของเขาอีก


เกษราซาบซึ้งในความจริงใจที่วาทิตมีต่อเธอ หญิงสาวจึงยอมยกโทษให้กับความผิดที่ผ่านมา และเธอเองก็ยอมรับว่ารักวาทิตเช่นเดียวกัน ครูสมพรกับครูเติมตกลงที่จะแต่งงานกันและช่วยกันพัฒนาค่ายมวยสมพรยิม ด้านครูนวลน้อยก็ให้นายโชคหลานชายเลิกทำคณะรำซิ่งไปช่วยสายไหมทำกิจการร้านอาหาร ส่วนตัวเองจะกลับไปเปิดโรงเรียนสอนดนตรีไทยที่กรุงเทพฯ โดยการสนับสนุนของเกษรา โชคกับสายไหมตกลงใจใช้ชีวิตร่วมกัน เพลินตาก็ติดตามโรเจอร์กับกิ่งแก้วไปอยู่ต่างประเทศไม่ยอมทิ้งกระทะกับตะหลิวอาชีพที่เธอรักไปตลอดชีวิต คุณไพลินกับคุณเรือนทองก็กลายเป็นคู่หูคู่ใหม่ที่ควงกันไปวัดเป็นประจำเพื่อไปปรึกษาพระเรื่องตั้งชื่อเหลนที่กำลังจะเกิดมา ทั้งสองบ้านกลายเป็นทองแผ่นเดียวกันโดยมีความรักของวาทิตและเกษราเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ของสองตระกูล




ลักษณะตัวละคร


1. วาทิต ชายหนุ่มวัย 25-28 รูปร่างหน้าตาดี บุคลิกดีมีความสง่างามด้วยมาดผู้ดี แม้เป็นอาจารย์ที่มีความคิดอ่านทันสมัยในวิทยาการ แต่การดำเนินชีวิตนั้นยึดติดอยู่กับกรอบประเพณีที่ดีงาม มีอุดมคติเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตที่ไม่หวือหวา ไม่โลดโผน เชื่อมั่นในชาติตระกูล และฝังใจว่าผู้เป็นภรรยาต้องสงบเสงี่ยมเหมือนแม่ตัวเอง ต้องเป็นช้างเท้าหลัง


2. ไพลิน หญิงชรามาดดีวัย 55-60 ที่คงความเป็นผู้ดีทั้งกริยาวาจาและท่วงท่า เผด็จการ หยิ่งและจมไม่ลง ภาคภูมิใจในชาติตระกูลตนเองเป็นอย่างยิ่ง ปลูกฝังทั้งลูกและหลานให้อยู่กินอย่างผู้ดี ทำตัวอย่างผู้ดี แม้บางครั้งแววตาจะแสดงออกถึงความเจ็บปวดสิ้นหวังกับการทำคอระหง บางครั้งอยากจะปล่อยวางมาดผู้ดี จนในที่สุดแบกถือไว้ไม่ไหว เมื่อพบคนจริงใจด้วยอย่างคุณยายเรือนทองก็ต้องยอมจมลง


3. รพีพรรณ สาวใหญ่วัย 35-40 มาดดี เย่อหยิ่ง หัวสูง แต่งตัวเก่ง รสนิยมดี ปากร้ายปากไวแต่คม ชอบค่อนนินทาคนแบบเจ็บ ๆ แบบผู้ดี ขี้โกงนิด ๆ โกงเงินแม่เงินพี่ชายมาเก็บสะสมซื้อข้าวของของตัวเอง ไม่มีน้ำใจพอครอบครัวตกอับไม่เอาใคร


4. รำไพ สาวใหญ่วัย 35-40 มาดดี เย่อหยิ่ง เจ้าคิดเจ้าแค้น จอมประชด ทำตัวเรื่อยเปื่อยไม่สนใจจะทำมาหากินอะไรเพื่อประชดผู้เป็นแม่ที่จัดให้แต่งงานกับผู้ชายที่เป็นผู้ดีจอมปลอม แก้แค้นแม่อยู่เงียบ ๆ ด้วยการเม้มเงินไว้ใช้จ่ายส่วนตัว เวลาครอบครัวตกอับไม่สนใจใครแม้แต่ลูก


5. รองเมือง หนุ่มใหญ่วัย 35-40 เป็นลูกชายคนเดียวของคุณไพลินที่ต้องฟังบัญชาจากแม่ ยอมแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก แต่ยังมีใจรักมั่นกับคนรักเดิม เป็นคนรักษาสัญญา รักเพื่อน อดทน เสียสละให้พี่น้อง


6. วารี สาวใหญ่วัย 35-40 เป็นผู้หญิงหน้าตาธรรมดา กิริยานุ่มนวลเนิบช้า ใจเย็น สงบเสงี่ยม รักครอบครัว กตัญญูต่อแม่สามี


7. รุ่งทิวา หญิงสาววัย 25-28 ลูกสาวของคุณรำไพที่หน้าตาธรรมดา เป็นคนเงียบ ๆ เซื่อง ๆ เหมือนไม่รู้สึกรู้สา แต่รู้เรื่องราวหลายเรื่องลึกซึ้ง คนมองเหมือนติงต๊อง แต่ลึก ๆ คือคนเก็บกด รักความถูกต้องยุติธรรม รู้ผิดชอบชั่วดี


8. เรือนทอง หญิงชราวัย 55-60 ที่มาดดี อารมณ์ดีเบิกบาน จิตใจดีแจ่มใส ทันสมัย ร่ำรวยและใจสปอตกล้าได้กล้าเสีย ขี้เล่นบางเรื่อง จริงจังบางสถานการณ์


9. เกษรา หญิงสาววัย 22-25 สวยเท่ ทันสมัย มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงแต่ก็ยอมทำทุกอย่างตามที่แม่ขอเพราะไม่อยากเป็นเด็กไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับพ่อว่าจะแต่งงานกับคนที่พ่อเลือกให้ ฉลาดหัวไว คล่องแคล่วปราดเปรียว เรียนรู้อะไรได้เร็ว แต่ไม่ค่อยเต็มใจ ไม่พิถีพิถัน แต่แม้จะทำตัวน่าหวาดเสียวสำหรับผู้ใหญ่ที่ได้เห็นแต่ไม่ยอมเสียความเป็นสาวให้ใคร ด้วยความเชื่อมั่นส่วนตัวว่าจะเก็บความภาคภูมิใจไว้ให้ผู้ชายคนที่ตัวเองรักที่สุดเท่านั้น


10. ดวงดาว สาวใหญ่วัย 35-40 ที่มีความคล่องแคล่วปราดเปรียว รู้เรื่องธุรกิจของครอบครัวควบคู่ไปกับครูเพ็ญแขเลขาของเรือนทอง เป็นคนใจนักเลง แต่ไม่กร่างมีความมุ่งมั่นประมาณสิบปีแก้แค้นก็ไม่สาย มีความหวังที่จะเกี่ยวดองกับตระกูลอภิบูรณาให้ได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เมื่อตนเองพลาดรักยังอยากให้ลูกสาวไปเกี่ยวดองแบบมีแผนสลับซับซ้อนเพื่อแก้เผ็ดคุณย่าไพลิน ที่ครั้งหนึ่งเคยปฏิเสธไม่รับเธอเป็นสะใภ้ แต่โดยปกติเป็นคนดี และจริงจังจริงใจต่อการกระทำทุก ๆ อย่าง


11. ดวงเดือน สาวใหญ่วัย 35-40 เป็นสาวโสดที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง เป็นนักธุรกิจที่คล่องแคล่วปราดเปรียว รักหลานสาว รักแรงเกลียดแรง เป็นผู้หญิงมากเรื่องพิธีการเยอะ จึงไม่ตกลงปลงใจแต่งงานกับใคร


12. ดวงแก้ว สาวใหญ่วัย 35-40 เป็นสาวโสดที่รักอิสระทำงานในแวดวงศิลปะบันเทิง มีความเป็นตัวของตัวเองสูง หยิ่งเพราะถือว่าแม่รวย รักพี่ ๆ รักหลาน รักที่จะทำเรื่องสนุก ๆ


13. เพ็ญแข สาวใหญ่วัย 40-50 ที่เป็นลูกจ้างผู้ซื่อสัตย์ ขยันและจริงจัง จริงใจต่อคนตระกูลทรัพย์สถิตย์ รักษาผลประโยชน์ให้สุดชีวิต รักความถูกต้องยุติธรรม


14. เพลินตา สาวโสดสาวใหญ่วัย 40-45 ที่ในอดีตเป็นครูสอนคหกรรมในโรงเรียนเอกชนที่มีชื่อเสียงที่สุด มีฝีมือในการทำอาหารทำขนมระดับมือรางวัล และสอนเด็กจนได้รับรางวัลจากการประกวดทำอาหารและขนมมามากแล้ว ปกติเป็นคนใจเย็น ขยัน รักสวยรักงาม ประณีต บรรจง แต่สถานการณ์เปลี่ยนไปเป็นตรงกันข้ามเมื่อออกจากครูแล้วต้องไปผจญภัยกับการค้าขายข้าวแกงอาหารตามสั่งให้วินมอเตอร์ไซค์ คนงานก่อสร้าง หนุ่ม ๆ สาว ๆ โรงงาน ที่มีทั้งกวนประสาท กวนใจ กวนตีน จึงกลายเป็นคนโผงผางจอมโวยวาย มีตะหลิวเป็นอาวุธคู่กายมานับ 10 ปี


15. สมพร สาวโสดสาวใหญ่วัย 40-45 ที่เป็นอดีตครูสอนศิลปวัฒนธรรมมารยาทไทยให้กับเด็กจนมีเด็กได้รับรางวัลมารยาทงามมาแล้ว หลายปีหลังจากออกจากครูเพราะโรงเรียนปิดกิจการ วิถีชีวิตก็ต้องเปลี่ยนไปต้องไปรับมรดกตกทอดของพ่อดูแลค่ายมวย จากครูมารยาทดีกลายเป็นครูปากร้ายขี้โมโห มือไวกำปั้นหนัก ทันชกเป็นชก ทันถีบเป็นถีบ เพราะต้องควบคุมเด็กหนุ่ม ๆ นักมวย แต่โดยพื้นฐานเป็นคนใจเย็น สงบ พูดน้อย


16. นวลน้อย สาวโสดสาวใหญ่วัย 40-45 ที่แสนจะบอบบางกริยาเนิบนาบ เสียงเพราะ เก่งในเครื่องดนตรีไทยหลายชนิด ร้องเพลงไทยเดิมได้ไพเราะจับใจ ส่งลูกศิษย์ให้ไปรับรางวัลมากมาย ปัจจุบันต้องมาเป็นครูสอนรำซิ่งให้หลานชาย


17. กิ่งแก้ว อาจารย์สาววัย 25-27 ที่สวยสง่าสงบเรียบร้อยในสายตาของคนทั่วไป มีความเป็นกุลสตรีเพราะได้รับการปลูกฝังมาจากแม่ที่เคยเป็นคนรับใช้ในบ้านเชื้อพระวงศ์ เก่งด้านการทำอาหารขนมและนาฏศิลป์ แต่เพราะรักวาทิตมากจึงทำอะไรร้ายได้อย่างแนบเนียนกับเกษรา


18. ก้องไกร หนุ่มใหญ่วัย 40 เศษ ที่เป็นสุภาพบุรุษ รักครอบครัว ซื่อสัตย์ กตัญญู เพราะรักคุณดวงตาด้วยความจริงใจ เมื่อรู้ว่าคุณดวงตาไม่ได้แต่งงานกับคุณรองเมืองเพื่อนกันแล้วก็พยายามดูแลคุณดวงตาจนได้แต่งงานด้วย แต่เพราะทำงานหนักและมีโรคร้าย ทำให้ต้องเสียชีวิตลงก่อนใคร ๆ และได้ฝากฝังครอบครัวและลูกสาวไว้พร้อมกับบอกยกเกษราให้เป็นสะใภ้ตระกูลอภิบูรณา


19. โรเจอร์ หนุ่มชาวฝรั่งเศส อายุ 25-28 สุภาพเรียบร้อยและสนใจวัฒนธรรมไทย สนใจชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย ให้เกียรติสุภาพสตรี และไม่เคยล่วงเกินเกษรา ยอมรับการอกหัก


20. จอน คนขับรถบ้านคุณย่าไพลินที่รับใช้มาตั้งแต่อายุรุ่นหนุ่ม จนเป็นหนุ่มใหญ่อายุ 40-45 ซื่อสัตย์เถรตรง


21. เอียด สาวใช้สาวใหญ่วัย 40-45 ที่มีฝีมือในการทำอาหารไทย ขนมไทย และในการจัดการเรื่องงานบ้านงานเรือน เป็นสาวโสด เป็นคนเค็ม เขี้ยว ชอบเม้มเล็กผสมน้อย ชอบทำธุรกิจเล็ก ๆ น้อย ๆ ออกเงินกู้ ยอมรับที่เงินของคนมากกว่ายอมรับคน


22. ล้อม สาวใช้วัย 20-25 หลานแม่เอียด ซื่อสัตย์ ขยัน รักสวยรักงาม รักความถูกต้องยุติธรรม


23. จวน สาวใช้วัย 40-45 ที่ดูแลความเรียบร้อยของบ้านทรัพย์สถิตย์มานาน เหมือนเป็นสมาชิกคนหนึ่งในบ้าน รักและซื่อสัตย์ต่อคุณยายเรือนทอง รักและเอ็นดูเกษราเพราะเลี้ยงมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย


24. เติม ครูมวยที่เป็นศิษย์รุ่นแรก ๆ ของค่ายมวย อายุ 40-45 เป็นโสด ใจดี ซื่อสัตย์


25. รัศมี เพื่อนครูสาวของกิ่งแก้ว อายุ 25-27 เป็นคนไม่สวย ไม่มีเสน่ห์ แต่ก็เป็นแรงเชียร์เป็นขาเม้าท์ของการะเกด


26. โชค หลานชายของครูนวลน้อย อายุ 25-30 เป็นหนุ่มลูกทุ่งที่มีความฝันความหวังจะได้ออกทีวีแต่จับพลัดจับผลูต้องมาเป็นหัวหน้าคณะรำซื่งโชว์ตามคาเฟ่


27. พุดกรอง แม่ของการะเกด วัยประมาณ 40-45 ท่วงท่ากิริยาเป็นผู้ดี สงบเสงี่ยม เรียบง่าย แต่ปลูกฝังลูกให้มองหาผู้ชายที่เพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติและทรัพย์สมบัติ


28. ประสาน พ่อของการะเกด วัยเกษียณที่สงบเงียบไม่มีปากเสียง แต่คอยค้านเวลาที่เมียปลูกฝังลูกเรื่องการหาคู่


29. พจน์ ปู่ของวาทิต อายุประมาณ 60 สงบปากสงบคำ หม่นเศร้า เพราะเป็นอัมพาธเดินไม่ได้


30. สายไหม น้องสาวครูเพลินตาวัย 25-30 เป็นชาวบ้าน เป็นคนเรียบง่าย เนิบช้า ครูเพลินตาต้องคอยจ้ำจี้จ้ำไชตามสไตล์ครู


31. สายพิณ แม่ของครูเพลินตา วัย 55-60 หญิงชราที่สงบเสงี่ยม มีชีวิตที่เรียบง่าย


32. จิ๊บ สาวใช้ลูกสาวแม่จวน อายุ 20-25 ชื่นชอบชื่นชมคนของเกษราทุกคน ไม่ว่าจะเป็นวาทิตหรือโรเจอร์ ปลื้ม กรี๊ด ฝันเฟื่อง


33. ชุบ คนขับรถวัยประมาณ 40-45 แอบปลื้ม ๆ บรรดาครูสาวใหญ่อยู่เงียบ ๆ แต่เป็นคนดี ซื่อสัตย์

Thursday, June 11, 2009

เรื่องย่อ: บ่วงหงษ์

ออกอากาศ วันพุธ - พฤหัสบดี เวลา 20.25 น.
เรื่องย่อ
พิมพ์ลภัส (แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์) ลูกสาวคนเดียวของ ตรัย (ต้น ตระการ พันธุมเลิศรุจี) นักธุรกิจที่ล้มละลายและฆ่าตัวตายเพื่อหนีหนี้ ความที่เป็นลูกสาวคนเดียว เกิดมาบนกองเงินกองทอง และกำพร้าแม่ทำให้ถูกตามใจจนเหลิง ใช้ชีวิต อย่างหรูหราสุขสบายมาตลอด หนังสือก็เรียนไม่จบ เจ้าอารมณ์ และเอาแต่ใจตัว ความตายของพ่อทำให้ชีวิตของเธอต้องพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ เนื่องจากคนที่ได้เงินทองจากตรัยไปมากที่สุดคือ มาธวี (น้ำฝน กุณณัฏฐ์ กุลปรียาวัฒน์) แม่เลี้ยงซึ่งแก่กว่าเพียงไม่กี่ปีของเธอ พิมพ์ลภัสต้องออกจากบ้านที่ถูกยึดมาเช่าคอนโดเล็ก ๆ อยู่ แถมยังถูก ยศพล (นัส อานัส ฬาพานิช) ผู้เป็นคู่หมั้นถอนหมั้น ตรงกันข้ามกับมาธวีซึ่งชิงหย่ากับตรัยก่อนหน้านี้ และเรียกร้องค่าเลี้ยงดูอย่างมหาศาล แถมถีบตัวขึ้นมาจนมีชื่อเสียงในสังคมด้วยการเปิดห้องเสื้อมาธวี ซ้ำยังเป็นนางแบบเสียเองอีก มาธวีมีคนสนิท 2 คน คือ กระเทยปากร้ายชื่อ หนูดี (หนุ่ม สุรวุฑ ไหมกัน) และหญิงแท้ชื่อ เป็ด (ต่าย ชัชฎาภรณ์ ธนันทา) ทั้งสองเป็นเหมือนคอหอยกับลูกกระเดือกของเจ้านาย

ถึงแม้ชีวิตจะตกต่ำลง แต่พิมพ์ลภัสก็ยังมีนิสัยเสียชนิดแก้ไม่หาย งานเดินแบบที่เคยทำก็ห่างหายไป ไม่ค่อยมีใครอยากจ้างเพราะถึงแม้จะสวยจัดอย่างไร แต่ทุกคนต่างเอือมระอากับการผิดนัด โทษโน่นโทษนี่ของเธอโดยไม่เคยมองข้อเสียของตัวเองเลย ถึงกระนั้นพิมพ์ลภัสก็ยังหยิ่งไม่ง้อใคร ยิ่งนานวันทรัพย์สินเงินทองก็ร่อยหรอลงทุกที หากแต่มีสิ่งเดียวที่เธอไม่ยอมขายซึ่งก็คือ เข็มกลัดประดับเพชรรูปหงส์ที่เตรียมจะโผบินขึ้นฟ้า เข็มกลัดนี้พ่อได้มอบให้เป็นของขวัญเมื่อพิมพ์ลภัสอายุ 15
เจ้าของคอนโดที่พิมพ์ลภัสเช่าอยู่ชื่อ กิตติชัย (โอลิเวอร์ พูพาร์ท) ทั้งกิตติชัยและ อรอุษา ผู้เป็นภรรยาต่างมีนิสัยเจ้าเล่ห์ ทั้งสองเฝ้าสังเกตเธอตลอดมา จนกระทั่งเห็นว่าเธอกำลังจนตรอกจึงเสนองานที่มีค่าตอบแทนสูงให้นั่นคือให้ไปขโมย และทำลายเทปลับกับจดหมายที่เกี่ยวกับอรอุษาจาก รเมศ (วี วีรภาพ สุภาพไพบูลย์) เจ้าของโรงแรมเชียงรายจารวี สองสามีภรรยาสร้างเรื่องว่าอรอุษาหลงผิดไปมีความสัมพันธ์กับรเมศ รเมศได้อัดเทป และเก็บจดหมายซึ่งอรอุษาเขียนติดต่อไปไว้แบล็คเมล์ทั้งสองคน ครั้งแรกพิมพ์ลภัสก็ไม่ยอมทำ แต่อรอุษามาร้องไห้วิงวอนขอร้องให้เห็นหัวอกลูกผู้หญิงด้วยกัน ซึ่งพิมพ์ลภัสก็ยังลังเลอีก จนกระทั่งได้อ่านข่าวสังคมว่ามาธวีกำลังจะไปจัดแฟชั่นโชว์ที่โรงแรมเชียงรายจารวี เธอจึงตัดสินใจรับงานเพราะเชื่อมั่นว่ารเมศต้องเป็นคนเลวแน่จึงคบกับมาธวีได้
พิมพ์ลภัสเดินทางมาถึงโรงแรมโดยกิตติชัยรับรองความปลอดภัยหากรเมศจับได้ อีกทั้งยังออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างระหว่างที่พักอยู่โรงแรมนั้นด้วย ระหว่างที่อยู่ที่นั่นพิมพ์ลภัสกลายเป็นจุดสนใจของทุกคนรวมทั้งรเมศ ด้วยความที่เป็นคนสวยมาก รเมศเข้ามาทำความรู้จักซึ่งเธอก็ให้ความสนิทสนมตามแผนทันที รเมศดูจะหลงรักพิมพ์ลภัสขึ้นทุกวัน ทั้งยังบอกว่าจะให้เธอเดินแบบกับห้องเสื้อมาธวีด้วย เขาตามใจ และเอาอกเอาใจทุกอย่าง ความที่พิมพ์ลภัสเอาแต่ใจตัว เย่อหยิ่ง ดูถูกคนอื่น ทำให้เธอสร้างศัตรูในโรงแรมไว้หลายคน โดยเฉพาะกับบรรดาพนักงานเสริฟ รเมศพาพิมพ์ลภัสเที่ยวดูงานในโรงแรม และพาไปเที่ยว รเมศทุ่มเทใจให้เธอมากมายในขณะที่พิมพ์ลภัสก็จ้องแต่จะขโมยเทป และจดหมายอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่เพราะไม่คุ้นกับงานเช่นนี้จึงเผลอทำพิรุธให้รเมศสงสัย รเมศภาวนาขออย่าให้ที่เขาสังหรณ์เป็นความจริง
ในที่สุดรเมศก็จับได้คาหนังคาเขา ขณะที่พิมพ์ลภัสเข้ามาขโมยเทปกับจดหมายในห้องทำงาน พิมพ์ลภัสตกใจมากที่ถูกจับได้ แต่ก็ไม่วายเถียงว่ารเมศเป็นคนไม่ดี เป็นชู้กับเมียคนอื่นแถมยังเก็บหลักฐานไว้แบล็คเมล์ รเมศจึงเปิดเทปให้ฟัง และยังให้อ่านจดหมาย พิมพ์ลภัสรู้ความจริงรู้สึกอับอายมาก แต่ก็ยังไม่มากเท่ากับความเสียใจที่รเมศมาหมางเมินกับเธอ อย่างไรก็ตามพิมพ์ลภัสก็คือพิมพ์ลภัสที่โทษคนอื่นมากกว่าตัวเอง เธอโทรบอกกิตติชัยให้ส่งเงินมาจ่ายค่าที่พัก และอาหารในโรงแรม แต่กิตติชัยไม่ยอมโดยอ้างว่าเธอทำงานไม่สำเร็จ ทำให้เธอทั้งร้อนใจ และตกใจมาก
สำหรับรเมศ เขาทั้งผิดหวัง และเสียใจที่มองพิมพ์ลภัสผิดไป รเมศรักเธออย่างแท้จริง ฉะนั้นเขาจึงรู้สึกเหมือนถูกหลอก ถูกทรยศ ฉะนั้นเมื่อพิมพ์ลภัสไม่มีเงินจ่ายค่าโรงแรม เขาจึงให้เธอทำงานชดใช้โดยให้เป็นพนักงานเสริฟ ครั้งแรกพิมพ์ลภัสจะขายเข็มกลัดรูปหงส์เพื่อเอาเงินมาใช้หนี้ แต่ด้วยความเสียดายจึงตัดสินใจรับงาน พิมพ์ลภัสต้องแต่งเครื่องแบบพนักงานเสริฟซึ่งเป็นชุดพื้นเมืองที่เธอเคยดูถูก ต้องย้ายออกจากห้องพักหรูหรามาอยู่ห้องพักของพนักงานซึ่งต้องอยู่ร่วมกันห้องละสองคน ซึ่งห้องก็ทั้งแคบและไม่มีแอร์ ซ้ำร้ายเพื่อนร่วมห้องก็คือพนักงานเสริฟที่เธอเคยวีนใส่
นับจากนั้นพิมพ์ลภัสมีสภาพไม่ต่างอะไรจากหงส์ปีกหัก เธอเห็นทุกคนเป็นศัตรูไปหมด งานหลายๆ อย่างในชีวิตที่ไม่เคยทำก็ต้องทำโดยเฉพาะงานบริการ ตลอดเวลาเหล่านี้รเมศเฝ้าจับตาดูอยู่ด้วยความสะใจแต่บางครั้งก็อดใจอ่อนไม่ได้ ฤทธิ์เดชของพิมพ์ลภัสเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว เธอมีเรื่องกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นเพื่อนพนักงานเสริฟด้วยกัน ลูกค้า หรือแม้กระทั่งหัวหน้าผู้ดูแลรับผิดชอบ ความเย่อหยิ่ง และเอาแต่ใจตัวทำให้ทุกคนไม่ชอบพิมพ์ลภัส หลายๆ คนถึงกับนินทา บ้างก็เยาะเย้ยซึ่งๆ หน้า
พิมพ์ลภัสไม่ใช่จะร้ายเสียทีเดียว ความดีในตัวเธอยังมีพอสมควร ซึ่งเธอก็ได้แสดงออกมาเพื่อปกป้องเพื่อนร่วมงานจากลูกค้าบ้ากามทำให้ความรู้สึกของเพื่อนร่วมงานดีขึ้น การได้ทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขกันนานเข้า ประกอบกับความไม่สะดวกสบายทั้งหลายแหล่ทำให้เธอเริ่มเห็นสัจธรรมของชีวิต และพยายามทำใจยอมรับถึงแม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม และแล้วมาธวีกับคณะแฟชั่นโชว์ก็มาถึง ทั้งสองได้พบกัน มาธวีรู้สึกสะใจมากที่เห็นลูกเลี้ยงตกต่ำละไม่รีรอที่จะเยาะเย้ยซ้ำเติม ขณะเดียวกันมาธวีก็พยายามจะจับรเมศให้ได้ ด้วยความช่างสังเกตมาธวีก็รู้ว่ารเมศนั้นรักพิมพ์ลภัส เธอจึงคอยสร้างเรื่องให้ทั้งสองเข้าใจผิดกัน แถมยังแกล้งใส่ร้ายพิมพ์ลภัสให้ต้องกล้ำกลืนฝืนทน
ในที่สุด มาธวีก็คิดจะกันพิมพ์นภัสให้ห่างจากรเมศโดยเด็ดขาด เธอจึงโทรศัพท์ติดต่อให้ เสี่ยสมาน (พิพัฒน์พล โกมารทัต) ซี่งหลงรักพิมพ์ลภัสมานานให้มาพักที่โรงแรม เสี่ยดีใจมากรีบมาหา และยื่นข้อเสนอจะเลี้ยงดูพิมพ์ลภัสอย่างดี แต่กลับถูกตอกหน้าอย่างไม่เกรงใจ เสี่ยเริ่มท้อแต่มาธวีพยายามให้กำลังใจโดยบอกแผนการณ์ที่จะทำให้พิมพ์ลภัสตกเป็นของเสี่ย ถึงแม้จะยังลังเลกลัวว่าพิมพ์ลภัสจะไปบอกเมียของเขา แต่ความต้องการมีมากกว่า เสี่ยจึงยอมทำตามแผนโดยเข้าไปรอในห้องมาธวี
มาธวีมาแต่งเรื่องบอกรเมศว่าเธออยากจะใช้เงินแทนพิมพ์ลภัสเพื่อเห็นแก่สายสัมพันธ์ที่เคยเป็นแม่เลี้ยงเธอ แต่ก็กลัวพิมพ์ลภัสจะไม่ยอมรับ ดังนั้นเธอจึงขอร้องให้เขาบอกให้พิมพ์ลภัสมาพบเธอบนห้องเพื่อจะได้ปรับความเข้าใจกัน รเมศหลงเชื่อจึงสั่งให้คนไปบอกพิมพ์ลภัสให้ไปพบเขาที่ห้องมาธวี พิมพ์ลภัสทำท่าจะไม่ไปในตอนแรก เพราะรู้ว่าห้องนั้นเป็นห้องมาธวี แต่แล้วก็เปลี่ยนใจจะไปเผชิญหน้า และเมื่อเข้าไปทุกอย่างก็เข้าแผนการณ์ของมาธวี เสี่ยสมานพยายามปลุกปล้ำพิมพ์ลภัส แต่เธอก็เอาตัวรอดจนได้ พิมพ์ลภัสเจ็บใจ และแค้นใจมากด้วยนึกว่ารเมศหลอกเธอมาให้เสี่ยสมาน จึงไปตัดพ้อต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรง รเมศตกใจ และปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นเรื่องราวทั้งหมด พร้อมกันก็ไปเอาเรื่องมาธวี
มาธวีร้องห่มร้องไห้ปฏิเสธ และแก้ตัวจนรเมศเกือบจะเชื่อถ้าไม่พบหลักฐานบางอย่างในห้องนั้นที่มาธวีพยายามกลบเกลื่อน รเมศไล่มาธวีออกจากโรงแรมทันที มาธวีโกรธแค้นด่าว่ารเมศ แต่ก่อนไปได้คายพิษครั้งสุดท้ายโดยบอกกับพิมพ์ลภัสว่ารเมศมีคู่หมั้นแล้วชื่อ นารา (ฐิตินันท์ สุวรรณถาวร) ซึ่งพิมพ์ลภัสก็เคยเห็นความสนิทสนมของคนทั้งสองอยู่บ่อยๆ ทำให้พิมพ์ลภัสเสียใจมาก ส่วนรเมศนั้นก่อนที่จะไล่เสี่ยสมานออกไปได้เรียกค่าทำขวัญไว้ให้พิมพ์ลภัส เสี่ยจำใจให้เพราะกลัวเรื่องจะอื้อฉาวทำให้ครอบครัวเสื่อมเสีย และถูกเมียเอาเรื่อง เงินจำนวนนั้นมากพอสมควร แต่รเมศไม่ได้ให้พิมพ์ลภัสในทันทีเพราะเกรงว่าเธอจะมีเงินใช้หนี้ และกลับกรุงเทพฯไป ด้วยเขายังหวังว่าจะทำความเข้าใจกับเธอได้เพราะหลังจากมีเรื่องเขาได้ขอโทษเธอ และยอมรับผิดทุกอย่าง ซ้ำยังให้มาธวีกราบขอโทษพิมพ์ลภัส และพิมพ์ลภัสได้ถ่ายรูปเก็บไว้ด้วยความสะใจ
วันรุ่งขึ้น พิมพ์ลภัสตัดใจไปขายเข็มกลัดรูปหงส์ถึงแม้จะเสียดายใจแทบขาด เพื่อจะได้พ้นจากโรงแรมเชียงรายจารวีโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้เพราะเธอเข้าใจว่ารเมศมีคู่หมั้นแล้ว แต่ก็ยังมาหลอกเธอด้วยการทำท่าทีเหมือนมีใจด้วย ก่อนไปพิมพ์ลภัสได้มอบของที่ระลึกให้เพื่อนๆ พนักงานเสริฟ เพราะทุกคนต่างได้ให้บทเรียนอันมีค่ากับเธอ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังได้ค้นพบความจริงใจของพวกเขาเหล่านั้นที่มีต่อเธอ เมื่อพิมพ์ลภัสเอาเงินมาใช้หนี้ รเมศใจหายแต่ในเมื่อเธอยืนยันจะไปก็ไม่สามารถขัดขวางได้ รเมศยังได้มอบเงินค่าทำขวัญของเสี่ยสมานให้เธอด้วย พิมพ์ลภัสยิ่งโกรธมากเพราะเข้าใจผิดว่าเขาเก็บเงินจำนวนนั้นไว้ไม่ยอมให้เธอ เพราะจะแกล้งกักตัวไว้ทำงานต่อไป หลังจากพิมพ์ลภัสจากไปแล้ว รเมศเสียใจมาก และซึมลงไป
เมื่อพิมพ์ลภัสมาถึงกรุงเทพฯ เธอได้รับบทเรียนเรื่องการมีชีวิตพอเพียงจึงไปเช่าคอนโดเล็กลง ขายข้าวของแบรนด์เนมเนื่องจากไม่มีความสำคัญในชีวิตอีกต่อไป หลังจากนั้นก็ออกหางานเดินแบบทำ แต่ทุกแห่งที่ไปจะปฏิเสธหมด เพราะมาธวีใช้อิทธิพล และความสนิทสนมส่วนตัวกับบรรดาเอเจนซี่ให้ปฏิเสธเธอ ซึ่งพิมพ์ลภัสกลับคิดว่าเธอเองก็มีส่วนผิดด้วย เพราะยามรุ่งเรืองเธอเคยเบี้ยวงานบ้าง ไปช้าบ้างอยู่เป็นประจำ ในที่สุดเธอจึงตัดใจหางานอื่นทำแต่ก็ยากเต็มทีเพราะพิมพ์ลภัสเรียนไม่จบ หรือถ้าที่ไหนรับที่นั่นก็มักจะมีเจ้านายประเภทหัวงู ความทุกข์ยากหลายเดือนที่ผ่านมาสอนไม่ให้ท้อ จนกระทั่งวันหนึ่งพิมพ์ลภัสได้พบกับนาราโดยบังเอิญ นารามากับ สิหนาท (เอกรัตน์ สารสุข) ซึ่งเป็นคู่หมั้น และเป็นหุ้นส่วนของรเมศ แต่พิมพ์ลภัสก็ยังเข้าใจผิดเหมือนเดิม นาราพยายามจะให้ความช่วยเหลือแต่พิมพ์ลภัสปฏิเสธ นาราจึงให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อไว้ พิมพ์ลภัสไม่สามารถหางานได้ จึงตัดสินใจโทรไปหานารา นาราพาพิมพ์ลภัสไปบ้านของรจนา ซึ่งกำลังหาครูสอนพิเศษภาษาอังกฤษให้ลูกสาวกับลูกชาย พิมพ์ลภัสซึ่งถึงแม้จะเรียนไม่จบแต่ด้านภาษาอังกฤษดีด้วยเพราะเป็นนักเรียนนอก รจนาดูจะดีใจ และเอ็นดูพิมพ์ลภัสผิดปกติ ขณะเดียวกันพิมพ์ลภัสก็รู้สึกว่าหน้าของรจนาดูคุ้นๆ หลังจากสนิทสนมกันพอสมควร จนกระทั่งพิมพ์ลภัสเล่าเรื่องอกหักของเธอให้รจนาฟัง รจนาซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆ ของรเมศจึงแน่ใจว่าพิมพ์ลภัสก็รักน้องชายของเธอ จึงวางแผนนัดรเมศมาพบ พิมพ์ลภัสตกใจ รเมศจึงเล่าความจริงเรื่องของนารากับสีหนาทให้ฟัง ทั้งสองจึงเข้าใจกันในที่สุด สำหรับมาธวีก็ถูกกรรมตามสนองเพราะรเมศรู้ว่ามาธวีกลั่นแกล้งพิมพ์ลภัสไม่เลิก จึงส่งทั้งรูป และคำขออภัยเมื่อครั้งถูกจับได้ว่าหลอกพิมพ์ลภัสไปให้เสี่ยสมานปล้ำเอาลงหนังสือพิมพ์ เมื่อความจริงเปิดเผยจึงไม่มีใครในวงการคบหาสมาคมด้วย

รายชื่อดารานักแสดง
วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ - รเมศ
ขมนิจ จามิกรณ์ - พิมพ์ลภัส
กุลณัฏฐ์ กุลปรียาวัฒน์ - มาธวี
อานัส ฬาพานิช - ยศพล
เอกรัตน์ สารสุข - สีหนาท
ฐิตินันท์ สุวรรณถาวร - นารา
อธิชนันท์ ศรีเสวก - กานดา
ชมพูนุช ปิยะธรรมชัย - จินตนา
พิพัฒน์พล โกมารทัต - เสี่ยสนาม
โอลิเวอร์ พูพาร์ท - กิตติชัย
ตระการ พันธุมเลิศรุจี (ดารารับเชิญ) - ตรัย
รชยา รักกสิกรณ์ - รจนา
จารุศิริ ภูวนัย - นงนุช
ศตวรรษ ดุลยวิจิตร - บวรทัต
แวร์ โซว - พัชรี ชโลทร
กาหลง - ดาริน
ฐรินดา กรรณสูต - ขนิษฐา
ดารณีนุช โพธิปิติ - วิมล
ชัชฎาภรณ์ ธนันทา - เป็ด
สุรวุฑ ไหมกัน - หนูดี

เรื่องย่อ: เพลิงพราย


บทประพันธ์
บทโทรทัศน์ วิลักษณา
กำกับการแสดง ชูชัย องอาจชัย


เดือน เป็นนักเขียนนวนิยายผู้เชี่ยวชาญเรื่องแนวกุ๊กกิ๊กหวานแหววซึ่งขัดแย้งกับบุคลิกอันดูห้าวของเธอ เดือนตั้งใจจะฉีกแนวการเขียนนวนิยายเรื่องใหม่ในสไตล์สยองขวัญ ขณะที่เธอกำลังคิดหาพล็อตเรื่อง ก็เริ่มมีสิ่งผิดปกติเหนือธรรมชาติบางอย่างเกิดขึ้นกับเธอ ทุกเช้าเดือนมักจะตื่นนอนด้วยสภาพอิดโรยราวกับไม่ได้หลับมาทั้งคืน ทั้งๆที่เธอรู้สึกว่าระยะสองสามอาทิตย์มานี้เธอง่วงนอนเร็วกว่าปกติและที่สำคัญนวนิยายเรื่องใหม่ที่เธอกำลังเขียนถูกลบทิ้งหายไปจากคอมพิวเตอร์อย่างหาสาเหตุไม่ได้ พฤกษ์ เป็นนายตำรวจกองปราบและได้รับคำสั่งให้ติดตามคดีการหายตัวไปอย่างลึกลับของปลายรุ้ง ดาราสาวหน้าใหม่แห่งวงการละครทีวี

พฤกษ์เจอกับเดือนครั้งแรกขณะที่เขากำลังตามจับคนร้ายอยู่บนถนนและวิ่งชนเดือนจนเธอหกล้มแขนหัก พฤกษ์จึงรับผิดชอบด้วยการพาเธอไปโรงพยาบาลและอาสารับส่งพาเธอไปพบหมอทุกอาทิตย์ เดือนพยายามหลีกเลี่ยงไม่ยุ่งเกี่ยวกับพฤกษ์เพราะเขามักจะพูดจากวนประสาทเธอ แต่พฤกษ์ปิ๊งในความห้าวและตรงไปตรงมาของเดือน เขาจึงตื๊อจนเธอไม่สามารถปฏิเสธความหวังดีของเขาได้ พฤกษ์มักจะแวะเวียนมาหาเดือนเป็นประจำจนกลายเป็นความเคยชินและทำให้เดือนเริ่มยอมรับพฤกษ์เข้ามานั่งในหัวใจพฤกษ์ติดตามคดีของปลายรุ้งจนสืบรู้ว่าเธอเคยมีความสัมพันธ์กับ สาคร ผู้กำกับหนุ่มและได้เลิกรากันไปหลังจากที่ปลายรุ้งเข้าสู่วงการบันเทิง แต่เมื่อพฤกษ์สอบปากคำสาครเกี่ยวกับการหายตัวไปของปลายรุ้งเขาก็พบว่าสาครมีพิรุธบางอย่าง พฤกษ์จึงสั่งให้ปองชัย ซึ่งเป็นลูกน้องในทีมจับตามองสาครว่าติดต่อหรือไปพบใครบ้าง และแล้วในกลางดึกคืนหนึ่งเขาก็ได้รับแจ้งจากปองชัยว่าสาครถูกทำร้ายร่างกายสาหัสและคนที่ทำร้ายสาครก็คือเดือน แต่ตำรวจจับตัวเดือนไม่ได้เพราะเธอหนีไปก่อน
พฤกษ์รีบมาหาเดือนที่คอนโดแต่พบว่าเธอนอนหลับสนิทอยู่ในห้องและเธอปฏิเสธว่าเธอไม่ได้ไปไหน พฤกษ์เข้าใจว่าเดือนกำลังปกปิดอะไรบางอย่างเพราะเขาได้ดูกล้องบันทึกภาพวงจรปิดของคอนโดและพบว่าเธอได้ออกไปจากคอนโดตอนเที่ยงคืนจริง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังพบว่าในสามอาทิตย์ที่ผ่านมาเธอมักจะออกไปจากคอนโดในยามดึกบ่อย ๆ เดือนตัดสินใจไปหาป้านวลที่นครสวรรค์ ป้านวลเป็นป้าแท้ๆของเดือนและเลี้ยงเดือนมาตั้งแต่เล็กหลังจากพ่อแม่ตาย ป้านวลเป็นร่างทรงของเทพ แม้ว่าเดือนจะไม่ค่อยเชื่อกับเรื่องเข้าทรงลงเจ้าที่ป้าทำแต่เธอก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าในยามนี้มีเพียงป้านวลเท่านั้นที่จะช่วยหาคำตอบได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ป้านวลบอกให้เดือนรู้ตัวว่าเดือนกำลังดวงตกอย่างหนักและมีวิญญาณอาฆาตของผู้หญิงคนหนึ่งพยายามเข้าครอบงำชีวิตเธอ หากเธอปล่อยให้วิญญาณนั้นเข้าสิงบ่อย ๆ พลังชีวิตของเธอจะถูกดูดจนหมดและตายลงในที่สุด
พฤกษ์พยายามหาสาเหตุและความเกี่ยวพันระหว่างเดือนกับสาครแต่เขาไม่พบอะไรที่เป็นจุดเชื่อมโยงของทั้งคู่ จนกระทั่งเดือนบุกเข้ามาอีกครั้งเพื่อฆ่าสาครและเกิดการต่อสู้กันขึ้น พฤกษ์และปองชัยพยายามเข้าห้ามเดือนแต่ทั้งคู่ไม่อาจสู้แรงของเธอได้ และทั้งคู่ต้องผงะเมื่อพบว่าใบหน้าของหญิงสาวแปรเปลี่ยนจากเดือนเป็นปลายรุ้ง แม้ว่าพฤกษ์จะไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็นแต่เขาก็ไม่อาจลบหลู่ได้ พฤกษ์นำสร้อยพระเข้าสวมคอเดือน ทำให้วิญญาณของปลายรุ้งกรีดร้องอย่างโหยหวนและยอมออกจากร่างของเธอ
เมื่อเดือนฟื้นคืนสติขึ้นมาพฤกษ์จึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังและอาสามานอนเป็นเพื่อนเธอเพราะกลัวว่าวิญญาณของปลายรุ้งจะกลับมาสิงอีก ทั้งสองจึงมีโอกาสได้ใกล้ชิดและเผยความในใจที่มีต่อกัน … ในช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ดูเหมือนว่าวิญญาณของปลายรุ้งจะเงียบหายไปชั่วขณะ แต่แล้วพฤกษ์ก็ได้รับแจ้งว่าสาครถูกฆ่าตายโดยที่ไม่มีใครเห็นร่องรอยของฆาตกรทั้งๆที่ตำรวจก็เฝ้าสาครตลอด 24 ชั่วโมง

อุ๋ม เป็นเพื่อนสนิทของเดือน เธอแต่งงานแล้วกับ พลภัทร ผู้กำกับละครหนุ่มเสน่ห์แรง แต่เธอจับได้ว่าพลภัทรไปแอบมีสัมพันธ์กับ วีณา ดาราสาวที่เล่นละครกับเขา อุ๋มจึงมาหาเดือนและเล่าเรื่องให้ฟัง และตัดสินใจมาพักอยู่ที่คอนโดของเดือน
พลภัทรตามมาง้อขอคืนดีกับอุ๋ม โดยไม่รู้ว่า วีณา ชู้สาวแอบตามมาด้วย วีณาแค้นใจที่พลภัทรจะเขี่ยเธอทิ้ง เลยจะตามมาฆ่าพลภัทรกับอุ๋ม แต่พฤกษ์เข้ามาช่วยไว้ทัน วีณาบอกพฤกษ์ว่า พลภัทรให้ตำรวจมาข่มขืนเธอ แต่ยังไม่ทันที่เธอจะบอกว่าตำรวจคนนั้นเป็นใคร วีณาก็ถูกลอบยิงตายเสียก่อน
อุ๋มเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก จนทำให้วิญญาณของปลายรุ้งเข้าสิงเธอได้ และกลับไปอยู่กับพลภัทร เพราะก่อนตายปลายรุ้งรักและมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเขาและหวังจะผูกมัดให้พลภัทรรับเลี้ยงดู แต่พลภัทรไม่ได้คิดจริงจังกับเธอเขาจึงส่งเธอไปให้ฆาตกร เดือนเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติในตัวอุ๋มและรู้ว่าวิญญาณของปลายรุ้งเข้าครอบงำอุ๋มอย่างเต็มตัว เดือนพยายามบอกพลภัทร แต่พลภัทรไม่เชื่อ เดือนและพฤกษ์จึงขอให้ป้านวลช่วย จนสามารถเรียกและสะกดวิญญาณปลายรุ้งไว้ได้
ในขณะเดียวกันพฤกษ์ก็ได้หลักฐานสำคัญเป็นภาพวงจรปิดของปลายรุ้งในวันสุดท้ายที่เธอหายตัวไปและคนที่อยู่กับเธอวันนั้นก็คือพลภัทร พฤกษ์เริ่มเห็นหนทางที่จะคลี่คลายคดีของปลายรุ้งเพราะมั่นใจว่าพลภัทรต้องมีส่วนรู้เห็นกับการหายไปของเธอแน่ แต่ยังไม่ทันที่พฤกษ์จะได้สอบปากคำ พลภัทรถูกลอบยิงจนเสียชีวิต
แม้การตายของวีณา และพลภัทรจะเป็นคดีที่พฤกษ์ไม่สามารถหาตัวคนร้ายได้ แต่อย่างน้อยเขาก็มั่นใจว่าคนที่ฆ่าสาคร วีณาและพลภัทรจะต้องเป็นคนคนเดียวกับคนที่ฆ่าปลายรุ้ง พฤกษ์พยายามขบคิดหาสาเหตุว่าทำไมวิญญาณของปลายรุ้งจึงสิงสถิตอยู่ที่คอนโด เดือนจึงเล่าให้ฟังว่าครั้งนึงเธอเคยฝันว่าถูกกระชากลงไปในสระน้ำและหลังจากนั้นมาก็มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นกับเธอบ่อย ๆ พฤกษ์และเดือนจึงสันนิษฐานว่าปลายรุ้งอาจจะถูกฆ่าที่คอนโดแห่งนี้และข้อสันนิษฐานก็เป็นความจริงเมื่อตำรวจพบซากศพของปลายรุ้งถูกซ่อนอยู่ใต้สระว่ายน้ำของคอนโดแต่การพบซากศพของปลายรุ้งกลับก่อปัญหา เพราะทำให้วิญญาณของเธอกลับมาด้วยความแค้น และมีอำนาจมากขึ้น ปลายรุ้งกลับมาฆ่าป้านวล และอุ๋มอย่างโหดเหี้ยม และจะตามฆ่าพฤกษ์กับเดือนด้วย พฤกษ์จึงพาเดือนไปพักอยู่กับเขาที่บ้าน

เชิดชาย เป็นผู้จัดการคอนโดที่มีจิตวิปริตชอบแอบบันทึกภาพสาวๆในคอนโด เชิดชายหลงรักเดือนและเคยแอบใส่ยาปลุกเซ็กส์ในขนมแล้วหลอกให้เดือนกินเพื่อจะขืนใจ แต่เป็นโชคดีของเดือนที่วิญญาณปลายรุ้งเข้าสิงเธอและเล่นงานเชิดชายจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด นับแต่นั้นมาเชิดชายจึงไม่กล้าเข้าใกล้เดือนอีกต่อไป
เชิดชายมักจะเอาเทปบันทึกภาพวงจรปิดเก่าๆมานั่งดูเพื่อหาภาพหลุดโป๊ ๆ ของหญิงสาวในคอนโด และเขาก็พบกับภาพของปลายรุ้งที่ถูกชายคนหนึ่งอุ้มออกมาจากห้องพักห้องหนึ่งในสภาพหมดสติ เชิดชายจึงคิดวางแผนเรียกเงินเพื่อแบล๊คเมล์ชายเจ้าของห้องและชายคนนั้นก็คือ ปรเมศก์
ปรเมศก์เป็นเพื่อนตำรวจรุ่นเดียวกับพฤกษ์แต่อยู่หน่วยปราบปรามยาเสพติดและติดยาเสพติดอย่างหนัก ปรเมศก์รู้จักกับสาครและสาครเป็นเพื่อนกับพลภัทร เมื่อปรเมศก์รู้ว่าพลภัทรต้องการเขี่ยปลายรุ้งทิ้งเขาจึงอาสาจัดการให้ แต่เมื่อพฤกษ์เข้ามาติดตามสาครและพลภัทร ปรเมศก์กลัวว่าตัวเองจะเดือนร้อน เขาจึงจัดการเก็บทั้งสาครและพลภัทรเพื่อฆ่าปิดปาก ดังนั้นเมื่อเชิดชายโทรหาปรเมศก์เพื่อแบล๊คเมล์ ปรเมศจึงซ้อนแผนและฆ่าเชิดชายทิ้ง แต่ปรเมศก์กลับหาซีดีวงจรปิดไม่เจอ
เชิดชายทิ้งซีดีไว้ที่ห้องของเดือน พฤกษ์และเดือนมาเจอแต่ไม่รู้ว่าเป็นซีดีอะไร จึงเอาซีดีให้ปองชัยไปดู ปรเมศก์เห็นซีดีอยู่กับปองชัย จึงหลอกปองชัยไปฆ่าทิ้ง
พฤกษ์เสียใจมากกับการตายของปองชัย เขาลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่การตาย ของสาคร วีณา พลภัทร และปองชัย ล้วนแต่มีปรเมศก์มาเกี่ยวข้องทั้งสิ้น พฤกษ์มั่นใจว่าปรเมศก์ต้องเป็นฆาตกร พฤกษ์จึงรายงาน ผู้กำกับครรชิต ซึ่งเป็นหัวหน้าของเขา เพื่อขอดำเนินการควบคุมตัวปรเมศก์ไว้ก่อนในขั้นแรก แท้จริงแล้วผู้กำกับครรชิตคือฆาตกรที่ฆ่าปลายรุ้งครรชิตมีรสนิยมชอบเซ็กส์กับเด็กสาวและเป็นซาดิสม์ ปรเมศก์มักจะล่อลวงพาเด็กสาว ๆมาให้ครรชิตขืนใจแล้วถ่ายวีดีโอเก็บไว้ เช่นเดียวกับปลายรุ้งที่ถูกมอมยาและขืนใจอย่างอำมหิตเพราะครรชิตเอาถุงคลุมหัวเธอไว้และพลั้งเผลอบีบคอเธอตายอย่างไม่ตั้งใจ ครรชิตสั่งให้ปรเมศก์ฆ่าพฤกษ์ และครรชิตก็ตามมาเก็บปรเมศก์อีกที โดยหารู้ไม่ว่าพฤกษ์ยังไม่ตาย ในขณะเดียวกันวิญญาณของปลายรุ้ง ก็ลำดับเรื่องและเห็นภาพเหตุการณ์จนรู้ว่าครรชิตเป็นคนฆ่าเธอ ปลายรุ้งหาทางจะฆ่าครรชิตเพื่อให้สาสมกับความแค้น เดือนพยายามหาทางหยุดความแค้นของปลายรุ้ง เพราะก่อนป้านวลตาย บอกว่าเดือนเป็นเพียงคนเดียวที่จะจัดการกับปลายรุ้งได้ เดือนเรียกวิญญาณปลายรุ้งมาเพื่อจะสะกดวิญญาณไว้ แต่กลับพ่ายแพ้อำนาจของปลายรุ้ง ทำให้เธอถูกปลายรุ้งครอบงำอีกครั้ง วิ


ญญาณปลายรุ้งในร่างของเดือน หลอกล่อผู้กำกับครรชิตมาได้ ปลายรุ้งทรมานครรชิต เหมือนที่ครรชิตเคยทำกับเธอ และฆ่าครรชิตตายอย่างโหดเหี้ยม เมื่อพฤกษ์กลับมาหาเดือนที่บ้าน ก็พบว่าเดือนถูกวิญญาณปลายรุ้งสะกดไว้ ปลายรุ้งบังคับให้เธอฆ่าพฤกษ์ เดือนยิงพฤกษ์ด้วยน้ำตา เดือนพยายามฝืนอำนาจของปลายรุ้ง จนสามารถจัดการกับวิญญาณของปลายรุ้งได้ เดือนร้องไห้เพราะคิดว่าพฤกษ์ตายด้วยน้ำมือของเธอ แต่พฤกษ์ก็ลืมตาขึ้นมากอดเดือน พร้อมกับบอกว่า เขาไม่มีวันทิ้งเธอไปง่ายๆ พร้อมทั้งขอเธอแต่งงาน ทั้งสองกอดกันอย่างมีความสุข

เรื่องย่อ: ดงผู้ดี



เด็กหญิง ขม (ณฐพร เตมีรักษ์) วัย 10 ขวบเติบโตขึ้นมาโดยไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อ รู้เพียงแต่ว่ามีแม่ชื่อ แข (จริยา แอนโฟเน่) ซึ่งจำเรื่องราวอะไรที่เกิดขึ้นในชีวิตก่อนหน้านี้ไม่ได้เลยแม่รู้เพียงแต่ว่าตัวเองชื่อแข
และมีลูกชื่อขมอย่างอื่นจำไม่ได้ รวมทั้งจำไม่ได้ว่าทำไมหลังแม่จึงบาดเจ็บจนกลายเป็นคนหลังค่อมแม่ลูกได้รับการอุปการะจากคุณครูสมพร คุณครูผู้ใจดีมีฐานะเป็นครูใหญ่และเจ้าของโรงเรียนสมพรอนุกูลแล้ววันหนึ่งขมก็ได้เจอพ่อเมื่อครูสมพรจัดงานวันเกิดให้พี่ชายคือท่านข้าหลวงสมศักดิ์ พิทักษ์เขต แล้วใครคนหนึ่งก็เข้ามาหาแม่เรียกแม่ว่า “แข” แม่จำเขาได้และบอกขมว่าจำได้แล้วว่าใครเป็นพ่อขม แม่ฝากขมไว้กับเขาคนนั้นและแม่ก็สิ้นลม


เมื่อจัดงานศพแม่เสร็จ “เขา” ซึ่งขมเข้าใจว่าเป็นพ่อ บอกกับใครๆว่าชื่อ“พิทย์ รุ้งพลาย” (ธนากร โปษยานนท์)พิทย์พาขมเข้ากรุงเทพฯและนำขมไปฝากไว้กับเพื่อนเก่าชื่อ รังสรรค์ รัตนเดชากร (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) ให้เลี้ยงดูแลให้การศึกษาเสมอด้วยลูกสาวสองคนของเขา คือ รติรสและพจนีย์ (ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง) รังสรรค์ข่มความโกรธและจำใจรับขมไว้ ขมอยู่ในบ้านอย่างไม่มีความสุขเพราะรังสรรค์และบุหงา ภรรยาใหม่ของเขาไม่ชอบหน้าสั่งให้ทำงานเสมือนเด็กรับใช้คนหนึ่ง ดีที่มีเพื่อนเล่นอย่างรัฐ และรัมภ์ พิชัยรณรงค์ สองพี่น้องหลานชายของคุณหญิงนรราชเสวี ที่อยู่บ้านติดกันจึงพอจะคลายเหงาไปบ้าง ฝ่ายพิทย์เดินทางไปต่างประเทศจะไม่มีข่าวคราวแต่พิทย์หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ชวาล สุรบดินทร์ ได้ฝากญาติผู้น้องคือ ชาติสยาม สุรบดินทร์ (กฤษฎา พรเวโรจน์) ให้ช่วยดูแลขมด้วย หากเขาเป็นอะไรไป


ไพลิน รัตนเดชา พี่สาวของรังสรรค์ เกิดสงสัยว่าขมเป็นลูกของใครเพราะหน้าตาเหมือนใครคนหนึ่งที่เธอรู้จักแต่คุณหญิงรัตน เดชากร ก็มั่นใจว่าขมเป็นลูกของ แขนภา นิติการ ซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวของขุนนิติการดำรงค์ ทนายประจำตระกูลรัตนเดชากร วันเวลาผ่านไปหลายปีจนเด็กหญิงขมโตเป็นสาวสวยเธอนับวันรอพ่อกลับมารับแต่ก็ไม่เคยเจอพ่อเลยแม้แต่ครั้งเดียว ภาสธร ลูกชายคนเดียวของคุณไพลินเพิ่งกลับมาจากอเมริกา ได้นำข่าวของพิทย์มาบอกว่าสบายดีไม่ต้องเป็นห่วงทำให้ขมรู้สึกสบายใจขึ้นแล้วในที่สุดชาติสยามก็เดินทางมาถึงเมืองไทย ชาติสยามได้บอกให้หม่อมเจ้าหญิงโสมวดี สุรบดินทร์ คุณแม่ของเขาทราบว่า ชวาลญาติผู้พี่ของเขาได้เสียชีวิตแล้วโดยได้เขียนพินัยกรรมยกทรัพย์สมบัติของเขาทั้งหมดให้กับขม


คุณหญิงรัตนเดชากรและคุณไพลินทั้งคู่มั่นใจว่าขมเป็นหลานสาวของตนเองและเป็นลูกของแขนภากับรังสรรค์จึงพยายามถามประวัติของพิทย์ รุ้งพลายจากชาติสยามจึงได้รู้ความจริงว่าชื่อจริงคือ ชวาล สุรบดินทร์เคยเป็นเพื่อนรักของรังสรรค์ซึ่งไปมาหาสู่กันเสมอแต่มาผิดใจกันเพราะรังสรรค์เข้าใจว่าชวาลเป็นชู้ของแขนภาภรรยาคนแรกซึ่งเป็นแม่ของรติรสด้วยประกอบกับช่วงนั้นรังสรรค์ไปถูกใจสาวคนใหม่ชื่อบุปผาพี่สาวของบุหงา จึงทำให้แขนภาตรอมใจและหนีหายออกจากบ้านไปโดยไม่มีข่าวคราว ทำให้ทุกคนเข้าใจว่าหนีตามชวาลไป เมื่อปะติดปะต่อเรื่องราวคุณหญิงรัตนเดชากรและไพลินเชื่อมั่นว่า ขมเป็นหลานของเธออย่างแน่นอนจึงขอร้องให้ชาติสยามติดต่อชวาลเพื่อมายืนยันความเป็นจริง ชาติสยามจึงเล่าให้ทั้งสองทราบว่าชวาลสียชีวิตแล้วแต่ได้ทิ้งเอกสารสำคัญไว้ให้เปิดดูตอนขมอายุ18ปี


เมื่อรังสรรค์รู้ความจริงว่าขมเป็นลูกของตนจึงรู้สึกสำนึกผิดและพยายามทำดีกับขม แต่ขมก็ไม่สามารถยอมรับได้ว่ารังสรรค์เป็นพ่อเพราะสิ่งที่รังสรรค์ได้ทำไว้กับขมนั้นเกิดจะให้อภัยได้ส่วนรัฐขอขมแต่งงานหลังเรียนจบ ขมเองแม้จะไม่ได้รักรัฐแต่ใจอยากจะไปจากบ้านก็เลยยอมตามใจรัฐ แต่สุดท้ายขมก็เปลี่ยนใจไม่แต่งงานกับรัฐ ส่วนชาติสยามกำหนดวันแต่งงานกับรุ้งกาญจน์หลังวันที่ขมเดินทางไปเรียนต่อแต่รัฐขอทำปริญญาโทในเมืองไทยเพราะเป็นห่วงคุณหญิงนรราชเสวี ขมได้เขียนจดหมายมาเล่าให้ฟังว่ารู้จักหนุ่มนักเรียนไทยชื่อปิยะ ปิติกุล มีความสนิทสนมกันมากและ ปิยะได้ขอหมั้นขมไว้ก่อน


คุณรังสรรค์ป่วยหนักเป็นมะเร็งที่ตับเขาขอร้องอยากจะพบหน้าขมก่อนตายขมยอมละทิฐิไปเยี่ยมพ่อเป็นครั้งสุดท้ายทำให้รังสรรค์ดีใจมากคุณรังสรรค์ตายอย่างสงบท่ามกลางความเสียใจของทุกคน รัฐกับรติรสก็คิดจะหมั้นกันไว้ก่อน หลังงานเผาของพ่อรุ้งกาญจน์เกิดอุบัติเหตุรถที่นั่งไปชนกับแท็กซี่อาการสาหัสมาก โดยก่อนสิ้นใจเธอได้ฝากขมให้ช่วยดูแลชาติสยามด้วยหลังจากรุ้งกาญจน์ตายไปชาติสยามก็พยามทำงานหนักเพื่อให้ลืมเรื่องราวต่างๆ ส่วนขมก็กลับไปเรียนต่อจนจบ หนึ่งปีผ่านไปเมื่อได้เจอหน้ากันอีกครั้ง ชาติสยามไม่ได้ตั้งความหวังใดๆเพราะคิดว่าขมจะหมั้นและแต่งงานกับปิยะแต่แล้วขมก็ปฎิเสธปิยะไปทำให้ชาติสยามมีความหวังอีกครั้งจึงขอขมแต่งงานซึ่งขมไม่ปฎิเสธเพราะในใจนั้นรักและเทิดทูนอาชาติสยามมาตลอด


บทประพันธ์ : -บทโทรทัศน์ : -กำกับการแสดง : พงษ์พัฒน์ วชิระบรรจง

ออกอากาศทุกวัน : ศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3

นักแสดงฉัตรชัย เปล่งพานิช รับบทเป็น รังสรรค์ รัตนเดชากร : ชายวัย 40 ต้นๆ เมื่อเริ่มเรื่อง เป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลเก่าแก่ ที่มั่งคั่ง จึงถูกเลี้ยงดูมาอย่างค่อนข้าง จะเอาความคิด และอารมณ์ตัวเองเป็นใหญ่ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เต็มไม้เต็มมือนัก เพราะยังมีแม่( คุณหญิงรัตนเดชากร – คุณจารุวรรณ ปัญโญภาส )และพี่สาว ( คุณไพลิน – คุณชลิดา เถาว์ชาลี ตันติพิภพ ) คอยทัดทานเสมอ เป็นคนอารมณ์ร้อน และเชื่อมั่นว่าความคิด การตัดสินใจของตัวเองถูกต้องเสมอ ไม่ยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และพร้อมจะโยนให้เป็นความผิดของคนอื่น


จริยา แอนโฟเน รับบทเป็น แขนภา นิติการ : ลูกสาวขุนนิติการดำรง ทนายความประจำตระกูล รัตนเดชากร เมื่อพ่อตายคุณหญิงรัตนเดชากรจึงนำมาเลี้ยงดูเป็นลูกบุญธรรม เธอสวยงามหมดจดทั้งกายและใจ อ่อนหวาน มารยาทงามเยี่ยงหญิงไทยที่ได้รับการอบรมมาอย่างดี การศึกษาไม่ใช่ขี้ๆ อ่านออกเขียนได้แตกฉานประมาณนึง เป็นที่รักของคนในบ้านพุทธชาด รวมทั้งรังสรรค์ซึ่งรักอย่างโงหัวไม่ขึ้น แขนภาเองก็รักรังสรรค์อย่างมอบ หัวใจ และความภักดีให้ทั้งหมด จนกระทั่งมีลูกคนแรกด้วยกัน( รติรส )

แต่จู่ๆ ความหวัง ความฝัน ก็ต้องพังทลายเพราะรัง ณฐพร เตมีรักษ์ รับบทเป็น ขม รุ้งพราย : เริ่มเรื่องอายุ 10-11 ขวบ เป็นเด็กกำพร้าพ่อ อยู่กับแม่อย่างรอคอยความหวังว่าซักวัน จะได้รู้ชาติกำเนินตัวเอง เพราะรู้สึกต่ำต้อยที่ตัวเองไม่มีพ่อเหมือนคนอื่น แต่คนที่อยู่รายล้อม พร่ำสอนอบรมอย่างดีเสมอ ขมจึงมีพื้นฐานจิตใจที่อ่อนโยน แต่แข็งแกร่ง ต่อต้านความไม่ยุติธรรมและการเอารัดเอาเปรียบ หรือแม้แต่ความเหลื่อมล้ำ ทางฐานะและสภาพในสังคม เมื่อแม่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ ชีวิตทั้งชีวิตขมจึงฝากไว้กับพ่อ (พิทย์ รุ้งพราย ) แต่ความสุขแสนสั้น เพราะพ่อต้องพาขมไปฝากไว้ทีเพือนเก่า


กฤษฎา พรเวโรจน์ รับบทเป็น ชาติสยาม สุรบดินทร์ : หนุ่มไม่น้อยไม่ใหญ่ วัยสามสิบต้นๆ นักเรียนเก่งอังกฤษ กิริยามารยาทจึงสง่าผ่าเผย เป็นสุภาพบุรุษทุกกระเบียดนิ้ว ไม่มีตกหล่น อ่อนโยน เก็บอารมณ์ได้เป็นอย่างดี มองโลกในแง่ดีเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเหตุผลและคุณธรรมนำทาง ใส่ใจในทุกรายละเอียดของการดำเนินชีวิต และความรู้สึกของคนรอบตัว แต่ไม่ใช่ผู้ชายอ่อนไหว ชาติสยามรับราชการในกระทรวงการต่างประเทศ อนาคตไกล พื้นฐานครอบครัวเป็นตระกูลเก่า ที่ทำคุณเอนกอนันต์ต่อประเทศชาติ ความองอาจภาคภูมิใจจึงออกมาทุกลมหายใจ


ธนากร โปษยานนท์ รับบทเป็น ชวาล (พิทย์ รุ้งพราย ) : เพื่อนรักเพื่อนสนิทของรังสรรค์ เรียนหนังสือมาด้วยกันตั้งแต่เด็กๆ จนเป็นหนุ่มก็ยังรักและผูกพันไว้ใจเพื่อนจนร่วมลงทุนทำธุรกิจด้วยกัน ชวาลเป็นผู้ดีอย่างยิ่งยวด สุภาพอ่อนโยน และให้เกียรติทุกคน จนดูเหมือนถ่อมตัวเอง ยกย่องคนอื่นให้สูงกว่าตนเสมอ จริงใจไม่มีเลห์กล หรือหวังผลประโยชน์ ใดๆ จากใคร ทำอะไรจะทุ่มเทสุดตัวสุดกำลัง ชวาลเป็นผู้ชายโรแมนติกมาก แต่ก็เก็บซ้อนความรู้สึกมิดชิด แม้แต่เรื่องความรัก ความจริงเขาแอบหลงรักแขนภาตั้งแต่แรกพบ แต่ความที่สุภาพและอ่อนโยน


เ จารุวรรณ ปัญโญภาส รับบทเป็น คุณหญิงรัตนเดชากร : หญิงม่ายวัยหกสิบต้นๆ สามีจากไปนานมากแล้ว ดูแลลูกหลานในฐานะประมุขของบ้านด้วยความเมตตาปราณี เที่ยงธรรมและเหตุผล ชีวิตสงบนิ่งเพราะใช้ธรรมะนำทาง เฝ้ามองความเป็นไปทุกอย่างด้วยความสุขุม แต่ถ้าถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจอะไรก็เฉียบคม เด็ดขาดมีอำนาจในตัวเอง จนใครหน้าไหนก็ต้องเกรง ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง เพราะให้เกียรติมนุษย์ทุกคนเสมอกัน (ผู้ดีโดยแท้) เกียรติยศและศักดิ์ศรีอยู่ในความคิดจิตใจ ไม่ต้องปั้นแต่ง บารมีจึงฉายแสงออกมาด้วยตัวของมันเอง จากทุกท่วงท่า


คุณหญิงรับเ ชลิดา เถาว์ชาลี ตันติพิภพ รับบทเป็น ไพลิน รัตนเดชากร : วัยสี่สิบต้นๆ แก่กว่ารังสรรค์สองปี พี่สาวรังสรรค์..คุณไพลินใกล้ชิดคุณหญิงมาก จนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีครอบครัว ครองตัวเป็นโสด ไม่ใช่เพราะไม่ปรารถนาความรัก แต่เพราะเธอเลือกที่จะใช้เวลาทั้งหมดดูแลแม่อย่างใกล้ชิด และจากการได้เห็น ตัวอย่างความล้มเหลว ของครอบครัวรังสรรค์ เห็นความโลเลของจิตใจผู้ชาย เธอจึงเข็ดขยาด และปวารณาตัวเองว่าจะไม่ขอแบกความทุกข์จากการมีความรัก สงบนิ่ง คิดและทำมากกว่าพูด แต่ถ้าได้พูด คำเดียวก็สยบมารได้เหมือนกัน เป็นหูเป็นตาแทนคุณหญิงได้ทุกเรื่อ ง


มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล รับบทเป็น บุหงา รัตนเดชากร : เมียคนล่าสุดของรังสรรค์ อายุน่าจะเฉียดสามสิบ ใกล้วัยสาวสะพรั้งโรยรา เธอจึงต้องพิถีพิถันกับการฉาบปรุงโฉมตัวเองให้ดูดีอยู่ตลอดเวลา ยิ่งเด็กๆ หลานๆมันเติบโต ความสาวไล่ขึ้นมาเปรียบเทียบ เธอยิ่งรู้สึกบาดใจรับไม่ได้ บุหงาเป็นน้องสาวเมียเก่ารังสรรค์ เธอตัดสินใจแต่งงานกับรังสรรค์ไม่ใช่ด้วยความรักแต่เพราะเงิน เธอรู้ดีว่ารัตนเดชากรล่ำซำประมาณนึง แล้วเรื่องอะไรจะปล่อยให้สิทธิอันพึงมีพึงได้จากพี่สาวตัวเองสูญเปล่าไปเฉยๆ ประกอบกับรถไฟขบวนสุดท้ายมาแล้วเรื่องอะไรเธอจะไม่กระโดดเข้าใส่


ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง รับบทเป็น พจนีย์ รัตนเดชากร : ลูกสาวคนเล็กของคุณรังสรรค์ เกิดมาอย่างได้รับการประคบประหงม เอาอกเอาใจ จากคนรอบๆตัว ในฐานะลูกคนเล็ก พจนีย์จึงได้ทุกอย่างที่อยากได้จนเคยตัว หัวอ่อนจนพร้อมจะซึมซับทุกอย่างที่ผู้ใหญ่ป้อนข้อมูลสั่งสอน อารมณ์ชัดเจน รู้สึกอย่างไร ก็แสดงออกมาอย่างนั้น ไม่ใช่คนขี้อิจฉา แต่เธอปกป้องสิทธิ์ ที่กำลังจะสูญเสียไปของเธอมากกว่า รักความสบายเพราะตั้งแต่เล็กก็ไม่ต้องทำอะไรเอง ความอดทน พากเพียร บากบั่น เพื่อความสำเร็จจึงน้อยกว่าใครๆ คิดตื้นๆ ง่ายๆ และยึดติดกับตัวกูของกู

เรื่องย่อ: ดิน น้ำ ลม ไฟ




สิงห์และปานศักดิ์ เป็นเพื่อนรักกัน สิงห์มีลูกชายชื่อดิน และปานศักดิ์ มีลูกสาวชื่อ นิอรทั้งสองครอบครัวสนิทกันมาก จนครอบครัวของสิงห์ต้องย้ายไปยังชนบทเพื่อไปรับมรดกเป็นที่ดินที่ป่าเขาสมิง
ขณะที่ปานศักดิ์เข้าแก๊งเฮโรอีนของเฮียวิทย์และโดนตามล่า หนีขึ้นรถของสิงห์พร้อมลูกสาว เมื่อไปเห็นที่ดินป่าเขาสมิงก็พอใจ โทรหาเฮียวิทย์ให้ซื้อเป็นที่ตั้งโรงงานเฮโรอีน แต่เมื่อสิงห์ไม่ขายปานศักดิ์จึงยิงทิ้ง ส่วนดินกระโดดหน้าผาหนี และนิอรนั้นถูกเหวี่ยงศีรษะกระแทกจนจำความไม่ได้




15 ปีต่อมา ปานศักดิ์เป็นมาเฟียของวงการยาเสพติดฐานะดี ส่วนดินก็ไปขออยู่วัดกับหลวงพ่อไฟ ร้อยเอกหนุ่มจบใหม่จากอังกฤษ พ่อของเขาตายเพราะถูกใส่ร้ายว่าค้ายา ส่วนตัวเขาก็ถูกบีบให้ออกจากตำรวจ จนผู้พันแสวง หัวหน้าหน่วยสืบราชการลับติดต่อให้มาร่วมทีม เขาคือไฟ เมื่ออยู่ในแก๊งไลออน และเป็นอัคคีเมื่ออยู่ในหน่วยสืบราชการลับ ไฟถูกส่งไปเป็นนักโทษในคุกเพื่อทำให้ซิตี๋ ลูกน้องของปานศักดิ์สนใจ ขณะเดียวกัน นรากร สมาชิกแก๊งไลออนก็ถูกส่งเข้ามาเป็นสายในหน่วยสืบราชการลับเหมือนกัน แต่เมื่อนรากรอยู่ที่บาร์อเมริกันของปานศักดิ์จะใช้ชื่อว่า โรซี่ดินถูกใส่ร้ายและเข้าไปอยู่ในคุกเช่นกัน ไฟพยายามหาเรื่องชกต่อยกับขาใหญ่ และดินเข้าช่วยเสมอ ซิตี๋เห็นเหตุการณ์ และชวนดินกับไฟเข้ามาร่วมแก๊ง โดยแหกคุกหนีออกไปด้วยกันในแก๊งไลออน ไฟถูกมอบหมายให้ดูแลงานส่วนบาร์อเมริกัน ดินได้ดูแลวงการมวย และไฟก็พาดินไปพบผู้พันแสวงเพื่อเป็นสายสืบเพื่อชาติด้วยกันนิอรเห็นดินก็รู้สึกถูกชะตาแต่จำไม่ได้ ดินน้อยใจคิดว่านิอรลืมเขา จึงทำเป็นไม่สนใจนิอรเมื่อไฟไปส่งข่าว




ในหน่วยสืบราชการลับเขาจะเป็น อัคคี ที่เหมือนหนอนหนังสือ ทำให้นรากรไม่ชอบหน้า แต่เมื่อมีเรื่องนรากรก็ช่วยอัคคีตลอด จนเขาชอบนรากร แต่นรากรกลับชอบไฟ ในแก๊งไลออน!! โทนี่มาเป็นที่ปรึกษาให้ปานศักดิ์ ทำให้ซิตี๋ไม่พอใจที่ถูกแย่งความสำคัญ ซ้ำโทนี่ยังลักลอบเป็นชู้กับแฟนซิตี๋โดยที่ซิตี๋ไม่รู้เรื่องเชาว์ เมืองชล ได้รับมอบหมายให้ไปเก็บรัฐมนตรีสุชล ไฟได้ยินจึงรีบรายงานหน่วย นรากรจึงรู้ทันทีและรายงานซิตี๋ว่าแก๊งไลออนมีหนอนบ่อนไส้ ที่แก๊งจึงจับตามองทุกคน และซ้อนแผนสังหาร โดยให้นิกกี้แฟนซิตี๋เป็นคนฆ่ารัฐมนตรี แผนสำเร็จเรียบร้อย แต่ปานศักดิ์และซิตี๋ก็ขัดแย้งกันมากขึ้นเมื่อนิกกี้ย้ายไปอยู่กับโทนี่ ดินดูแลวงการมวยก็รู้จักครูแก่ เจ้าของค่ายมวย มีลูกสาวชื่อน้ำ ปานศักดิ์ต้องการล้มมวยจึงไปติดต่อนรสิงห์ นักมวยค่ายตรงข้าม โดยแลกกับการแต่งงานกับนิอร ลูกสาว เมื่อครูแก่รู้ก็โกรธ นรสิงห์จึงฆ่าครูแก่ แล้วป้ายความผิดให้ปานศักดิ์ น้ำแค้นปานศักดิ์ที่ฆ่าพ่อของตนจะเข้าไปถล่ม แต่ดินห้ามไว้แล้วชวนมาเป็นสายสืบ น้ำจึงตกลง และได้ปลอมตัวไปทำงานที่บาร์ของปานศักดิ์ จนกระทั่งซิตี๋ติดใจในความสวยและยั่วยวนเก่งของน้ำ น้ำจึงปั่นหัวให้ซิตี๋กับปานศักดิ์เกิดรอยร้าวกันในใจ




ลม จับกังแถวเยาวราช แอบซ่องสุมพรรคพวกวางแผนก่อกวนการเก็บค่าคุ้มครอง เพราะไม่ชอบ ชาวบ้านเห็นด้วยมากๆ และผู้พันแสวงก็ชวนลมเป็นสายสืบในที่สุดนรสิงห์มาทวงสัญญาแต่งงานกับปานศักดิ์ ปานศักดิ์จะซ้อนแผนจัดการสิงห์ แต่ดินกลับพานิอรหนีไปในวันงาน ปานศักดิ์จึงโกรธและให้นรสิงห์ตามตัวกลับมา ส่วนดินนั้นพานิอรหนีมาเยาวราชโดยลมช่วยเหลือ จู่ๆ ผู้พันแสวงก็ถูกลอบสังหาร หน่วยสืบราชการลับจึงต้องยุบ ไฟโดนจับได้ว่าเป็นสายลับ และหนีไปเยาวราช น้ำเองก็หนีมาเยาวราชเช่นกัน หลังจากที่ซิตี๋โดนนิกกี้ลวงไปฆ่า นิอรอยู่ที่บ้านเยาวราช เธอรู้สึกอุ่นใจและความทรงจำบางอย่างกลับมา เธอได้ยินว่าเขาจะฆ่าปานศักดิ์จึงหนีกลับไปที่บ้านของตนนรากรรู้ความจริงว่าพ่อแท้ๆของเธอถูกแก๊งยาเสพติดฆ่า จึงตัดสินใจช่วยไฟ แต่กลับต้องตายพร้อมโทนี่




ส่วนนรสิงห์นั้นมาเจอกับดินและน้ำที่โรงงานเฮโรอีน เกิดการต่อสู้และน้ำก็ใช้มีดแทงนรสิงห์ดินไปหาปานศักดิ์ และบอกว่าเขาคือลูกของสิงห์ ปานศักดิ์จำได้แต่ไม่คิดว่าดินจะฆ่าเขา ก่อนที่ดินจะยิง นิอรมาขวางพร้อมร้องขอชีวิตพ่อ ปานศักดิ์ได้โอกาสยิงดิน แต่ก่อนที่จะยิงซ้ำ ไฟก็นำกำลังตำรวจเข้ามาโรงงานนรกจึงปิดฉากลงพร้อม เหล่าวีรบุรุษทั้งสี่ก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของการทำเพื่อสังคม






บทประพันธ์ : -บทโทรทัศน์ : -กำกับการแสดง : นนทรีย์ นิมิตบุตรออก




อากาศทุกวัน : ศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3


นักแสดง


ชาคริต แย้มนาม รับบทเป็น ไฟ /อัคคี -นายร้อยตำรวจไฟแรง รักความถูกต้อง ตรงไปตรงมา ปฏิบัติตามกฏเกณฑ์อย่างเคร่งครัด ด้วยอุปนิสัยอย่างนี้ทำให้เขาขัดแย้งกับเพื่อนๆ ร่วมอาชีพ จนถูกบังคับให้ลาออก แต่กลับไปเข้าตาเจ้านายใหม่คือผู้พันแสวงทำให้ได้รับโอกาสได้ทำงานเพื่อประเทศชาติ ไฟ ต้องปลอมตัวได้หลายคาแร็คเตอร์ บางครั้งปลอมเป็นคนบ้าเพื่อสืบความลับบางอย่าง / ทำตัวเป็นหนอนหนังสือแว่นหนา เชยๆ ขณะเข้ามาทำงานกับแสวง / ทำตัวเป็นมือปืนหนุ่มเซอร์ดิบ เถื่อน เมื่ออยู่กับปานศักดิ์ แต่อุปนิสัยเด่นของเข อัครา อมาตยกุล รับบทเป็น ดิน --เป็นเด็กกำพร้า


พ่อถูกเพื่อนสนิทฆ่าตาย ดินจึงเติบโตขึ้นมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ชีวิตของดินหลงรักผู้หญิงเพียงคนเดียวคือนิอร และก็เข้าใจตลอดว่าสัญญาในวัยเด็กที่เคยให้ไว้กับนิอรจะยังคงเป็นไปตามเดิม ด้วยเหตุนี้ทำให้ดิน ยึดมั่นถือมั่น ไม่เคยปล่อยวางในเรื่องที่ฝังใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือเรื่องของการแก้แค้นคนที่ฆ่าพ่อของตน อุปนิสัยโดยทั่วไป ดินเป็นคนพูดน้อย เจียมตัว แต่ถ้าถูกก้าวร้าว เขาก็จะสู้ยิบตา ปูมหลังในวัยเด็กทำให้ดินค่อนข้างเก็บกด เจ้าคิดเจ้าแค้น แ มาวิน ทวีผล รับบทเป็น ลม / อาฟง --


จับกังธรรมดาๆ แต่ชะตาชีวิตพลิกผันเนื่องจากมักจะโดนรังแกจากพวกอันธพาลอยู่บ่อยๆ การเลี้ยงชีพอยู่ในย่านธุรกิจทำให้ลมพบเห็นความไม่เป็นธรรมที่คนหาเช้ากินค่ำต้องถูกผู้มีอิทธิพลรังแก และฟางเส้นสุดท้ายก็คือแฟนที่เขารักถูกย่ำยีจากพวกนักเลง ทุกอย่างผลักดันให้เขาก่อตั้งขบวนการลับที่คอยกำจัดผู้มีอิทธิพล และแนวคิดเช่นนี้ทำให้เกิดการรวมตัวจากเพื่อนๆ ที่มีชะตากรรมเดียวกัน โดยมีคณะงิ้วบังหน้า ลมเป็นคนมีเสน่ห์ ถูกใจสาวๆ เขาชอบคิดว่าเขาเป็นคนมีคารมดี มีมุขเด็ด ทำให้มี รัชวิน วงศ์วิริยะ รับบทเป็น น้ำ --


น้ำเป็นลูกสาวเจ้าของค่ายมวย แต่ลักษณะนิสัยเข้มแข็ง ไม่อ่อนหวาน แต่ก็ไม่กระด้าง มีความกล้าบ้าบิ่นในยามโกรธ และสามารถนิ่งเฉยในเหมือนเสือร้ายรอเหยื่อมาติดกับดัก มีความสามารถเฉพาะตัวในศิลปะป้องกันตัวโดยเฉพาะมวยไทย ยิงปืน ในช่วงแรก จะเป็นเด็กสาวใส ๆ มีลักษณะแบบทอมบอยเล็กน้อย คือมีความเป็นผู้หญิงแต่ลักษณะการพูดจาจะโผงผาง ไม่อ่อนหวานนัก เนื่องจากน้ำโตมากับแวดวงนักมวย แต่เมื่อรู้ว่าพ่อตายเพราะถูกฆ่าทำให้เธอเต็มไปด้วยความแค้น ในช่วงหลังของเรื่อง น้ำสืบหาจิตตาภา แจ่มปฐม รับบทเป็น นรากร --


หญิงสาว สวย แต่เต็มไปด้วยพิษสง เธอถูกฝึกขึ้นมาเป็นนักฆ่าตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้มีจิตใจที่แข็งกร้าว ร้ายกาจ เธอเป็นเด็กที่เชาว์ เมืองชล เก็บมาเลี้ยง เชาว์ ปลูกฝังความคิดด้านลบให้กับนรากรจนทำให้เธอ กลายเป็นหนึ่งในแกงค์ของปานศักดิ์ ปานศักดิ์ส่งนรากรเรียนจนจบการศึกษาจากญี่ปุ่นและเชี่ยวชาญการต่อสู้จากญี่ปุ่น เมื่อจบออกมาปานศักดิ์ก็ฝากเข้าทำงานในกรมตำรวจเพื่อคอยเป็นสายรายงานให้แกงค์ไลอ้อน นรากรหลงรักไฟ ขณะเดียวกันก็ต้องมาทำงานร่วมกับอัคคี โดยหารู้ไม่ว่า รินลนี ศรีเพ็ญ รับบทเป็น นิอร --


หญิงสาวสวย บริสุทธิ์ เติบโตขึ้นมากับความทรงจำในอดีตที่ลบเลือน ไม่มีรอยต่อใดๆ ให้กลับไปรื้อฟื้นความทรงจำเก่าๆ เธอจึงจำดินไม่ได้ ทำให้ดินเข้าใจผิดคิดว่าเธอไม่ต่างอะไรกับปานศักดิ์ผู้เป็นพ่อ นิอรใช้ชีวิตหรูหรา เป็นดาราที่มีคนห้อมล้อมเอาใจ เธอจึงมีนิสัยแบบคุณหนูที่ชอบเอาแต่ใจตัวเอง จนบางครั้งดูเหมือนกับว่าเธอลืมนึกถึงความรู้สึกของคนอื่น และเช่นเดียวกับลูกผู้มีอิทธิพลทั่วไป นิอรจะไม่เคยรับรู้ความไม่ดีของพ่อตัวเอง เธอเข้าใจเพียงว่าพ่อของเธอทำงานสุจริต

เรื่องย่อ: หยกลายเมฆ



ทริยา เอกธำรงวรกุล บุตรสาวคนโตของ คุณชูวิทย์ และคุณ จันทนา นักธุรกิจอัญมณีชื่อดัง ทริยา เป็นหญิงสาวสวย รูปร่างสมส่วน เป็นคนจริงจังและไม่ยอมใคร
ส่วน จีรนันท์ น้องสาวคนเดียวของเธอนั้น แตกต่างจากทริยาทั้งรูปร่างหน้าตา นิสัยใจคอ แต่ก็ไม่ทำให้ความรักระหว่างพี่น้องต้องเปลี่ยนแปลง ทริยารักและปกป้องน้องสาวคนนี้เสมอมาทริยา มี โสภณ เป็นคนรัก และมีโครงการจะแต่งงานกัน แต่ทั้งทริยาและโสภณต่างก็ดูไม่ออกว่า จีรนันท์แอบหลงรักว่าที่พี่เขย แต่เธอก็ไม่ต้องการแย่งชิงคนรักของพี่สาว วันหนึ่ง ชูวิทย์ สั่งให้ ทริยา เดินทางไปฮ่องกงเพื่อพบกับ ฮุ่ยซัน มารดาบังเกิดเกล้าของเธอ ที่กำลังป่วยเป็นโรคมะเร็ง ทริยา รู้สึกสับสนมากแต่ก็ยินยอมเดินทางไปแต่โดยดี แม้จะยังไม่รู้หนทางข้างหน้าจะเป็นเช่นไร มีเพียงหยกลายเมฆสมบัติที่มารดามอบไว้ให้บิดาเธอเท่านั้นเป็นเพื่อนเดินทางที่สนามบินฮ่องกง ทริยา ได้พบกับ มีมี่ น้องสาวของแม่เธอ มีมี่กอดหลานด้วยความรักและคิดถึง และรีบพาทริยาไปโรงพยาบาลทันที ทริยาโผเข้ากอดมารดา จากนั้นฮุ่ยซันก็สิ้นลมในเวลาต่อมา ทริยาจึงต้องอยู่จัดการศพของมารดาให้เรียบร้อยก่อน และได้มีโอกาสความรู้จักกับครอบครัวของมารดาที่ฮ่องกง


เถ้าแก่หลอ คือคุณตาของเธอ เจ้าพ่อธุรกิจที่ยิ่งใหญ่แห่งเกาะฮ่องกง มีมี่มีคนรักอยู่แล้วคือ คังจิน แต่เถ้าแก่หลอไม่เห็นด้วยหากมีมี่จะลงเอยกับคังจินจึงต้องคบกับคังจินไปเรื่อยๆโดยไม่มีการแต่งงาน น้าจิงจิง น้องสาวคนถัดจากมารดาของเธอ เป็นคนขี้อิจฉาและหวังจะครอบครองธุรกิจทั้งหมดแทนพี่สาว จิงจิงแต่งงานใหม่กับ หม่าเจา พ่อหม้ายลูกติดคือ ปีเตอร์ ซึ่งมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับทริยา ปีเตอร์เป็นคนที่มีความทะเยอทะยานและหัวสูง คุณจาง ซึ่งเป็นอดีตคนรักเก่าของมารดา ทันที่ที่ ทริยา เห็นหน้าคุณจาง เธอรู้สึกไม่ถูกชะตากับหนุ่มใหญ่คนนี้เลย เนื่องจากเขาคือศัตรูหัวใจของบิดาเธอ ด้านคุณจาง มีภรรยาที่พิการชื่อ ซู่หลิง ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทฮุ่ยซันอีกด้วย ปีเตอร์ มีแฟนสาวที่กำลังตั้งท้องอ่อนชื่อ เพ็กกี้ แต่เมื่อเขาได้พบกับ ทริยา เขากลับสนใจในรูปร่างหน้าตาและสมบัติของทริยา


ปีเตอร์เริ่มตามติดทริยาตลอดเวลา ทำให้ เพ็กกี้ เริ่มไม่พอใจจึงนำเรื่องไปปรึกษา พอล พี่ชายของเธอ ซึ่งเป็นนักออกแบบจิวเวลลี่หนุ่มฝีมือชั้นเยี่ยมของฮ่องกง พอลจึงคิดแผนการใก้ลชิดกับทริยา เพื่อกันไม่ให้ปีเตอร์มายุ่งกับทริยา ทำให้ แอนนา แฟนสาวของพอลไม่พอใจ ทางด้านทริยาเธอตั้งใจว่าเมื่อเสร็จงานศพเธอจะกลับเมืองไทยทันที แต่ มีมี่ คัดค้านไว้ เพราะเธอรู้ดีว่าเถ้าแก่หลอต้องการให้ทริยาเป็นผู้รับช่วงต่อจากฮุ่ยซัน ทริยาจึงมีปากเสียงกับเถ้าแก่หลอ จนเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดด่วน แต่เขาไม่ยอมรับการผ่าตัดหากทริยายังยืนยันจะกลับเมืองไทย ทำให้เธอไม่สามารถกลับเมืองไทยได้ทางด้านเมืองไทย จีรนันท์ เริ่มสนิดสนมกับ โสภณมากยิ่งขึ้น แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อจีรนันท์ต้องไปงานเลี้ยงกับโสภณ คืนนั้นโสภณเมาไม่ได้สติ และจีรนันท์ก็ตกเป็นของโสภณด้วยความเต็มใจ จีรนันท์เริ่มมีอาการแพ้ท้องจนไม่สามารถปิดบังได้อีก


โสภณยอมรับผิดชอบทุกอย่าง คุณชูวิทย์โทรศัพท์ทางไกลเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ ทริยาฟัง เธอตกใจมากและขอเวลาปรับสภาพจิตใจ เธอเล่าเรื่องทั้งหมดให้พอลฟัง เธอเริ่มค้นพบความรู้สึกที่แท้จริงว่าเธอรักพอลโดยไม่รู้ตัว เมื่อเหตุการณ์ผ่านไปทริยาได้รับเลือกให้เป็นผู้ออกแบบเพชรหยดน้ำทำเป็นเข็มกลัดถวายแด่พระมเหสีของเจ้าชายจากเมืองวาซีเลีย ต่อมามีงานใหญ่ประจำปีของบริษัทอัญมณียักษ์สองบริษัท ของคุณจางและเถ้าแก่หลอ ในงานทริยาบังเอิญได้เป็นนางแบบเดินอัญมณีชิ้นเด่นที่สุดในงาน ทำให้ได้รับเสียงปรมมือดังกึกก้อง ทำให้ได้รับการกล่าวถึงและยอดขายก็พุ่งพรวด คุณจางรู้สึกแค้นใจ จึงหาวิธีเล่นงาน โดยว่าจ้าง เจนนี่ พนังงานในบริษัทซึ่งเป็นคู่แข่งกับทริยาไปขโมยเข็มกลัดที่จะต้องถวายเจ้าชาย ทุกคนต่างก็พุ่งประเด็นไปที่คุณจาง มีมี่จึงตัดสินใจนำจดหมายที่ฮุ่ยซันทิ้งไว้ก่อนตายให้คุณจาง


แท้จริงแล้วทริยาคือบุตรสาวของเขา คุณจางรู้สึกตกใจมากแต่ในขณะเดียวกันก็ยินดีที่ได้ตัวบุตรสาวเพียงคนเดียว ซุ่หลิงเสียใจแทบคลั่งเธอสั่งให้ ลู่ไห่ น้องชายซึ่งเป็นอดีตนักเลงไปตามเก็บทริยา กระสุนนัดแรกโดนเข้าที่ไหล่ของทริยา ส่วนนัดที่สองพอลกระโดดรับกระสุนแทนต่อมาลู่ไห่ถูกจับ ส่วนซู่หลินตัดสินใจเลิกกับคุณจาง ทริยารู้สึกตัวเธอเห็นทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตา เธอให้อภัยแอนนา โสภณ และจีรนันท์ และด้วยเหตุนี้ทำให้เถ้าแก่หลอเห็นใจ มีมี่ และ คังจิน จึงให้ทั้งสองแต่งานกัน ทริยาไปเยี่ยมพอลที่โรงพยาบาล เขาอาการดีขึ้น ทั้งสองสวมกอดกัน และสัญญาว่าจะอยู่เคียงคู่กันตลอดไป มรสุมชีวิตได้ผ่านพ้นไป นับจากนี้เธอจะใช้ชีวิตเคียงคู่กับพอลชายหนุ่มคนเดียวที่เธอรักบนแผ่นดินแม่


บทประพันธ์ : -บทโทรทัศน์ : -กำกับการแสดง : โชติรัตน์ รักเริ่มวงษ์

ออกอากาศทุกวัน : จันทร์ - อังคาร เวลา 20.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3

นักแสดงพัชฏะ นามปาน รับบท พอล -- ชายหนุ่มวัยทำงาน เป็นคนฉลาด ทระนง และมีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก ทำงานเก่ง ใช้ชีวิตอย่างฉลาดเฉลียวในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือในการดำรงชีวิต พอลเป็นคนที่รักน้องสาวของตนเองมาก มากจนกระทั่งยอมวางแผนไปชอบทริยา เพื่อให้ปีเตอร์แฟนของน้องสาว ซึ่งตามจีบทริยาอยู่กลับมารักน้องสาวของตนดังเดิม ยอมทุ่มเททุกอย่างทุกเรื่องเพื่อน้องสาวของตนเอง เป็นคนรักเดียวใจเดียว และถ้ารู้สึกว่านี่ไม่ใช่ความรักก็จะบอกปฏิเสธไปเลยอย่างเด็ดขาด เป็นคนตรงไปตรงมา รักครอบครัว มีมุมที่โรแมนติกและละเอียดอ่อนใน


เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์ รับบท ทริยา (แคท) -- หญิงสาวสวย ผิวขาวนวลผ่อง ดวงตากลมโต บ่งบอกถึงความฉลาด เข้มแข็ง และอดทน เป็นคนไม่ยอมใครง่ายๆ รักความยุติธรรม และเป็นคนมีเหตุผลในทุกๆ เรื่อง ไม่ยอมให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลเด็ดขาด ซื่อสัตย์ และเชื่อมั่นในความรัก มีความกตัญญูรู้คุณต่อผู้บังเกิดเกล้ามาก แม้รู้ว่าบิดาและมารดาที่เลี้ยงดูตนมาไม่ใช่พ่อแม่ที่แท้จริง ก็ยังรักและเคารพพวกท่านดังเดิม ทริยาเป็นหญิงสาวที่มีความทันสมัย มีความเป็นตัวของตัวเองสูง กล้าตัดสินใจ ทำงานเก่ง และเด็ดขาดในเรื่องงานและทุกๆ เรื่อง


รวิชญ์ เทิดวงส์ รับบท แอนโทนี่ จาง -- คู่แข่งทางการค้าที่สำคัญของเถ้าแก่หลอ คนรักของฮุ่ยซันบุตรสาวที่เถ้าแก่หลอรักปานแก้วตาดวงใจ คุณจางเป็นคนฉลาด มีเล่ห์เหลี่ยมทางการค้ามาก ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งความเป็นเจ้าพ่อแห่งวงการอัญมณี รักเดียวใจเดียวอย่างมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลงเลย คุณจางรักฮุ่ยซันมาก และไม่ว่าเธอจะเป็นอย่างไร เขาก็ยังคงรักเธอคนเดียวเสมอมา มีความรับผิดชอบและมีน้ำใจนักกีฬา เมื่อตนต้องรับผิดชอบชีวิตซู่หลิงเมื่อคราวที่เกิดอุบัติเหตุ ตนก็พร้อมยอมทำ แม้จะไม่เต็มใจก็ตาม


ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์ รับบท ซู่หลิง -- เพื่อนสนิทของฮุ่ยซัน ภรรยาของคุณจาง เธอมีนิสัยขี้อิจฉา เจ้าคิดเจ้าแค้นตั้งแต่เด็ก ไม่อยากเห็นใครได้ดีกว่า อิจฉาแม้กระทั่งฮุ่ยซันซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของตนเอง ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ตนเองต้องการ โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องหรือเหตุผล เรียกร้องความรักจากคุณจางมาโดยตลอด ไม่เคยมีความเข้าใจใครเลย คิดถึงแต่ตัวเอง มีวาจาที่ก้าวร้าวและเชือดเฉือนความรู้สึกของคนอื่นตลอดเวลา โดยไม่สนใจว่าจะทำร้ายความรู้สึกของใครบ้าง


กัญญารัตน์ จิรรัชชกิจ รับบท ฮุ่ยซัน วริษฐ์ ทิพโกมุท รับบท ปีเตอร์ -- ชายหนุ่มฮ่องกงที่มีเล่ห์เหลี่ยมทางการค้าเป็นอย่างมาก ลูกติดของหม่าเจา ซึ่งเป็นสามีใหม่ของจิงจิง หัวสูง ทำงานไม่เก่ง แต่ชอบโอ้อวดตนเอง พยายามจะยกระดับฐานะของตนเองอยู่ตลอดเวลาโดยใช้ผู้หญิงเป็นเครื่องมือ ปีเตอร์เป็นคนเจ้าชู้สำอาง รักความสบาย ยอมทำในสิ่งที่ผิดเพียงเพื่อความก้าวหน้าของตนเองเท่านั้น โดยไม่คำนึงถึงศีลธรรมและความดีงามเลย จิตใจมืดดำ ใช้เล่ห์เหลี่ยมและกลโกงทุกอย่างเพื่อความเจริญก้าวหน้าของตนเองเท่านั้น


ศุภมร โคร์นิน รับบท โสภณ -- คนรักของทริยาที่เมืองไทย เป็นคนโลเล ใจอ่อน ไม่ค่อยมั่นคงในเรื่องความรักนัก แต่เป็นคนรักความถูกต้องและความยุติธรรม เมื่อต้องบอกเลิกทริยาเพราะตนเองมีคนใหม่ก็ยอมทำเพื่อความถูกต้อง โสภณเป็นคนไม่ค่อยเด็ดขาดในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแผนการในการทำงานหรือในเรื่องการดำรงชีวิต ไม่มีความเป็นผู้นำ เมื่อครั้งเป็นแฟนกับทริยา ทริยามักจะเป็นผู้นำมากกว่าเสมอ


ซาร่า เล็กจ์ รับบท จีรนันท์ -- น้องสาวต่างบิดามารดาที่เมืองไทยของทริยา น้องสาวที่รักพี่สาวมาก พูดจาคล่องแคล่ว ว่องไว ฉาดฉาน และมีความเป็นตัวของตัวเองสูง เป็นผู้หญิงสมัยใหม่ที่ยอมทุ่มเทในเรื่องความรัก รักใครรักจริง แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้องเสมอ แอบรักโสภณว่าที่พี่เขย แต่ไม่ยอมเปิดเผยความรู้สึกของตัวเองเนื่องจากเป็นแฟนของพี่สาว กลัวพี่สาวจะเสียใจ พอใจกับการแอบรักข้างเดียวเงียบๆ โดยไม่หวังความรักจากคนที่ตนรักเป็นการตอบแทน ยอมเสียสละทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อครอบครัวและคนที่ตนรักได้


นิรุตติ์ ศิริจรรยา รับบท เถ้าแก่หลอ -- เจ้าพ่อวงการออกแบบอัญมณีของฮ่องกง บิดาของฮุ่ยซันมารดาของทริยา เถ้าแก่หลอเป็นคนฉลาดหลักแหลมในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจการค้า การออกแบบอัญมณี มองคนเป็น สามารถรู้จักความเป็นตัวตนของแต่ละคนอย่างลึกซึ้งถึงแก่นแท้ข้างใน รักฮุ่ยซันซึ่งเป็นบุตรสาวคนโตมาก เป็นคนใจกว้างโอบอ้อมอารี แต่ก็มักจะคำนึงถึงเหตุผลทางด้านธุรกิจมากกว่าเรื่องของหัวใจ เนื่องจากกลัวบุตรหลานจะตกระกำลำบากหากได้คู่ครองที่ไม่เหมาะสมกับตนเอง


พรรษชล สุปรีย์ รับบท เพ็กกี้ -- หญิงสาวสวย อ่อนหวาน ซื่อตรงและซื่อสัตย์ในความรักมาก คนรักของปีเตอร์ที่โดนเอารัดเอาเปรียบมาโดยตลอด เพ็กกี้เป็นคนหัวอ่อน มองโลกในแง่ดี คิดว่าทุกคนจะดีกับตนเองเหมือนที่ตนเองดีกับทุกคน เป็นคนซื่อๆ อ่อนโยน ไม่ค่อยฉลาดทันเกมคนอื่นนัก เรียบร้อย และมีความเป็นผู้หญิงสูง ให้อภัย มีน้ำใจ และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อทุกคนเสมอ


อภิษฎา เครือคงคา รับบท แอนนา

มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ รับบท มีมี่

พรนภา เทพทินกร รับบท จิงจิง -- น้าสาวของทริยา น้องสาวคนถัดมาจากฮุ่ยซัน มีจิตใจอิจฉาริษยาฮุ่ยซันมาโดยตลอด ทั้งๆ ที่เป็นพี่น้องกันทางสายเลือดแท้ๆ แต่ความสวยและความเก่งสู้ฮุ่ยซันไม่ได้เลย จึงเก็บความแค้นไว้ในใจมาโดยตลอด หวังเพียงว่าสักวันสมบัติในตระกูลทุกอย่างจะกลายเป็นของตัวเอง ทำทุกอย่างทุกทางเพื่อผลประโยชน์ของตนเองเท่านั้น เป็นคนปากหวาน แต่ในใจซ่อนความรู้สึกที่ร้ายกาจไว้ตลอดเวลา

เรื่องย่อ :วังน้ำค้าง






วังน้ำค้าง สวรรค์ริมทะเลที่มีแต่ความสงบสุข ต้องกลายเป็นอเวจีที่เร่าร้อน เมื่อบันลือประมุขของวังต้อนรับลำเพาสาวสวยแสนอาภัพเข้ามาในหัวใจ ทำให้ไฟริษยาลุกโชนขึ้นในใจระรินญาติสาวผู้มอบหัวใจให้เขามาตลอด และความแค้นนั้นก็ตกทอดมาถึง รัตติกาลลูกติดท้องของลำเพาซึ่งต่อมาก็ได้ครอบครองหัวใจของธนนท์ ชายหนุ่มทายาทคนเดียวของบันลือที่ทำให้ระรินเกิดความรักครั้งใหม่ ระรินซึ่งกำลังจะสูญเสียทุกอย่าง จะทำอย่างไร เพลิงแค้นของเธอจะแผดเผาให้วังน้ำค้างกลายเป็นจุนหรือไม่......ลำเพา (นก อุษณีย์ วัฒฐานะ) สาวชนบทแสนสวยรักกับ เดียว (เก่ง ชาติชาย งามสรรพ์) พลทหารยากจน แม่บังคับลำเพาแต่งงานกับเศรษฐีซึ่งเป็นนักเลง




เดียวกลับมาจากรบเขาขาพิการต้องใช้ไม้ค้ำ ลำเพา และเดียวได้เสียกันวันที่เดียวกลับมา โดยเดียวไม่รู้ว่ารุ่งขึ้นลำเพาต้องแต่งงาน ลำเพาหนีการแต่งงาน แต่ถูกกลุ่มเศรษฐีตามล่า เดียวยิงตายทั้งหมดเขาโดนจับ โดนตัดสินจำคุกยี่สิบปี ลำเพาหนีออกจากบ้าน ระหว่างลำเพาเดินทางทอดอาลัยไม่รู้จะไปไหน บันลือ (เคลลี่ ธนพัฒน์) มหาเศรษฐีเจ้าของเกาะวังน้ำค้างขับรถผ่านมา บันลือชอบเธอทันทีเมื่อแรกเห็น เมื่อรู้ว่าลำเพาไม่มีที่ไป บันลือพาลำเพาไปอยู่ด้วยที่คฤหาสน์ของเขาที่ริมทะเล เขาอยู่กับญาติสาวชื่อระริน (ปู มัณฑนา หิมะทองคำ) และชายรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ ชื่อ พร (ทองขาว ภัทรโชคชัย) แม้จะเป็นสาวสวยแต่ระรินยังคงครองโสด เพราะตั้งแต่ที่เธอต้องมาอาศัยอยู่กับครอบครัวของบันลือ หลังจากพ่อแม่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ ระรินก็แอบหลงรักบันลือตั้งแต่เด็ก แต่ไม่กล้าแสดงออก จนกระทั่งบันลือแต่งงาน และภรรยาเสียชีวิตลง ทิ้งเพียงลูกชายไว้ 1 คน ซึ่งบันลือก็ส่งไปเรียนที่กรุงเทพฯ เมื่อเรียนจบมัธยมก็ส่งต่อไปเรียนที่ต่างประเทศ ระรินจึงได้อยู่กับบันลือในคฤหาสน์อย่างมีความสุขมาตลอด




จนกระทั่ง บันลือรับลำเพามาอยู่ด้วย และให้ความสนิทสนมเป็นพิเศษ ระรินจึงริษยาลำเพามาก ลับหลังบันลือ ลำเพาถูกระรินกระทำต่างๆ นานา แต่เธอก็อดทนเพราะรู้ตัวว่ากำลังตั้งท้องอ่อนๆ ไม่สามารถระเหเร่ร่อนไปอยู่ที่อื่นได้ ยิ่งนานวัน บันลือก็ยิ่งเอ็นดูลำเพามากขึ้นจนกลายเป็นความรัก บันลือขอลำเพาแต่งงานและขอรับเป็นพ่อของเด็กเอง ระรินแค้นใจมาก วันหนึ่งเมื่อ หนูแดง (พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช) ลูกสาวของลำเพาอายุยังไม่ครบขวบ และเป็นวันที่ปลอดคน บันลือไม่อยู่บ้าน นายพรพาหนูแดงไปตัดดอกไม้ที่สวนวังน้ำค้างระรินหลอกลำเพาไปธุระด้วยกันที่เกาะ เมื่อถึงกลางทะเล ระรินตีลำเพาจนตกน้ำ ลำเพาว่ายน้ำไม่เป็นเธอจมทะเลตาย บันลือรู้เรื่องลำเพาประสบอุบัติเหตุจมน้ำตาย บันลือรับเลี้ยงหนูแดงเป็นลูก เขาตั้งชื่อหนูแดงว่ารัตติกาล (พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช)




เกือบยี่สิบปีผ่านไป รัตติกาลโตเป็นสาวสวย บันลือรักมาก ตรงข้ามกับระรินที่ยังปักใจว่า รัตติกาลมาแย่งความรักของบันลือไป รัตติกาลเรียกนายพรที่เลี้ยงเธอมาตลอดตั้งแต่เด็กว่าตา บันลือขอร้องระรินและตาพรให้ปกปิดว่าเขาไม่ใช่พ่อแท้ๆ ของเธอ และให้ปกปิดว่าพ่อแท้ๆ ของเธอเป็นใคร แต่วันที่บันลือเข้ากรุงเทพเพื่อไปรับ ธนนท์ (ธาวิน เยาวพลกุล) ลูกชายซึ่งกลับจากอเมริกา ระรินรุกรานรัตติกาล และเมื่อรัตติกาลเถียงระรินโกรธจัด ตบหน้ารัตติกาล และเผยความจริงว่า รัตติกาลไม่ใช่ลูกบันลือแต่เป็นลูกไอ้ขี้คุกผู้ร้ายฆ่าคนตาย รัตติกาลเสียใจมากวิ่งหนีเตลิดออกจากบ้าน เธอวิ่งไปเจอ สีมา (เอมี่ กลิ่นประทุม) สาวลูกชาวประมงยากจน สีมาทำตัวเป็นทอม รัตติกาลบอกว่าเธอจะไปตาย สีมากระชากไว้ไม่ให้ไป ชวนรัตติกาลไปอยู่ด้วย บันลือกลับมา ระรินบอกว่ารัตติกาลหนีออกจากบ้าน คงหนีตามผู้ชาย บันลือออกตามทุกวันจนเจอรัตติกาล ช่วยสีมาทำประมง บันลือขอร้องให้รัตติกาลกลับบ้าน สีมาขอตามไปอยู่ด้วย ระรินแสดงความพึงพอใจในธนนท์ แบบหญิงชอบชาย เพราะธนนท์คล้ายบันลือตอนหนุ่มๆ มาก เธอหาโอกาสเคลมธนนท์ แต่ตาพรมาขัดจังหวะทุกครั้ง ธนนท์เองก็รู้ตัว เขาเลี่ยงอย่างสุภาพกับระริน ธนนท์รักรัตติกาลทันทีที่เห็น รัตติกาลก็เช่นเดียวกัน




บันลือสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้าออกตาเกินไป แต่ระรินหึงหวงริษยา ระรินมอมเหล้าธนนท์ จะปล้ำเขา แต่ตาพรมาขัดไว้ได้อีก ระรินโกรธมาก ต่อมาระรินจะฆ่ารัตติกาลขณะนอนหลับ ตาพรมาช่วยทัน แกไม่ได้ทำอะไรระริน แค่ยืนมองเฉยๆ แต่ตาพรไม่เคยพูดกับใครเรื่องระรินที่จะเคลมธนนท์ และจะฆ่ารัตติกาล ระรินยังแค้นรัตติกาลที่จะได้ทุกอย่างไปจากวังน้ำค้างเพราะรัตติกาลจะเป็นคู่ครองของธนนท์แน่นอน ระรินลวงรัตติกาลจะไปฆ่ากลางทะเลเหมือนที่เคยฆ่าลำเพามาแล้ว โดยหลอกว่าธนนท์ประสบอุบัติเหตุ เมื่อเรือมาถึงที่ที่ลำเพาเคยจมน้ำตาย ระรินเตรียมฆ่ารัตติกาลโดยรัตติกาลไม่รู้เลยว่าเธอกำลังจะถูกฆ่า แต่แล้วระรินเห็นผีลำเพาโผล่ขึ้นมาจากใต้ทะเลมายืนบนผิวน้ำ และเดินมาหาเธอในเรือโดยไม่พูดจาอะไรเลย แต่ลำเพาจ้องจะเอาเรื่อง ลำเพายังสวยเหมือนเมื่อครั้งเธอยังมีชีวิตอยู่ ระรินกลัวลำเพาจนเป็นลม รัตติกาลไม่รู้เรื่อง เมื่อระรินเป็นลม เธอพาเรือกลับเข้าฝั่ง ระหว่างยังไม่ฟื้นระรินเห็นลำเพามารับเธอไปด้วยกัน ระรินไปด้วยอย่างเต็มใจ แต่เมื่อลำเพาให้เธอลงเรือระรินหวีดร้องไม่ไปด้วย เธอตื่นขึ้นมาเห็นธนนท์กับรัตติกาลนั่งเฝ้าอยู่อย่างห่วงใย ระรินกอดธนนท์ราวกอดขอความช่วยเหลือจากชายคนรักเดียวพ้นโทษ ไปหาแม่ของลำเพาที่บ้าน แม่ของลำเพาสำนึกในความผิดที่ทำ แกเอาจดหมายของลำเพาให้เดียวอ่าน เดียวรู้ว่าลำเพามีลูกสาวกับเขา และลำเพาไปอยู่ที่วังน้ำค้างกับชายที่ชื่อบันลือเดียวไปที่เกาะวังน้ำค้าง พบรัตติกาล




รัตติกาลรู้สึกว่าถูกชะตากับชายคนนี้ตั้งแต่แรกเห็น เธอบอกว่าพ่อของเธอเป็นชายขี้คุกชื่อเดียว แม่ของเธอชื่อลำเพา แต่แม่ตายไปตั้งแต่เธออายุยังไม่ครบขวบ เดียวช็อกที่ลำเพาตาย จากนั้นเดียวมาแอบดูรัตติกาลทุกวัน ไม่คิดจะเปิดเผยว่าตัวเองเป็นพ่อเพราะขณะนี้ลูกสาวมีชีวิตที่สูงส่งกว่าเขามาก รัตติกาลให้ดอกกุหลาบแดงของวังน้ำค้างแก่ชายพิการลึกลับทุกวัน จนวันหนึ่งระรินเห็น และตอกหน้ารัตติกาลต่อหน้าธนนท์ว่าแอบลักลอบพบชายไม่มีหัวนอนปลายเท้าฉันชู้สาว รัตติกาลแก้ตัวไม่ได้ แต่บันลือไม่เชื่อว่ารัตติกาลจะเป็นดังที่ระรินกล่าวหา ระรินให้ตาพรเป็นพยาน ตาพรบอกว่าไม่เคยเห็นรัตติกาลคุยกับชายแปลกหน้าที่ไหนเลย ระรินโกรธที่ตาพรโกหกเข้าข้างรัตติกาลทั้งๆ ที่ตาพรก็อยู่กับรัตติกาลตอนรัตติกาลพบกับเดียว




รัตติกาลกับธนนท์ร่วมมือกันจับสีมาลอกคราบความเป็นทอมให้กลับเป็นหญิง เพราะเห็นแล้วว่าจริงๆ สีมาเป็นสาวที่สวยมาก และพ่อบันลือก็อ้างว้างว้าเหว่มานาน ควรจะมีคู่ใจเสียที สีมาแต่งกายเป็นสาวแล้วสวยจริงๆ บันลือถูกใจมาก ระรินยังอาฆาตที่จะฆ่ารัตติกาลตลอด วันหนึ่งสบโอกาสที่สีมาเอาเครื่องดื่มไปให้คุณๆ แต่ละคนในบ้าน ระรินแอบใส่ยาพิษในนมสดของรัตติกาล แต่บันลือเกิดอยากดื่มนมสด เขาเอาของรัตติกาลไปดื่มก่อน ให้สีมาไปทำให้รัตติกาลใหม่ ระรินยินดีเมื่อได้ยินเสียงสีมาหวีดร้อง แต่แล้วกลับตกใจเมื่อคนดื่มนมผสมยาพิษคือบันลือ หมอล้างท้องช่วยบันลือทัน เมื่อบันลือกลับบ้านได้ เขาพูดกับระริน เขารู้ว่าระรินตั้งใจจะฆ่ารัตติกาลรู้ว่าระรินหลงรักธนนท์ฉันชู้สาว แต่เมื่อระรินเป็นญาติเขา เขาจึงไม่ทำรุนแรงถึงกับจะส่งเธอให้ตำรวจ แต่เขาจะตัดปัญหาให้ธนนท์แต่งงานกับรัตติกาล ทุกอย่างจะได้จบลงเสียทีวันแต่งงานของธนนท์กับรัตติกาล เดียวมาแอบดูความรุ่งเรืองในชีวิตลูก ระรินเห็นแฉกลางงานแต่งว่าเดียวเป็นชายชู้ของรัตติกาล เดียวเข้ามาในงาน บอกว่าเขาคือชายที่มาแอบดูรัตติกาลตลอดเพราะเขารักรัตติกาล แต่ไม่ใช่ฉันชู้สาว เพราะเขาคือพ่อของรัตติกาล ทุกคนตะลึงไปหมด




รัตติกาลดีใจที่ได้พบพ่อที่แท้จริงที่เธอเฝ้าตามหามาตลอด เดียวแฉอีกว่าเขารู้จากชาวประมงว่าลำเพาไม่ได้จมน้ำตายเอง แต่ระรินฆ่าลำเพา ระรินช็อคไม่ยอมรับ เธอวิ่งไปในตึก ค้นได้ปืนพก แต่ก่อนที่จะกลับออกไป ระรินเห็นภาพวาดของลำเพากลายเป็นลำเพาจริงๆ เดินออกมาจากภาพวาด มาชวนระรินไปด้วยกัน ระรินไม่ยอมไปด้วย จะยิงลำเพา ตาพรเข้ามาในตึกระรินมองเห็นตาพรเป็นลำเพา ยิงตาพรตาย แล้วระรินวิ่งเตลิดออกนอกตึก เธอกำลังเสียสติ ระรินวิ่งไปท่าน้ำ เจอลำเพารออยู่ ลำเพาบอกให้ไปด้วยกัน ไปในที่ที่จะไม่มีใครตามระรินเจอ ระรินดีใจว่าจะหนีพ้นที่ฆ่าตาพร ลงเรือไป ไปถึงทะเลจุดที่ระรินเคยฆ่าลำเพา ระรินเห็นลำเพาลุกลงไปเดินบนผิวน้ำทะเล ระรินตกใจ ลำเพาเรียกระรินลงไป ระรินนึกได้ว่าลำเพาตายแล้วระรินกลัวมาก จะหนี ในที่สุดระรินตกทะเล จมน้ำ ธนนท์ขับเรือพาบันลือมาถึงเรือระรินที่ลอยอยู่ แต่หาระรินไม่เจอแล้ว บันลือรู้ว่าระรินชดใช้กรรมที่ก่อไว้แล้ว บันลือเก็บปืนที่ตกอยู่ในเรือไป ทุกคนในงานแต่งงานนึกถึงเดียวขึ้นมาได้ แต่เดียวหายไปแล้ว มีแต่กระดาษพับวางอยู่ใต้กุหลาบแดงดอกหนึ่ง เป็นจดหมายที่เดียวเขียนฝากฝังรัตติกาลให้กลับคืนเป็นลูกสาวของบันลือ และสำนึกในบุญคุณของบันลือ ตัวเขาเองขอเพียงที่น้อยนิดบนเกาะวังน้ำ-ค้างให้เขาได้อาศัยชมบุญรัตติกาลทุกวัน รัตติกาลกับธนนท์สังหรณ์ รีบไปที่เกาะวังน้ำค้าง ร่างเดียวนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ในน้ำทะเล เขากระโดดหน้าผาลงมา




บทประพันธ์ : อนัญจนา


บทโทรทัศน์ : ดลกมล คนหลังม่าน


กำกับการแสดง : เอกภพ ตันหยงมาศกุล


ผู้ผลิต : กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)


ออกอากาศทุกวัน : ศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี


นักแสดง1 ธาวิน เยาวพลกุล >>> ธนนท์


2 สาวิกา ไชยเดช >>> รัตติกาล


3 เคลลี่ ธนพัฒน์ >>> บันลือ


4 เอมี่ กลิ่นประทุม >>> สีมา


5 มัณฑนา หิมะทองคำ >>> ระริน


6 ราตรี วิทวัส >>> พิศ


7 ณัฐนี สิทธิสมาน >>> จัน


8 ชาติชาย งามสรรพ์ >>> เดียว


9 มาริออน อัลโฟเทอร์ >>> แคธี่


10 ทองขาว ภัทรโชคชัย >>> พร


11 ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ >>> เมี้ยน


12 นพพล พิทักษ์โล่พานิช >>> ภัทร


13 อุษณีย์ วัฒฐานะ >>> ลำเพา ฯลฯ

เรื่องย่อ :พระจันทร์ สีรุ้ง


เรื่องย่อ…พระจันทร์สีรุ้ง
บทประพันธ์โดย… “วัตตรา”


ชีวิตนางโชว์ของอารักษ์ (อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) ต้องจบลงด้วยวัยเพียง 35 อาจจะเร็วไปสักหน่อย แต่เพราะคลื่นลูกหลังที่มาแรงกว่า ทำให้เขารับไม่ได้ที่จะต้องกลายไปเป็นแค่ตัวตลกคั่นรายการ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ…เขากำลังมีลูกชาย ตะวัน (บี้-สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว) เป็นลูกของ อรดี (แหม่ม-จินตหรา สุขพัฒน์) หมอนวดซึ่งเช่าบ้านอยู่ติดกับอารักษ์ หล่อนตั้งใจจะคลอดลูกแล้วทิ้งไว้ที่โรงพยาบาล เพื่อตามผัวใหม่ชาวเยอรมันไปต่างประเทศ ด้วยความที่อารักษ์รักและสงสารเด็กน้อยที่ไม่มีใครต้องการ เหมือนชีวิตของตนที่เคยระเห็จออกจากบ้าน เพราะพ่อซึ่งไม่ยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น จนประกาศตัดญาติขาดมิตร อารักษ์เลยได้มาใช้ชีวิตเป็นนางโชว์กับ ป้อ (ไก่-วรายุธ มิลินทจินดา) เพื่อนสนิท

ถึงพัทยา อารักษ์ได้ตัดสินใจที่จะขอตะวันมาเลี้ยงเป็นลูก ท่ามกลางเสียงคัดค้านของบรรดาเพื่อนชาวสีม่วงด้วยกัน โดยเฉพาะกับชัชชัย (ปัญญาพล เดชสงค์) แฟนหนุ่มที่กำลังคิดตีจาก ได้โอกาส เอาเรื่องเด็กน้อยมาอ้างเพื่อแยกทางกับอารักษ์ ทำให้เขาเสียใจมาก ถึงกับคิดฆ่าตัวตาย แต่เพราะเสียงร้องของตะวัน ทำให้เขาได้ฉุกคิด ว่าตนยังมีภาระที่สำคัญ ภาระยิ่งใหญ่ของคำว่า…พ่อ อารักษ์ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนตัวเอง ทิ้งความเป็นเพศที่สาม แล้วย้ายตัวเองไปอยู่เชียงใหม่ ใช้เงินเก็บที่มีอยู่ เซ้งตึกแถวที่หน้าตลาดสดย่านชานเมือง เปิดเป็นร้านทำผมชื่อว่า “ตะวันซาลอน” มีบรรดาแม่ค้าแม่ขายและชาวบ้านในละแวกนั้นแห่กันมาใช้บริการแทบทุกวัน เพราะความที่เจ้าของร้านเป็นคนอัธยาศัยดี

แล้ววันหนึ่งอารักษ์ก็ได้ช่วยชีวิตแก้วตา (เต๋า-สโรชา วาทิตตพันธ์) จากการตามล่าของพวกค้าผู้หญิง ที่หลอกซื้อหญิงสาวจากพ่อแม่จะพาไปทำงานที่มาเลย์ หล่อนหลบหนี แล้วระหกระเหินมาจนถึงหน้าร้าน ด้วยความสงสารในเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เขาจึงให้ที่ซ่อน แล้วแจ้งตำรวจให้สกัดจับพวกค้าผู้หญิง จนสามารถช่วยชีวิตหญิงสาวได้อีกหลายคน แก้วตาระลึกในบุญคุณของอารักษ์ จึงขออยู่ช่วยงานที่ร้าน และอาสาที่จะช่วยดูแลตะวันอีกแรง ถึงแม้ว่าอารักษ์จะพยายามบอกและแสดงให้ทุกคนเห็นว่าตนเป็นผู้ชาย โดยเฉพาะกับตะวัน แต่กิริยาที่สุภาพ นิ่มนวล ก็ทำให้ทุกคนดูออกว่าเขาไม่ใช่ชายแท้ ทำให้อารักษ์ไม่สบายใจ เกรงว่าลูกชายจะมีปมด้อย จนเมื่อตะวันโตถึงวัยเข้าเรียน เขาเป็นเด็กฉลาด และหน้าตาดี จึงมีแต่คนรักใคร่ บรรดาลูกค้าที่มาทำผมก็มักจะหยอกเอิน ให้ช่วยหยิบจับ ทำนั่นทำนี่ให้ จนอารักษ์ต้องคอยสั่งห้าม สร้างความสงสัยให้กับเด็กน้อย จนต้องแอบมาบ่นให้แก้วตาฟัง หญิงสาวซึ่งใช้ชีวิตร่วมกับสองพ่อลูกมานาน รู้ดีว่าอารักษ์คิดอะไร หล่อนซึ่งแรกๆก็เคยแอบชอบชายหนุ่ม แต่พอรู้ว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายเต็มร้อย ก็ได้แต่ทำใจยอมรับ และช่วยเขาปิดบังความจริงกับเด็กน้อย

วิถีชีวิตของตะวันเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อเข้าโรงเรียน เขามักจะถูกเพื่อนๆล้อเรื่องพ่อเป็นกะเทยจนมีเรื่องชกต่อยกันเป็นประจำ เด็กน้อยซึ่งถูกพ่อสอนให้เป็นคนรักสันติ มักจะมาบ่นให้ผู้เป็นพ่อฟังอยู่เสมอทุกครั้งที่มีปัญหา เขาชอบนอนหนุนตัก ให้พ่อเล่านิทานให้ฟังใต้แสงจันทร์ แต่แล้วเมื่อตะวันอายุสิบขวบ ได้เรียนรู้โลกกว้างมากขึ้น จนพอจะรับรู้เห็นความผิดปกติของอารักษ์ที่ไม่เหมือนพ่อของเพื่อนๆ ถึงแม้อารักษ์จะพยายามปิดบังอย่างไร แต่ความลับก็ไม่เป็นความลับอีกต่อไป เมื่อป้อนำบรรดาเพื่อนเก่าร่วมคณะนางโชว์มาเยี่ยมเยือน ภาพพ่อที่ทำตัวกรี๊ดกร๊าดสนิทสนมกับแขกแปลกหน้ากลุ่มใหญ่ ทำให้ตะวันแน่ใจในสิ่งที่เขากลัว ความจริงที่เด็กน้อยพยายามหลอกตัวเองเรื่องพ่อนั้นเป็นเรื่องจริงตะวันเสียใจจนถึงขั้นหนีออกจากบ้านไปขอพักกับครูชนะ (เอ็กซ์-ธิตินันท์ สุวรรณศักดิ์) ครูพละที่สนิทที่สุด ขณะนั้นอารักษ์และบรรดาเพื่อนๆ พยายามตามหาด้วยความเป็นห่วงถึงกับไปแจ้งความ ระหว่างที่ตะวันอยู่กับชนะนั้น ครูหนุ่มก็พยายามกล่อมจนเด็กน้อยเริ่มอ่อนลง และเข้าใจโลกมากขึ้น ยิ่งเห็นใครต่อใครวิ่งวุ่นตามหาตน โดยเฉพาะพ่อที่ถึงกับถูกรถชนก็ทำให้เด็กน้อยได้คิด และยอมที่จะกลับไปอยู่กับครอบครัวอีกครั้ง อารักษ์จึงตัดสินใจเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ตะวันฟังโดยไม่ปิดบัง เว้นแต่เรื่องอาชีพของแม่เด็กน้อย เพื่อให้ตะวันยังมีภาพแม่ที่แสนดีไว้ในใจถึงแม้ความจริงจะเปิดเผย แต่อารักษ์ก็ยังคงทำตัวปกติ เพื่อรักษาหน้าลูกชาย เขาจัดการย้ายโรงเรียน และให้แก้วตาออกหน้าเป็นผู้ปกครองแทนตน เพื่อไม่ให้ตะวันต้องเป็นขี้ปากของใคร

จนเมื่อเวลาผ่านไป ตะวันโตขึ้นและสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยในกรุงเทพได้ ชายหนุ่มต้องแยกจากครอบครัวอันเป็นที่รักมาเช่าอยู่หอพักตามลำพัง โดยที่ทั้งสองพ่อลูกก็ยังคงติดต่อถามไถ่กันทางโทรศัพท์แทบทุกวันชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยทำให้ตะวันได้รู้จักกับ ปลายฟ้า (แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ) นักศึกษาต่างคณะ ลูกสาวคนสวยของสถาพร (ถา-สถาพร นาควิลัย) นายตำรวจใหญ่ หญิงสาวเป็นดาวของมหาวิทยาลัย เช่นเดียวกับตะวันที่ถูกเลือกให้เป็นเดือนในงานกีฬาประเพณีของสถาบัน ทำให้ทั้งสองต้องทำกิจกรรมร่วมกัน ยิ่งทำให้ตะวันรู้สึกชื่นชมในความน่ารักและพยายามจะผูกมิตรด้วยแต่ปลายฟ้ากลับไม่สน แต่นั่นก็ยิ่งทำให้ตะวันตกหลุมรักเธอมากขึ้นไปอีก โดยมองข้ามเกยูร (ปีใหม่-สุมนรัตน์ วัฒนาเศลารัต) เพื่อนสาวที่แอบชอบตนอยู่

ตลอดเวลาสี่ปีในรั้วมหาวิทยาลัย ตะวันได้เพียรเฝ้าติดตามความเป็นไปของปลายฟ้าด้วยความรัก จนรู้ว่าเธอชอบทำอะไรที่ไหน รวมทั้งรู้ว่าเธอมีคนรักอยู่แล้ว แต่ด้วยความรักที่บริสุทธิ์และคำแนะนำของผู้เป็นพ่อซึ่งเป็นที่ปรึกษาตลอดเวลา ตะวันจึงแอบส่งดอกไม้และข้อความซึ้งๆให้เธอที่คณะทุกวัน จนหญิงสาวรู้สึกแปลกใจพยายามจะหาตัวเจ้าของดอกไม้ให้ได้ แต่ก็มีเหตุให้ต้องคลาดกันเสมอ แล้วในที่สุดตะวันก็มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับปลายฟ้ายิ่งขึ้น เมื่อเขาตัดสินใจไปคัดเลือกตัวแสดงละครเวทีของมหาวิทยาลัย และผ่านการทดสอบได้รับบทนำคู่กับหญิงสาว ตลอดการซ้อมตะวันพยายามเอาใจปลายฟ้าจนเธอรู้สึกอึดอัด หญิงสาวพาเพื่อนๆไปเที่ยวที่บ้านรวมทั้งตะวัน ทำให้ชายหนุ่มพบว่าช่องว่างระหว่างเขากับเธอนั้นมีมากกว่าที่คิด เมื่อหญิงสาวมีฐานะต่างกับเขามาก แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เขายอมแพ้ ตะวันตัดสินใจที่จะไปทำงานเป็นเด็กรับรถให้ผับชื่อดังแห่งหนึ่ง เพียงเพื่อจะหาเงินพาหญิงสาวไปทานอาหารหรูๆสักมื้อหนึ่งพร้อมกับบอกความในใจที่เก็บไว้ตลอดสี่ปี และที่นั่นทำให้เขาได้ช่วย ภัครินทร์ (นุ่น-สินิทรา บุญยศักดิ์) ฝ่ายดูแลศิลปินของ “เลิฟลี่ เรคคอร์ด” จากโจรวิ่งราว ภัครินทร์เห็นหน่วยก้านของตะวัน จึงชวนไปลองเทสต์เสียงดู แต่ชายหนุ่มปฏิเสธตะวันมีโอกาสได้พบกับครอบครัวของปลายฟ้าในวันแสดงละครเวที ชายหนุ่มรู้สึกชื่นชมในบุคลิกของสถาพร และดารณี (ไก่-สุปราณี เจริญผล) พ่อแม่ของหญิงสาว และในระหว่างการแสดงตะวันก็เผลอใจไปจูบปลายฟ้านอกบท สร้างความขัดเคืองให้หญิงสาว จนไม่ยอมพบหน้าด้วย ตะวันกลุ้มใจจึงได้แต่โทรไปปรับทุกข์กับผู้เป็นพ่อ อารักษ์จึงแนะนำให้ลูกชายไปขอโทษหญิงสาว ในงานวันเกิดของปลายฟ้าที่ถูกจัดขึ้นที่บ้านของหญิงสาว ตะวันอาศัยเกยูรให้พาเข้างาน เขาให้ของขวัญ และออกไปร้องเพลงขอโทษตามที่อารักษ์สอนไว้จนปลายฟ้าเริ่มจะอ่อนลง ยอมรับคำขอโทษจากชายหนุ่ม พร้อมทั้งแนะนำศศิน (เอส-วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย) ชายคนรักที่เป็นลูกชายของศักดา (อาเชาว์-สุเชาว์ พงษ์วิไล) นักการเมืองใหญ่ให้ตะวันได้รู้จัก ทำให้ชายหนุ่มเสียใจ และเลี่ยงออกไปจากงาน

ภัครินทร์ที่มาร่วมงานเพราะเป็นญาติผู้พี่กับปลายฟ้า นำวีดีโอภาพและเสียงของตะวันมาให้พบโชค (ป้าแจ๋ว-ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์) เจ้าของค่ายเพลงดังฟัง ตะวันจึงถูกเรียกให้เข้าไปพบ และกล่อมให้เป็นศิลปินเบอร์ใหม่ของเลิฟลี่เรคคอร์ดตะวันดีใจโทรไปแจ้งข่าวดีกับพ่อ แต่อารักษ์กลับเป็นห่วง กลัวว่าเมื่อตะวันดังแล้วจะลืมพ่อกะเทยคนนี้ แต่ชายหนุ่มรับปากว่าไม่มีทางเป็นเช่นนั้น เขาตั้งใจจะหาเงินมากๆ เพื่อเก็บไว้ซื้อบ้านอิงดอยให้พ่ออยู่กับเขาตอนแก่ อารักษ์ได้แต่ย้ำลูกชายให้ปิดเรื่องของตนเอาไว้ เพราะกลัวจะเสื่อมเสียชื่อเสียงตะวันตัดสินใจดร็อปการเรียนเอาไว้ชั่วคราว ในเทอมสุดท้าย ในขณะที่เพื่อนร่วมรุ่น รวมทั้งปลายฟ้านั้นจบการศึกษากันในหมด ชายหนุ่มถูกจับเปลี่ยนลุคใหม่ตั้งแต่หัวจรดเท้า และเปิดตัวด้วยการถ่ายแบบ เพื่อสร้างความนิยม ก่อนที่จะผันตัวเองมาเป็นนักร้องตะวันเริ่มกลายเป็นหนุ่มเนื้อหอมที่มีสาวๆมาให้ความสนใจ แต่ชายหนุ่มก็ยังคงไม่สามารถเข้าใกล้ปลายฟ้าได้มากกว่าความเป็นเพื่อน

จนเมื่อเขาได้พบศศินควงสิริกานดา (มิ้ม-อัมราภัสร์ จุลกะเศียน) ดาราน้องใหม่ไปร่วมงานวันเกิดของนิตยสารบันเทิงฉบับหนึ่ง จึงพยายามที่จะหาทางเตือนปลายฟ้า แต่หญิงสาวกลับไม่เชื่อ เธอถึงขั้นไปสอบถามความจริงจากชายคนรัก แต่กลับพบว่าศศินกำลังอยู่กับสิริกานดาจริง ปลายฟ้าจึงประกาศตัดความสัมพันธ์กับศศิน ช่วงนี้เองที่ตะวันได้มีโอกาสเข้ามาแสดงความจริงใจที่มีต่อปลายฟ้า เขาเฝ้าปลอบ และเล่านิทานพระจันทร์ที่พ่อเคยเล่าให้เธอฟัง จนปลายฟ้ารู้สึกเข้มแข็ง และเปิดใจยอมรับชายหนุ่มมากขึ้น จนถึงขั้นเป็นความรักเมื่อชายหนุ่มสารภาพว่า เขาเป็นเจ้าของดอกไม้ที่ส่งให้ตลอดเวลาสี่ปีในที่สุดผลงานชิ้นแรกของการเป็นศิลปินของตะวันก็ออกสู่สาธารณชน เขากลายเป็นนักร้องหน้าใหม่ที่น่าจับตามอง ในขณะที่งานเพลงกำลังไปด้วยดี ความสัมพันธ์ของเขากับปลายฟ้าก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แม้จะเป็นช่วงเวลาที่คบหาเพียงไม่นาน แต่ทั้งสองก็ผูกพันและเข้าใจในกันและกันมาก แต่ก็ต้องพยายามปิดบัง คอยหลบนักข่าวตามคำแนะนำและขอร้องของภัครินทร์

แต่แล้วช่วงเวลาที่สวยงามของตะวันก็สะดุดลง เมื่อชายหนุ่มได้พบกับอรดี แม่ซึ่งทิ้งเขาไป หลังจากที่ตามสามีใหม่ไปใช้ชีวิตในเยอรมันได้ยี่สิบปี พอสามีตายอรดีก็มีเงินเก็บอยู่ก้อนใหญ่ จึงบินกลับมาเมืองไทย ตั้งใจลงทุนทำธุรกิจเอาเงินไปลงหุ้นกับวิมล (ดี้-ชนานา นุตาคม) เพื่อนเก่าร่วมอาชีพเปิดบริษัทผลิตเครื่องสำอาง แต่เกิดไปสะดุดใจกับชื่อและนามสกุลของนักร้องหน้าใหม่ที่ชื่อตะวัน จึงสืบจนรู้ว่าเป็นลูกชายตนที่ยกให้อารักษ์ไป เธอจึงมาแสดงตัวให้ตะวันได้รู้จัก เพื่อหวังว่าความดังของลูกชายจะช่วยทำให้ธุรกิจของเธอก้าวหน้า แต่ตะวันกลับปฏิเสธที่จะยอมรับ เมื่อแม่ที่ตนวาดฝันไว้ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด อรดีทั้งปากร้าย แต่งตัวจัดจ้าน ไม่ใช่นางฟ้าอย่างที่พ่อเคยบอก อีกทั้งความรักที่เขามีต่อปลายฟ้าก็เริ่มมีปัญหา

เมื่อศศินย้อนกลับมาขอคืนดีกับหญิงสาวอีกครั้งศศินรู้ว่าปลายฟ้ามีใจให้กับตะวัน เขาจึงแสร้งทำดี ใช้ความเป็นสุภาพบุรุษทำให้ปลายฟ้าตายใจ ในการยอมรับเขาเป็นเพื่อน แต่ชายหนุ่มกลับสร้างสถานการณ์โดยหลอกใช้เกยูร หาโอกาสให้หล่อนได้ใกล้ชิดกับนักร้องหนุ่ม และเป่าหูจนปลายฟ้ารู้สึกแคลงใจ ขณะเดียวกันศศินก็พยายามทำดีกับปลายฟ้าเพื่อให้ตะวันได้เห็น จนนักร้องหนุ่มซึ่งกำลังว้าวุ่น ขาดความยับยั้งชั่งใจต่อว่าปลายฟ้าว่ากำลังจะหวนกลับไปคบหาศศิน ทำให้หญิงสาวเสียใจ และต่อว่าชายหนุ่มไปอย่างแรง ก่อนจะหลบหน้าผู้คน หนีปัญหาไปพักผ่อนที่ภูเก็ต โดยตัดขาดการสื่อสารทุกชนิด ตะวันเสียใจเรื่องปลายฟ้า และสับสนเรื่องอรดี จึงคิดหนีปัญหาวุ่นวายกลับไปหาพ่อ แต่ระหว่างทางเกิดประสบอุบัติเหตุรถตกเขา นักร้องหนุ่มถูกส่งมารักษาตัวที่กรุงเทพ แพทย์สามารถช่วยชีวิตเขาได้สำเร็จ แต่เพราะสมองได้รับความกระทบกระเทือน เมื่อชายหนุ่มรู้สึกตัวขึ้นมาก็พบว่าเขาสูญเสียความทรงจำไปทั้งหมด จึงเป็นโอกาสของอรดีที่อ้างหลักฐานจากทางโรงพยาบาลที่ทำคลอด และพยานบุคคลยืนยันกับหนังสือพิมพ์ จนตะวันต้องยอมรับอรดีเป็นแม่ โดยที่จิตใต้สำนึกลึกๆของเขากลับไม่มั่นใจ

ข่าวร้ายของตะวันทำให้อารักษ์รีบลงมาดูอาการลูกชาย พร้อมกับแก้วตาและครูชนะซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นคู่รักกัน แต่เขากลับพบอรดี และถูกกีดกันไม่ให้เห็นหน้าตะวัน โดยขู่ว่าความเป็นเพศที่สามของอารักษ์จะทำให้ลูกเสียชื่อเสียง อารักษ์ต้องคิดหนัก แอบเข้าไปพบลูกชาย แล้วก็พบว่าตะวันจำเขาไม่ได้ และยังแสดงท่าทางรังเกียจเมื่อเห็นหน้าเขา โดยไม่รู้เลยว่าลูกชายได้ถูกผู้เป็นแม่เป่าหูว่า อารักษ์เป็นพวกโรคจิตที่คลั่งศิลปินหนุ่มๆ หนุ่มใหญ่รู้สึกเจ็บปวด และยอมหลีกทางให้อรดีดูแลตะวัน เขาเลือกเป็นความทรงจำที่หายไป เพื่อให้ลูกชายได้มีอนาคตที่สดใส อารักษ์จึงพาแก้วตากับครูชนะกลับเชียงใหม่โดยไม่ยอมบอกความจริงให้ทั้งสองเข้าใจ

ตลอดเวลาที่ตะวันอยู่โรงพยาบาล เกยูรมาคอยดูแลชายหนุ่มด้วยความรัก หญิงสาวจึงรู้เห็นสิ่งที่อรดีพยายามจะปิดบังตะวันเรื่องอารักษ์เข้าโดยบังเอิญ อรดีกลัวว่าหญิงสาวจะเปิดเผยความจริง จึงยื่นข้อเสนอให้เธอเก็บความลับนี้ไว้ แลกกับการสนับสนุนให้เธอได้รักกับตะวัน และจัดการทำลายข้าวของที่เกี่ยวกับปลายฟ้าของตะวันจนหมดสิ้น เพื่อให้เกยูรวางใจจนยอมรับปากปลายฟ้าได้รู้ข่าวของตะวัน เธอก็รีบรุดขึ้นมาเยี่ยมชายคนรัก แต่กลับพบว่าตะวันคนใหม่นี้ ไม่เหมือนคนเดิมที่รู้จัก เมื่อชายหนุ่มเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากคนสุภาพ ก็กลายเป็นคนก้าวร้าว เย่อหยิ่ง และเอาแต่ใจ นอกจากนั้นยังพบเกยูรแสดงตัวว่าเป็นคนรักของชายหนุ่มอีก ก็ยิ่งทำให้ปลายฟ้าเสียใจ ช่วงเวลานี้ศศินก็แทรกเข้ามาทำตัวเป็นที่ปรึกษาให้หญิงสาวในฐานะพี่ชายที่แสนดี ด้วยความกลัวว่าปลายฟ้าจะหวนกลับไปหาตะวันอีก ศศินจึงคิดขัดขวางคนทั้งสอง ชายหนุ่มซึ่งกว้างขวางด้วยบารมีของผู้เป็นพ่อ รู้ว่าธุรกิจของอรดีที่ร่วมหุ้นกับเพื่อนกำลังมีปัญหา เมื่อวิมลเชิดเงินหนีไป และทิ้งหนี้สินไว้ให้อรดีรับผิดชอบ ศศินจึงทำเป็นยื่นมือเข้าช่วยเหลือ และเข้ามาเป็นหุ้นส่วนร่วมทุนทำธุรกิจด้วย โดยมีข้อเสนอให้สาวใหญ่ช่วยขัดขวางไม่ให้ตะวันได้หวนกลับมาคบหากับปลายฟ้า

ตะวันเริ่มสับสน และรู้สึกขัดตากับสิ่งรอบตัวไปหมด เขาไม่คุ้นเคยกับสิ่งที่อรดีพยายามจะยัดเยียดใส่หัวเขาเกี่ยวกับเรื่องในอดีต แต่ชายหนุ่มกลับไม่พบหลักฐานใดๆในบ้าน ที่ยืนยันว่าเขาเคยใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับอรดีเลยสักชิ้น อรดีพยายามสร้างภาพแม่ลูกที่รักกันให้ใครๆได้เห็น ทำให้เธอเป็นที่รู้จัก และส่งผลให้กิจการเครื่องสำอางกระเตื้องขึ้น โดยความช่วยเหลือของศศินที่เข้าไปดูแลด้านการตลาดให้อีกแรงปลายฟ้าซึ่งยังรักตะวัน ตั้งใจจะทำให้เขาฟื้นคืนความทรงจำได้อีกครั้ง แต่อรดีกลับปฏิเสธความหวังดี หญิงสาวจึงได้แต่ไปปรับทุกข์กับศศิน เพราะคิดว่าชายหนุ่มเข้าใจ ศศินจึงถือโอกาสขอคืนดีอีกครั้ง แต่ปลายฟ้าปฏิเสธเพราะหัวใจของเธอมอบให้ตะวันไปจนหมดสิ้น ชายหนุ่มจึงแสร้งยอมรับความจริง และเปิดทางให้หญิงสาวได้ช่วยเหลือตะวันเต็มที่ สร้างความรู้สึกที่ดีให้ปลายฟ้า แต่เขากลับไปกำชับให้อรดีทำทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้ปลายฟ้าได้มีโอกาสพบกับตะวันตามลำพัง ปลายฟ้าตั้งใจจะเอารูปถ่ายของเขาและเธอมาพิสูจน์ความจริงกับตะวัน แต่กลับถูกเกยูรซึ่งอรดีให้มาช่วยดูแลตะวันขัดขวาง ชายหนุ่มเริ่มสะกิดใจนึกสงสัยในท่าทีของปลายฟ้า อรดีจึงตัดสินใจเปิดตัวเกยูรกับสื่อต่างๆว่าเป็นคู่รักของตะวัน เพื่อให้ปลายฟ้าตัดใจ ซึ่งก็ได้ผล

หญิงสาวเสียใจจนคิดว่าหมดหวัง จึงได้แต่ขอร้องศศินให้ช่วย ศศินจึงจำเป็นต้องให้อรดีนัดตะวันออกมาให้ปลายฟ้า ในขณะที่เขากลับเรียกนักข่าวให้มา ทำให้นักร้องหนุ่มซึ่งกลัวเป็นข่าว เข้าใจว่าปลายฟ้าคิดจะใช้สื่อเพื่อจะจับเขา จึงพาลโกรธไม่ยอมฟังคำอธิบายใดๆจากปลายฟ้า หลังจากกลับมาเชียงใหม่ อารักษ์ก็ยังคงติดตามข่าวคราวของตะวันโดยตลอด แก้วตาตัดสินใจแต่งงานกับครูชนะ ทั้งสองส่งการ์ดเชิญให้ตะวันมาร่วมงาน แต่กลับถูกอรดีเก็บไว้ ทำให้บรรดาคนรู้จักที่เชียงใหม่เข้าใจว่าชายหนุ่มลืมตัว อารักษ์ต้องช่วยแก้ต่าง ทั้งที่ใจก็หวังจะได้พบหน้าลูกชายอีกสักครั้ง

กิจการตะวันซาลอนเริ่มมีปัญหา เมื่อมีร้านเสริมสวยที่ใหญ่กว่าและทันสมัยกว่าเข้ามาในตลาด สุขภาพที่เริ่มจะทรุดโทรม ความเคร่งเครียด และความเป็นห่วงลูกชาย ทำให้อารักษ์หน้ามืดบ่อยขึ้น เมื่อไปตรวจก็พบว่าเป็นเนื้องอกในสมอง อารักษ์จึงเลือกที่จะปิดทุกคนเพื่อความสบายใจ นอกจากปรีดาเพื่อนสนิท และประกาศขายร้าน เพื่อย้ายไปอยู่กรุงเทพ จะได้ดูความเป็นไปของลูกชาย โดยหลอกทุกคนว่าจะไปอยู่กับตะวันปรีดาซึ่งกลายเป็นเจ้าของบาร์เบียร์ที่พัทยาเป็นห่วงเพื่อน จึงทิ้งงานขึ้นมาเยี่ยมอารักษ์ที่กรุงเทพพร้อมกับเจสัน ฝรั่งซึ่งทั้งสองเคยช่วยชีวิตจากโจร ตอนมาทำธุรกิจที่พัทยาใหม่ๆ เจสันกำลังจะกลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่บ้านเกิด เขามอบเงินให้อารักษ์ไว้ก้อนหนึ่ง เพื่อใช้รักษาตัว แต่อารักษ์เลือกที่จะนำเงินก้อนนั้นเก็บไว้ไปซื้อบ้านอิงดอย บ้านในฝันของสองพ่อลูก โดยให้แก้วตาช่วยดูแล และโกหกทุกคนว่าเป็นเงินที่ตะวันฝากมา

อารักษ์ไปสมัครเข้าทำงานเป็นผู้ช่วยฝ่ายดูแลเสื้อผ้าให้ศิลปินที่บริษัทเลิฟลี่เรคคอร์ด โดยอาศัยเพื่อนเก่าๆที่เคยเป็นนางโชว์ด้วยกันมาก่อนแนะนำ ทำให้เขามีโอกาสได้พบกับลูกชายอีกครั้ง แต่ตะวันก็จำหน้าเขาได้ว่าเคยพบที่โรงพยาบาล จึงไม่ค่อยถูกชะตา เพราะคิดว่าอารักษ์เป็นกะเทยที่แอบปลื้มตนตามที่แม่เคยย้ำไว้ สร้างความน้อยใจให้กับอารักษ์เป็นอย่างมาก แต่เขาก็ต้องอดทน เพียงเพื่อจะได้อยู่ใกล้ชิดลูกชายอรดีต้องการให้ตะวันถ่ายโฆษณาเครื่องสำอางสำหรับผู้ชายของบริษัทตน ศศินเห็นโอกาสที่จะทำให้ปลายฟ้าตัดใจจากตะวันได้เด็ดขาด จึงสนับสนุนให้ตะวันเลือกปลายฟ้ามาเป็นพรีเซนเตอร์ร่วม สร้างความไม่พอใจให้สิริกานดาที่ถูกคาดหมายว่าจะได้งานนี้ การถ่ายทำไม่ค่อยจะราบรื่นนัก

เมื่อปลายฟ้ารู้สึกว่าตะวันเปลี่ยนไปไม่เหมือนก่อน เขาทั้งหยิ่ง และเรื่องมากจนเธอเสียความรู้สึก จึงพยายามเลี่ยงที่จะพูดคุยกับเขา แต่กลับยิ่งเป็นการท้าทายตะวัน เขาเอ่ยชวนเธอไปเที่ยวทำราวกับปลายฟ้าใจง่าย เธอจึงปฏิเสธทั้งพูดจาดูถูก จนชายหนุ่มนึกโกรธต้องการเอาชนะ อารักษ์ซึ่งต้องมาช่วยดูแลเสื้อผ้าให้อยู่ในเหตุการณ์เห็นความบาดหมางของทั้งสอง ก็ได้แต่เตือนสติลูกชาย แต่ตะวันไม่ยอมฟัง และพาลต่อว่าจนอารักษ์ต้องเลี่ยงหลบไปร้องไห้ สร้างความสงสัยให้กับปลายฟ้าในท่าทีที่เขามีต่อตะวันศศินพยายามจะให้ปลายฟ้าเห็นข้อเสียของตะวันยิ่งขึ้นจะได้ตัดใจเสียที เขากล่อมจนสิริกานดายอมร่วมมือยั่วยวนตะวันจนกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่ง เพื่อให้ปลายฟ้าเข้าใจผิดตะวันมากขึ้น และก็ได้ผลเมื่อหญิงสาวซึ่งกำลังมีปัญหาครอบครัว เมื่อผู้เป็นพ่อพัวพันกับคดีทุจริตในราชการเสียใจ และยอมเปิดใจที่จะให้ศศินพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง

ข่าวเสียหายของตะวันมีมากขึ้น จนถูกพบโชค คาดโทษจะฉีกสัญญา ทำให้ตะวันยิ่งเครียดหนัก อีกทั้งปัญหาหนี้พนันก้อนใหญ่ของอรดี ที่เกิดจากการถูกศศินหลอกให้ไปเที่ยวที่บ่อนแห่งหนึ่ง ทำให้ตะวันต้องหาเงินก้อนใหญ่เพื่อมาช่วยเหลือกิจการ ศศินจึงอาศัยโอกาสนี้ยื่นมือเข้าซื้อหุ้นของอรดีทั้งหมด และครอบครองธุรกิจแต่เพียงผู้เดียว โดยยังแสร้งทำเป็นดียินยอมให้อรดีดูแลกิจการตามปกติ ทั้งข่าวสิริกานดา และหนี้พนันของอรดี ทำให้ชื่อเสียงของตะวันเริ่มมีปัญหามากขึ้น ตะวันต้องสร้างภาพทำตัวเป็นคนใหม่ ด้วยการใกล้ชิดเกยูรให้มากขึ้น เพื่อกลบข่าวฉาวกับสิริกานดา นั่นจึงทำให้ปลายฟ้าตัดสินใจเด็ดขาดที่จะล้มเลิกความตั้งใจช่วยชายหนุ่มให้คืนความทรงจำ เธอส่งดอกไม้ที่เขาเคยให้มาตลอดสี่ปีคืน จนชายหนุ่มรู้สึกสะกิดใจ เขาเริ่มที่จะจำอะไรได้บ้างลางๆ แวะไปที่ร้านอาหารซึ่งเคยมากับปลายฟ้าเป็นประจำ ฟังเพลงที่หญิงสาวชอบ แต่ก็มักจะถูกเกยูรและอรดีขัดขวาง ดึงให้เขาเลิกคิดที่จะสนใจเรื่องในอดีตอีก

ช่วงเวลานั้นเองปลายฟ้าก็ตัดสินใจรับปากแต่งงานกับศศิน เพื่อให้พ่อของเขาช่วยเหลือพ่อของตนให้หลุดพ้นข้อกล่าวหาพัวพันเรื่องทุจริต ทำให้เธอค่อยๆหายไปจากชีวิตของตะวัน อารักษ์ซึ่งทำงานฝ่ายเสื้อผ้าก็ได้รับรู้เรื่องราวของลูกชายมาตลอดทั้งจากเพื่อนร่วมงาน และข่าวต่างๆ เขายังคงพยายามที่จะหาโอกาสคอยเตือนตะวัน เกี่ยวกับการใช้ชีวิตด้วยความเป็นห่วง จนชายหนุ่มไม่พอใจ ก็มักจะพาลระเบิดอารมณ์ใส่ แต่อารักษ์ก็ยังทนนิ่ง และพยายามอดกลั้นความน้อยใจ อย่างน้อยก็เพื่อให้ลูกชายได้มีเขาเป็นที่ระบายความอึดอัดในใจ ตะวันเองนั้นก็เริ่มรู้สึกคุ้นกับสิ่งที่อารักษ์พยายามสั่งสอน แต่ก็ยังคงคิดระแวงในความหวังดีของอารักษ์อาการป่วยของอารักษ์เริ่มหนักขึ้นจนถึงกับเป็นลมในที่ทำงาน หมอที่ตรวจอาการอยากให้เขารีบผ่าตัด แต่อารักษ์กลับประวิงเวลาไว้ด้วยความกลัวว่าจะไม่ได้พบหน้าลูกชายอีก แต่อาการที่กำเริบมากจนเขารู้สึกท้อแท้ อารักษ์รู้ดีว่าปลายฟ้าคือผู้หญิงที่ตะวันรัก จึงไปขอร้องให้หญิงสาวช่วยปลอบใจตะวัน จนปลายฟ้าซึ่งยังตัดใจจากชายหนุ่มไม่ขาดยินยอมที่จะไปพบตะวันอีกครั้ง

ชายหนุ่มคิดพิสูจน์ว่าเธอเป็นคนรักของเขาจริงหรือไม่ เขาขอให้เธอพาไปทุกๆ ที่ ซึ่งเธอและเขาเคยไปด้วยกัน ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกคุ้นและพอที่จะจำอะไรได้บ้าง แต่สุดท้ายเขากลับเลี้ยวรถพาเธอเข้าโรงแรม ปลายฟ้าผิดหวังในการกระทำของตะวัน ต่อว่าและตบหน้าเขาอย่างแรงก่อนจะหนีออกไปพบกับอารักษ์ซึ่งคอยตามติดลูกชายทุกฝีก้าวช่วยพาเธอหลบไปได้ปลายฟ้าสอบถามความจริงว่าอารักษ์เป็นใคร แต่เขากลับบ่ายเบี่ยง จนปลายฟ้ายิ่งสงสัย แต่ก็แน่ใจว่าอารักษ์เป็นคนดี จึงไว้วางใจที่จะเล่าเรื่องราวที่บ้านให้หนุ่มใหญ่ฟังเพื่อเป็นการระบายความอัดอั้น อารักษ์จึงแนะนำ และเล่านิทานปลอบใจจนหญิงสาวรู้สึกสบายใจขึ้น นั่นก็ยิ่งทำให้เธอมั่นใจว่าอารักษ์ต้องมีความเกี่ยวข้องกับตะวันอย่างแน่นอนศศินไม่พอใจเมื่อรู้ว่าตะวันพยายามจะติดต่อกับปลายฟ้า เขาบังคับให้อรดีจัดการ สาวใหญ่จึงคิดจะให้ลูกชายหมั้นหมายกับเกยูร แต่ตะวันไม่ยอมเพราะชายหนุ่มเริ่มรู้ใจตัวเองว่าไม่ได้รักเกยูร จึงนัดหญิงสาวออกมาเพื่อบอกความจริง เกยูรรู้สึกอับอายและเสียใจจนถึงขั้นกรีดข้อมือฆ่าตัวตาย แต่โชคดีที่มีคนช่วยไว้ทันเวลา แต่ข่าวของเธอทำให้ชื่อเสียงความเป็นนักร้องของตะวันต้องมัวหมองอีกครั้งตะวันกลุ้มใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะความสัมพันธ์สามเส้าระหว่างเขา เกยูร และปลายฟ้า อารักษ์ก็หาโอกาสให้คำแนะนำชายหนุ่มให้ทำตามหัวใจของตัวเอง ตะวันเริ่มมองอารักษ์ในมุมที่ดีขึ้น และยิ่งคุ้นกับคำสอน ท่าทางของอารักษ์ เหมือนว่าความทรงจำจะกลับคืนมา แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจมากไปกว่าเรื่องราวความรักในตอนนี้ ชายหนุ่มตัดสินใจที่จะบอกรักปลายฟ้า ทั้งที่รู้ว่าเธอกำลังจะแต่งงานกับศศิน ทำให้ปลายฟ้าสับสนระหว่างหัวใจกับความถูกต้องอรดีกลุ้มใจที่กล่อมลูกชายไม่สำเร็จ

ศศินขู่จะขายกิจการทิ้ง ทำให้อรดียิ่งเครียดหนัก ตามติดลูกชาย จนพบว่าอารักษ์นั้นอยู่ใกล้ชิดตะวันตลอดเวลา และคอยส่งเสริมให้ตะวันกลับไปรักปลายฟ้า เธอจึงกลัวว่าทุกอย่างจะเปิดเผย จึงขู่อารักษ์และคิดให้เงินปิดปาก แต่อารักษ์ไม่ยอมรับ เพราะรู้ตัวว่าตนคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน อรดีจึงเล่าความจริงให้ศศินฟัง และจ้างนักเลงไปเล่นงานจนอารักษ์ต้องเข้าโรงพยาบาล ปลายฟ้าไปเยี่ยมอารักษ์ที่โรงพยาบาล และพบว่าเขาเป็นเนื้องอกในสมอง อารักษ์ขอร้องให้ปลายฟ้าช่วยทำให้ตะวันกลับเป็นคนอ่อนโยนเหมือนเดิม และยอมเปิดเผยความจริงทั้งหมดให้หญิงสาวฟัง แต่เขากลับขอร้องให้เธอเก็บความลับเรื่องเขาเป็นพ่อไว้ เพื่ออนาคตของลูกชาย ปลายฟ้าตรงไปหาตะวัน และขอร้องให้ตะวันไปเยี่ยมอารักษ์บ้าง ตะวันพยายามจะขอความรักจากปลายฟ้า แต่เธอปฏิเสธเพราะไม่อยากทำให้ศศินเสียใจ ตะวันจึงได้ตำหนิตัวเอง อารักษ์จึงพยายามจะหาทางปลอบ แต่ชายหนุ่มกลับพาลว่าเป็นความผิดของอารักษ์ และให้ภัครินทร์ไล่อารักษ์ออกจากงานโดยไม่ยอมฟังคำอ้อนวอนร้องขอของอารักษ์ หนุ่มใหญ่จึงต้องเก็บเสื้อผ้ากลับเชียงใหม่ด้วยความเสียใจ แต่อาการของโรคกำเริบขึ้นระหว่างเดินทางเสียก่อน

ศศินคิดหาวิธีกำจัดตะวันออกจากชีวิตปลายฟ้าได้เด็ดขาด เขาปล่อยข่าวเรื่องอารักษ์เป็นพ่อของตะวันให้หนังสือพิมพ์รู้ จนตะวันสับสนเมื่อเขากลายเป็นคนเนรคุณพ่อซึ่งเขาจำอะไรไม่ได้ ชายหนุ่มยิ่งเครียดจัดเมื่อแวะไปดูอาการอารักษ์ที่โรงพยาบาล แล้วพบกับแก้วตากับครูชนะที่รีบลงมาจากเชียงใหม่หลังจากรู้เรื่องราวทั้งหมดจากปลายฟ้าที่ติดต่อไปเพื่อหวังให้อารักษ์ได้มีญาติมาดูแล แก้วตาตรงเข้าไปตบหน้าตะวันและด่าว่าจนชายหนุ่มรู้สึกสับสนไปหมดเกยูรเริ่มทำใจได้กับความรักจึงตัดสินใจที่จะไปเรียนต่อเมืองนอก เธอมาบอกลาตะวัน แล้วเล่าความจริงทุกอย่างให้ฟังว่าเธอไม่ใช่คนรักของเขา ตะวันเครียดหนักและสับสน เขารู้ดีว่ามีปลายฟ้าคนเดียวที่จะเป็นคนที่ให้ความจริงกับเขาได้ ตะวันบุกไปที่งานแต่งงานของศศินกับปลายฟ้าเพื่อไปชิงตัวเจ้าสาวในงานแต่งงาน ศศินโกรธจัดคิดจะตามเล่นงานตะวัน แต่กลับถูกสิริกานดาซึ่งเข้ามาในงานด้วยความโกรธแค้นที่ชายหนุ่มคิดจะเขี่ยเธอทิ้ง เธอเปิดเผยสิ่งที่ศศินทำทั้งหมดให้ทุกคนได้รู้ และยิงชายหนุ่มจนบาดเจ็บสาหัส กลายเป็นอัมพาตครึ่งล่าง ก่อนที่เธอจะยอมมอบตัว

ตะวันได้รู้ความจริงจากปลายฟ้าเรื่องที่อารักษ์เป็นพ่อของตน หญิงสาวพาชายหนุ่มไปพัทยาเพื่อสอบถามจากบรรดาเพื่อนเก่าๆ ของอารักษ์ จนชายหนุ่มยอมเชื่อว่าอารักษ์เป็นพ่อที่เลี้ยงดูตนมา ภาพความทรงจำเก่าๆที่หายไปเริ่มชัดเจนอีกครั้ง ตะวันรีบเดินทางกลับกรุงเทพเพื่อไปเยี่ยมอารักษ์ แต่ระหว่างทางด้วยความประมาทรถที่ขับก็เกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำอารักษ์รู้ข่าวลูกชายบาดเจ็บ ก็หนีออกจากโรงพยาบาลเพื่อไปดูอาการลูกชาย จนรู้ว่าตะวันปลอดภัย เขาจึงคิดหนีทุกคนกลับเชียงใหม่ ตะวันรู้สึกตัว คนแรกที่เขาถามถึงนั้นก็คืออารักษ์ อรดีรู้สึกสำนึกผิดที่ตกเป็นเครื่องมือของความโลภและเห็นแก่ตัว และถูกศศินหลอกใช้ จึงสารภาพทุกอย่างให้ลูกชายฟังตามจริง ตะวันขอร้องให้ทุกคนช่วยกันตามหาพ่อของเขา แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าอารักษ์ไปไหน มีเพียงตะวันที่จำสัญญาของตนกับพ่อได้ ว่าจะไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านอิงดอยด้วยกัน เขาจึงเดินทางไปที่บ้านอิงดอยที่พ่อซื้อไว้ตามคำบอกเล่าของแก้วตา และพบอารักษ์กำลังนอนป่วยหนักอยู่ที่นั่นตะวันพาอารักษ์ไปส่งโรงพยาบาล อาการของเขาเข้าขั้นวิกฤติจนต้องผ่าตัดด่วน โอกาสรอดชีวิตมีเพียงห้าสิบเปอร์เซนต์ ตะวันได้แต่สวดมนต์ขอให้พ่อของตนหายดี แล้วในที่สุดการผ่าตัดก็เสร็จสิ้น เพียงแต่รอให้อารักษ์ฟื้นขึ้น หรือจะหลับชั่วนิรันดร์

ระหว่างนั้นชายหนุ่มต้องปลีกตัวเพื่อไปขึ้นคอนเสิร์ตสำคัญที่เตรียมการไว้ ชายหนุ่มจึงถือโอกาสนี้สารภาพความจริงทุกอย่างกับแฟนเพลงด้วยน้ำตา และประกาศก้องว่าเขาภูมิใจที่ได้เกิดมามีพ่อกะเทยอย่างอารักษ์ บทเพลงพระจันทร์สีรุ้งที่เขาแต่งให้ผู้เป็นพ่อระหว่างที่เดินทาง ถูกขับขานขึ้นสดๆท่ามกลางกำลังใจของทุกคนในที่นั้นที่ส่งไปช่วยอารักษ์ให้ได้ฟื้นคืนกลับมาอีกครั้งแล้วก็เหมือนมีปาฏิหาริย์ อารักษ์ซึ่งหมอลงความเห็นว่าหมดหวังนั้น กลับเริ่มมีอาการตอบสนอง และลืมตาขึ้น เมื่อลูกชายสุดที่รักเดินทางกลับมาหา แต่โชคร้ายที่เขาไม่สามารถจะจำเรื่องราวต่างๆได้อีกเลย แต่ถึงแม้ว่าอารักษ์จะเป็นอย่างไร วินาทีนี้ตะวันก็ไม่ยอมที่จะทิ้งพ่อไปอีก เขาเฝ้าคอยดูแล และอยู่กับพ่อที่บ้านอิงดอยแห่งนั้น โดยมีปลายฟ้าซึ่งได้หมั้นหมายกันไว้ แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนและช่วยดูแลอารักษ์อย่างมีความสุข

จบบริบูรณ์


ลักษณะนิสัยตัวละคร
ตะวัน (รับบทโดย “สุกฤษฏิ์ วิเศษแก้ว – บี้”) ชายหนุ่มช่างฝัน ละเอียดอ่อน สุภาพอ่อนโยน แต่มีไฟฝันทะเยอทะยาน ต้องการการยอมรับจากคนในสังคม คนแวดล้อม เอาจริงเอาจังมุ่งมั่น กตัญญู
ปลายฟ้า (รับบทโดย “ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ – แอฟ”) หญิงสาวสุภาพอ่อนโยน เป็นตัวของตัวเอง กตัญญู มองโลกในแง่ดี รักความถูกต้อง เข้าใจโลก และชีวิต เป็นผู้คลี่คลายปัญหาต่างๆ ทั้งของพ่อตัวเองและของคนรักอย่างตะวัน
อารักษ์ (รับบทโดย “พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง – อ๊อฟ”) หนุ่มใหญ่วัย 35-55 เป็นกะเทยที่สุภาพเรียบร้อย เคร่งขรึม จริงจังกับชีวิตไม่กรี๊ดกร๊าด กรีดกราย มีความฝันสูงสุดกับการเป็นพ่อที่ดี เพื่อลบล้างภาพของตนเอง ขยันอดทน เก็บกด อ้างว้าง มองโลกในแง่ดี เสียสละ
อรดี (รับบทโดย “จินตรา สุขพัฒน์ – แหม่ม”) สาววัย 25-45 เป็นอดีตหมอนวดที่เห็นแก่ตัว ไม่มีคุณสมบัติความเป็นแม่ รักสบาย เจ้าเล่ห์ เพทุบาย จอมโวยวาย ปากร้าย ใจนักเลง บ้ายอ
ศศิน (รับบทโดย “วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย – เอส”) ชายหนุ่มวัย 28-30 เจ้าเล่ห์เจ้าเหลี่ยม เจ้าเสน่ห์ เห็นแก่ตัว เอาแต่ใจตนเอง ยกตนข่มท่านใจคอโหดเหี้ยม เลือดเย็น
ภัครินทร์ (รับบทโดย “สินิทรา บุญยศักดิ์ – นุ่น”) สาวใหญ่วัย 35-40 ญาติผู้พี่ของปลายฟ้าที่มองโลกในแง่ดี มองคนเก่ง ใจดีแต่เข้มงวด มีระเบียบวินัย มองการณ์ไกล มีวาทะดี
เกยูร (รับบทโดย “สุมนรัตน์ วัฒนาเศลารัต – ปีใหม่”) สาววัย 20-25 เพื่อนสนิทที่แอบรักตะวัน หวังดีต่อเขา แต่เพราะความรักที่มั่นคงทำให้เกิดความเห็นแก่ตัว อยากเอาชนะใจตะวัน ยอมทำทุกอย่างทั้งที่รู้ว่าไม่ถูกต้อง
แก้วตา (รับบทโดย “สโรชา วาทิตตพันธ์ – เต๋า”) สาววัย 25-35 เป็นคนสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตน จริงจัง จริงใจ รักและปรารถนาดีต่อทุกคนที่ เกี่ยวข้องกับอารักษ์และตะวัน
สิริกานดา (รับบทโดย “อัมราภัสร์ จุลกะเศียน – มิ้ม”) ดาราสาววัย 20-25 เปรี้ยวจี๊ดจ๊าด จอมมารยา ใช้ชีวิตหวือหวา ชอบทำตัวเป็นข่าวกับเหล่าไฮโซ เพื่อยกระดับตัวเองครูชนะ (รับบทโดย “ธิตินันท์ สุวรรณศักดิ์ – เอ็กซ์”) ชายวัย 35-40 เป็นครูที่ดีมีน้ำใจรักนักเรียน โดยเฉพาะกับตะวันที่รักเหมือนลูก เอาใจใส่อบรมศิษย์โปรดทุกๆ ด้าน รักความถูกต้อง ทุ่มเทเสียสละ
พบโชค (รับบทโดย “ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์ – ป้าแจ๋ว”) หนุ่มใหญ่วัย 45-50 เป็นเจ้าของค่ายเพลงที่เข้มงวด รักความถูกต้อง เจ้าคารม มองทุกอย่างเป็นธุรกิจ เป็นเงิน
สถาพร (รับบทโดย “สถาพร นาควิลัย – ถา”) หนุ่มใหญ่วัย 50-55 นายตำรวจระดับสูงที่ขี้โอ่ รสนิยมสูง หน้าใจใหญ่กว้าง เข้มงวดกับครอบครัว และกับหน้าที่การงานจนกลายเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยพัวพันคดีทุจริตเงินสวัสดิการ
ดารณี (รับบทโดย “สุปราณี เจริญผล – ไก่”) หญิงวัย 50-52 แม่ของปลายฟ้าที่ สวยสง่าสงบเยือกเย็นเป็นผู้ดี เป็นช้างเท้าหลัง ยอมทำตามบัญชาของสามีทุกอย่าง แม้รู้ว่าฝืนใจลูกสาว เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องยุ่งยากในครอบครัว
ศักดา (รับบทโดย “สุเชาว์ พงษ์วิไล – อาเชาว์”) หนุ่มใหญ่วัย 50-55 พ่อของศศิน ผู้มีอิทธิพลทรงอำนาจ ขี้โอ่ ใจนักเลง บ้าอำนาจ รักลูกชาย ลำเอียง
วิมล (รับบทโดย “ชนานา นุตาคม – ดี้”) สาวใหญ่วัย 40-45 จอมอิทธิพลในแวดวงหญิงขายบริการย่านเพชรบุรีตัดใหม่ เค็ม เห็นแก่ตัว ขี้โม้ โลภมาก ปากกล้า
ป้อ (ปรีดา) (รับบทโดย “วรายุธ มิลินทจินดา – ไก่”) หนุ่มใหญ่วัย 45-50 เพื่อนสนิทของอารักษ์ที่ปากร้ายแต่ใจดี ขี้บ่นแต่จริงใจ รักเพื่อน ซื่อสัตย์ มีน้ำใจ
ชัชชัย (รับบทโดย “ปัญญาพล เดชสงค์”) หนุ่มวัย 28-30 รูปหล่อ เจ้าเล่ห์ ปากร้าย เห็นแก่ตัว โลภมาก อกตัญญู
วนัส (รับบทโดย “จุ๊บจิ๊บ เชิญยิ้ม”) หนุ่มวัย 20-25 เป็นเพื่อนสนิทของตะวันที่มหาวิทยาลัย
ฝน (รับบทโดย “ชมพู่ ก่อนบ่ายฯ”) สาววัย 20-25 เป็นเพื่อนสนิทของปลายฟ้าที่มหาวิทยาลัย

My Blog List