“ก๊วนกามเทพ”
บทประพันธ์ วัตตราบ
ทละครโทรทัศน์ ปณธี - ภควดี
กำกับการแสดง วีระชัย รุ่งเรือง
ผลิตโดย บริษัท ดวงมาลีมณีจันทร์ จำกัด
ผู้จัด จันทร์จิรา จูแจ้ง
ออกอากาศ ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 19.15 น. ทางช่อง 3
ถึงแม้ ดวงดาว บุตรสาวคนโตจาก ตระกูลทรัพย์สถิตย์ จะเคยพลาดหวังจากการเป็นสะใภ้แห่ง อภิบูรณา มาแล้วครั้งหนึ่ง หลังจากที่ ไพลิน แม่ของ รองเมือง ไม่ยอมมาสู่ขอเธอให้กับรองเมืองบุตรชาย แต่กลับไปรับ วารี ลูกผู้ดีเก่า มาเป็นสะใภ้แทน แต่ดวงดาวก็ยังคงรักษาคำมั่นสัญญาที่ ก้องไกร ผู้เป็นสามีเคยบอกยก เกษรา บุตรสาวเพียงคนเดียวให้ไปเป็นสะใภ้แห่งอภิบูรณาตกแต่งกับ วาทิต ลูกชายของรองเมืองและวารีให้ได้ ถึงแม้คุณ เรือนทอง ผู้เป็นยาย ดวงเดือน และ ดวงแก้ว ผู้เป็นน้าของเกษราจะไม่เห็นด้วยกับความเห็นของดวงดาวก็ตาม เพราะยังเจ็บแค้นใจไม่หาย ถึงแม้เวลาจะล่วงเลยมานานแล้วก็ตาม แต่ดวงดาวก็ยังคงยืนยันที่จะให้เกษราพิสูจน์ถึงคุณค่าของหญิงสาวแห่งตระกูลทรัพย์สถิตย์ให้ได้ ทั้งยังเป็นการรักษาคำมั่นของผู้เป็นสามีอีกด้วย
เรือนทองรู้สึกผิดไม่น้อย ที่ส่งเกษราไปเรียนต่อที่เมืองนอกเสียนาน เพื่อเป็นการถ่วงเวลาไม่อยากให้เกษราแต่งงานกับวาทิต เพราะหลังจากที่เกษราเดินทางกลับมาจากฝรั่งเศส เกษราก็กลายเป็นสาวฝรั่งจ๋า เปรี้ยวจี๊ด ชนิดที่ไม่เหลือความเป็นกุลสตรีไทยเอาไว้เลย ดวงดาวจึงเริ่มปฏิบัติการขั้นแรก ด้วยการหาครูมาอบรมขัดเกลากิริยา
มารยาทของเกษราเสียใหม่ โดยมี เพ็ญแข อดีตครูใหญ่ที่ผันตัวเองมาเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินของคุณเรือนทอง หลังจากที่โรงเรียนได้ถูกปิดลง รับอาสาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการทำหน้าที่นี้เอง เพ็ญแขพยายามส่งครูฝีมือดีมาอบรมเกษราแล้วหลายคนด้วยกัน แต่ทุกคนก็ต้องถอยร่นกลับไป ด้วยเพราะทนฤทธิ์เดชของเกษราไม่ไหว สุดท้ายเพ็ญแขจึงต้องดั้นด้นไปตามหาบรรดาครูเพื่อนเก่า ซึ่งแต่ละคนก็มีฝีไม้ลายมือระดับเจ้าของรางวัลกันทั้งนั้น แล้วเธอก็ได้พบกับครู เพลินตา เป็นคนแรก ซึ่งในอดีตเพลินตาเคยพานักเรียนไปกวาดรางวัลการประกวดปรุงและตกแต่งอาหารระดับประเทศมาหลายรางวัล แต่ปัจจุบันสาวใหญ่ก็กลายเป็นแม่ค้าขายอาหารตามสั่งอยู่ในตลาดโดยมี สายไหม น้องสาวเป็นผู้ช่วยไปเสียแล้ว ครู สมพร ซึ่งเป็นครูสอนวัฒนธรรมไทย และมารยาทที่เคยพาเด็ก ๆ ไปกวาดรางวัลการประกวดมารยาทดีเด่นมาแล้วก็กลายเป็นเจ้าของ ค่ายมวยสมพรยิม สืบทอดกิจการครอบครัวหลังจากที่พ่อของเธอเสียชีวิตลง ส่วนครู นวลน้อย อดีตครูสอนนาฏศิลป์ก็กลายเป็นครูสอนหางเครื่องรำซิ่งโชว์ตามคาเฟ่ให้กับ โชค ผู้เป็นหลานชาย เพ็ญแขเริ่มหมดหวังจากเพื่อน ๆ ทั้งสามของเธอ เพราะนอกจากทุกคนจะไม่เหลือคราบความเป็นครูคนเก่าอีกแล้ว แต่ละคนก็แทบจะไม่อยากกลับไปเป็นครูเหมือนดังเดิมอีก มีเพียงค่าตอบแทนที่เพ็ญแขนั้นเสนอเอาไว้ชนิดที่เรียกว่าสูงลิบ เพื่อจูงใจเพื่อน ๆ ให้กลับมาทำงานในหน้าที่เหมือนเดิมเท่านั้นที่ทิ้งไว้ให้ทุกคนคิด แล้วเพ็ญแขก็เดินทางกลับมากรุงเทพฯ ด้วยความหวังที่เลือนราง
รองเมืองตั้งใจที่จะให้วาทิตแต่งงานกับเกษราเหมือนเดิม เพราะนอกจากจะเป็นการรักษาสัญญากับเพื่อนเก่าอย่างก้องไกรแล้ว เขายังสำนึกในบุญคุณในครั้งที่ก้องไกรยังมีชีวิตอยู่ และได้เกื้อกูลช่วยเหลือเขาเรื่องเงินทองจนสามารถมีฐานะอยู่ได้ดีจนถึงทุกวันนี้ เมื่อรองเมืองรู้ข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์ว่าเกษราได้เดินทางกลับมาจากต่างประเทศแล้ว เขาจึงไม่รอช้ารีบเชิญเกษรามาทานข้าวที่อภิบูรณาทันทีเพื่อเป็นการดูตัวและผูกสัมพันธ์ของคนทั้งสองตระกูลเข้าด้วยกัน แต่ทุกอย่างก็กลับดูเหมือนจะไม่เป็นใจเพราะทั้งไพลินประมุขแห่งอภิบูรณา ซึ่งเป็นผู้ดูแลอภิบูรณาอยู่ขณะนี้ และ รำไพ ผู้เป็นป้าหัวโบราณที่ประชดไพลินด้วยการไม่ทำอะไร นอกจากใช้สมบัติเก่าไปวัน ๆ เพราะไพลินบังคับให้เธอแต่งงานกับคนลวงโลกพ่อของ รุ่งทิวา จนชีวิตครอบครัวของเธอต้องพังทลายลง รพีพรรณ ผู้เป็นอาของวาทิต ซึ่งชอบเข้าสังคมและพูดคุยแต่เรื่องนินทาว่าร้ายชาวบ้านตลอดเวลา ทำตัวไร้สาระไปวัน ๆ ก็แสดงท่าทีไม่ชอบใจเกษราตั้งแต่แรกเห็น ที่สำคัญเธอไม่อยากให้คนของทรัพย์สถิตย์มาร่วมใช้นามสกุลเดียวกับเธอรวมไปถึงวาทิตด้วย เพราะนอกจากเกษราจะไม่มีกิริยามารยาทเหมือนกุลสตรีไทยแล้ว เธอยังแต่งตัวเป็นสาวเปรี้ยวจัดชนิดที่ชายหนุ่มทนรับไม่ไหว ผิดกับเขาที่เป็นคนคร่ำเคร่งอยู่ในกฎระเบียบแห่งชีวิต ยิ่งถ้าเปรียบเทียบกับ กิ่งแก้ว เพื่อนอาจารย์ในมหาวิทยาลัยซึ่งมีความงามพร้อมแล้วเกษราก็ตกรอบแรกไปเลย แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านความหวังที่เกษราจะได้เป็นสะใภ้แห่งอภิบูรณาก็เรืองรองขึ้นมาทันที เมื่อสามอาจารย์เดินทางมาที่ทรัพย์สถิตย์พร้อม ๆ กัน ถึงแม้แต่ละคนจะแสดงท่าทีไม่ลงรอยกันเพราะต่างคนต่างมั่นใจในความเป็นหนึ่งของตัวเอง แต่ทุกคนก็เริ่มทำงานด้วยความตั้งใจ แม้จะต้องล่าถอย อ่อนใจไปบ้างในบางครั้ง เมื่อเกษราออกฤทธิ์ทำท่าไม่สนใจเรื่องวิชาความรู้ต่าง ๆ ที่อาจารย์ทั้งสามสอนให้ จะลุกจะนั่งก็ดูขัดหูขัดตา แถมยังแต่งตัวหวือหวาไปซะทุกอย่าง ซ้ำยังชอบชวนอาจารย์ทั้งสามออกไปท่องราตรีในยามค่ำคืน
เกษราถูกเรียกตัวไปที่อภิบูรณาบ่อยครั้งขึ้น เพื่อทดสอบเรื่องกิริยามารยาท ซึ่งเกษราเองก็แสนจะเบื่อหน่าย ในการที่คุณไพลินจะต้องทานอาหารตำรับชาววังแทบทุกมื้อ ต้องฟังดนตรีไทย บางครั้งก็จะมีทั้งรุ่งทิวาบุตรสาวของรำไพและกิ่งแก้วมาคอยบรรเลงให้ฟัง แถมเธอยังต้องอ่านหนังสือให้คุณย่าไพลินฟังอีก แต่ความน่าเบื่อหน่ายเหล่านี้ก็ค่อย ๆ จืดจางลงเมื่อเกษราได้พบกับ คุณปู่พจน์ ซึ่งป่วยเป็นอัมพาตอยู่ที่เรือนหลังเล็ก เธอมีโอกาสได้พูดคุยกับชายชราด้วยบ่อยครั้ง จนกลายเป็นความผูกพัน เพราะนอกจากวาทิตแล้วสมาชิกในบ้านอภิบูรณาไม่เคยมีใครหันมาสนใจดูแลปู่พจน์เลย เมื่อวาทิตได้รู้จากผู้เป็นปู่ว่าเกษรามักจะมานั่งเป็นเพื่อนคุยคลายเหงา ชายหนุ่มจึงเริ่มมองหญิงสาวในทางที่ดีขึ้น ยิ่งเมื่อวันที่เขาเกิดล้มป่วยลงอย่างกะทันหัน เกษราก็รีบพาเขาไปหาหมอและดูแลปรนนิบัติอย่างดี จึงยิ่งทำให้ชายหนุ่มเห็นความดีและความอ่อนหวานในตัวเกษรามากยิ่งขึ้นไปอีก
เกษราถูกเรียกตัวไปที่อภิบูรณาบ่อยครั้งขึ้น เพื่อทดสอบเรื่องกิริยามารยาท ซึ่งเกษราเองก็แสนจะเบื่อหน่าย ในการที่คุณไพลินจะต้องทานอาหารตำรับชาววังแทบทุกมื้อ ต้องฟังดนตรีไทย บางครั้งก็จะมีทั้งรุ่งทิวาบุตรสาวของรำไพและกิ่งแก้วมาคอยบรรเลงให้ฟัง แถมเธอยังต้องอ่านหนังสือให้คุณย่าไพลินฟังอีก แต่ความน่าเบื่อหน่ายเหล่านี้ก็ค่อย ๆ จืดจางลงเมื่อเกษราได้พบกับ คุณปู่พจน์ ซึ่งป่วยเป็นอัมพาตอยู่ที่เรือนหลังเล็ก เธอมีโอกาสได้พูดคุยกับชายชราด้วยบ่อยครั้ง จนกลายเป็นความผูกพัน เพราะนอกจากวาทิตแล้วสมาชิกในบ้านอภิบูรณาไม่เคยมีใครหันมาสนใจดูแลปู่พจน์เลย เมื่อวาทิตได้รู้จากผู้เป็นปู่ว่าเกษรามักจะมานั่งเป็นเพื่อนคุยคลายเหงา ชายหนุ่มจึงเริ่มมองหญิงสาวในทางที่ดีขึ้น ยิ่งเมื่อวันที่เขาเกิดล้มป่วยลงอย่างกะทันหัน เกษราก็รีบพาเขาไปหาหมอและดูแลปรนนิบัติอย่างดี จึงยิ่งทำให้ชายหนุ่มเห็นความดีและความอ่อนหวานในตัวเกษรามากยิ่งขึ้นไปอีก
ครูทั้งสามต่างก็แข่งกันที่จะสอนให้เกษราเรียนได้ดีที่สุดในวิชาของตนเอง ถึงแม้บางครั้งจะถูกดวงเดือนกับดวงแก้วคอยขัดขวางการเรียนการสอนอยู่บ้าง เพราะผู้เป็นน้าก็เห็นด้วยกับเรือนทองที่ไม่ต้องการให้หลานสาวตกไปเป็นสะใภ้ของบ้านอภิบูรณา ทั้ง เพลินตา สมพร และนวลน้อย ต่างก็พยายามที่จะให้ตนเองได้เป็นครูเพียงคนเดียวของเกษราเพื่อที่จะได้เงินก้อนโตตามที่เพ็ญแขเคยเสนอให้ไปจัดการหนี้สินของตนเองเกษรารับรู้ถึงปัญหานี้จึงอาสาที่จะขอเงินพิเศษเพิ่มให้จากเพ็ญแข ทำให้ครูทั้งสามเพิ่มความรักในตัวเกษรามากขึ้นและยอมร่วมมือกันที่จะทำให้ลูกศิษย์ของตนเองเข้าไปเป็นสะใภ้แห่งอภิบูรณาให้ได้
ในงานเลี้ยงฉลองแซยิดคุณไพลิน เกษรากับอาจารย์ทั้งสามต้องกลายเป็นแม่งานไปโดยปริยาย หลังจากที่รำไพและรพีพรรณวางแผนให้ เอียด แม่บ้านใหญ่และ ล้อม ผู้เป็นหลานสาวลาพักร้อน แล้วแกล้งโทร.ไปปรึกษากับดวงดาวเรื่องงานเลี้ยง ดวงดาวเองก็ได้โอกาสที่จะโชว์ฝีมือของลูกสาวจึงตกปากรับคำให้เกษราเป็นแม่งานในครั้งนี้ เพื่อเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่าเกษราเหมาะสมที่จะเป็นสะใภ้แห่งอภิบูรณาเรือนทองไม่ยอมไปร่วมงานครั้งนี้ และยังยืนยันที่จะไม่ร่วมวงศ์ตระกูลกับอภิบูรณาเหมือนดั่งเดิม เพลินตา สมพร และ นวลน้อย ช่วยกันเนรมิตงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยมีรุ่งทิวายื่นมือมาช่วยเรื่องงานครัวบ้าง จึงทำให้เธอสนิทสนมกับเกษรามากยิ่งขึ้น กิ่งแก้วแสดงการรำอวยพรเพื่อเป็นของขวัญให้กับไพลิน ซึ่งก็ทำให้คุณย่าชอบใจไม่น้อย วาทิตเองก็พลอยทึ่งในความสามารถของหญิงสาวไปด้วย ส่วนเกษรานั้นเตรียมการรำฉุยฉายเอาไว้ แต่เกิดความผิดพลาดชุดเกิดหายไปอย่างไม่รู้สาเหตุ เธอจึงต้องโชว์จินตลีลาเพลงบัวขาวแทน โดยมีครูทั้งสามช่วยกันร้องเพลงสดให้ แต่เหมือนโชคเข้าข้าง เพราะเพลงบัวขาวคือเพลงโปรดของไพลิน สร้างความประทับใจให้กับหญิงวัยกลางคนไม่น้อย วาทิตเองก็เริ่มทึ่งและพึงใจในตัวของเกษรา มีเพียงแต่กิ่งแก้วเท่านั้นที่ไม่พอใจกับภาพที่หล่อนได้เห็น
งานแต่งงานของเกษรากับวาทิตถูกจัดขึ้นในเวลาต่อมา ทั้ง ๆ ที่ไพลินก็ยังไม่เต็มใจสักเท่าไหร่นัก วาทิตเองก็ทำไปเพื่อไม่ต้องการได้ชื่อว่าเป็นลูกที่อกตัญญู ดวงดาวมั่นใจว่าลูกสาวของตนเองนั้นจะเป็นสะใภ้ที่ดีได้ เรือนทองมอบที่ดินผืนใหญ่ให้เป็นของขวัญในวันแต่งงาน ซึ่งก็ถึงกับทำให้รำไพและรพีพรรณอิจฉาในความร่ำรวยอย่างแท้จริงของบ้านทรัพย์สถิตย์ ส่วนกิ่งแก้วนั้นก็มีความหวังว่าทั้งสองจะต้องหย่าขาดจากกันในเวลาไม่นาน หลังจากที่รำไพและรพีพรรณได้พูดให้ความหวังว่าทั้งสองคนไม่ได้รักกัน ที่วาทิตแต่งงานด้วยเพียงเพื่อต้องการพยุงฐานะของอภิบูรณาไว้เท่านั้น เกษราเองก็เป็นเพียงสะใภ้แต่ในนาม เธอไม่ได้เกี่ยวข้องกับวาทิตฉันท์สามีภรรยาทั่วไป
งานแต่งงานของเกษรากับวาทิตถูกจัดขึ้นในเวลาต่อมา ทั้ง ๆ ที่ไพลินก็ยังไม่เต็มใจสักเท่าไหร่นัก วาทิตเองก็ทำไปเพื่อไม่ต้องการได้ชื่อว่าเป็นลูกที่อกตัญญู ดวงดาวมั่นใจว่าลูกสาวของตนเองนั้นจะเป็นสะใภ้ที่ดีได้ เรือนทองมอบที่ดินผืนใหญ่ให้เป็นของขวัญในวันแต่งงาน ซึ่งก็ถึงกับทำให้รำไพและรพีพรรณอิจฉาในความร่ำรวยอย่างแท้จริงของบ้านทรัพย์สถิตย์ ส่วนกิ่งแก้วนั้นก็มีความหวังว่าทั้งสองจะต้องหย่าขาดจากกันในเวลาไม่นาน หลังจากที่รำไพและรพีพรรณได้พูดให้ความหวังว่าทั้งสองคนไม่ได้รักกัน ที่วาทิตแต่งงานด้วยเพียงเพื่อต้องการพยุงฐานะของอภิบูรณาไว้เท่านั้น เกษราเองก็เป็นเพียงสะใภ้แต่ในนาม เธอไม่ได้เกี่ยวข้องกับวาทิตฉันท์สามีภรรยาทั่วไป
เกษราขอเวลาในการปรับตัวและทำใจเป็นเวลาสามเดือน เพราะเธอเองก็อึดอัดในความเป็นระเบียบและชีวิตที่อยู่แต่ในกรอบของวาทิต ยังดีที่เธอนั้นมีคุณปู่พจน์เป็นเพื่อนคอยพูดคุยอยู่เสมอ บางครั้งครูทั้งสามก็มาเยี่ยมและขออนุญาตพาหญิงสาวออกไปเที่ยวข้างนอกบ้านบ้างทำให้คลายเครียดลงไป ครูทั้งสามก็พลอยหลงใหลในแสงสียามค่ำคืนไปกับเกษราด้วย ไพลินเองก็เริ่มพึงใจกับหลานสะใภ้คนนี้ เพราะทุกครั้งที่เกษราออกไปนอกบ้าน เธอก็จะมีของติดไม้ติดมือกลับมาฝากทุกคนในบ้าน ซึ่งแสดงถึงความมีน้ำใจได้อย่างชัดเจน และความที่เกษรานั้นทำตัวตามสบาย ไม่ต้องเคร่งเครียดกฎระเบียบเหมือนกับคนในบ้าน ทำให้ทุกอย่างดูผ่อนคลายไปด้วย แต่ทุกสิ่งทุกอย่างนั้น รุ่งทิวาก็จะคอยตักเตือนเกษราเสมอว่าสิ่งไหนควรหรือไม่ควรที่จะปฏิบัติในอภิบูรณา
ไพลินมีอาการเครียดจัด เมื่อเธอขาดส่งบ้านและที่ดินที่เอาไปจำนองไว้กับธนาคาร ส่วนทรัพย์สินภายในบ้านรองเมืองก็นำออกไปขายจนแทบเกลี้ยง วาทิตเองก็พลอยเงียบขรึมเพราะกังวลไปด้วย มีแต่รำไพที่ขอเดินทางไปต่างประเทศกับบรรดาข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ โดยอ้างว่าไม่อยากให้ใครรู้ถึงฐานะที่ตกต่ำภายในบ้าน ส่วนรพีพรรณก็มุ่งเอาแต่ออกงานสังคมโดยไม่มองฐานะของตนเอง ทิ้งให้รุ่งทิวาเป็นคนดูแลไพลินเพียงลำพัง เกษรานั้นเข้าใจดีถึงสถานการณ์ทุกอย่าง เพราะเธอแอบได้ยินไพลินพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ธนาคารโดยบังเอิญ เกษราจึงให้เรือนทองผู้เป็นยายรับซื้อบ้านและที่ดินเอาไว้เมื่อมีเจ้าหน้าที่ธนาคารนำมาเสนอขายกับเพ็ญแข โดยที่คนของอภิบูรณาไม่มีโอกาสได้รับรู้เลยกิ่งแก้วไม่ละความพยายามเธอยังคงเข้ามาวุ่นวายกับวาทิตอยู่เสมอ จนรุ่งทิวาเองอดเป็นห่วงไม่ได้ หญิงสาวจึงตักเตือนวาทิตให้บอกกับกิ่งแก้วว่าอย่ามายุ่งวุ่นวายเรื่องราวภายในบ้านมากนักซึ่งวาทิตเองก็รู้ทุกอย่างดีแต่ก็ไม่อาจจะพูดกับเธอได้ ชายหนุ่มจึงเริ่มเห็นอกเห็นใจเกษรามากยิ่งขึ้น เรือนทองได้เป็นเจ้าของทรัพย์สินของอภิบูรณาทั้งหมดโดยที่ไม่มีใครในบ้านของวาทิตรับรู้เลยแม้กระทั่งตัววาทิตเอง ชายหนุ่มมักจะแวะไปเยี่ยมเยือนเรือนทองอยู่เสมอจึงทำให้หญิงวัยกลางคนเริ่มรักใคร่ในตัวของหลานเขยคนนี้ เรือนทองสั่งให้เพ็ญแขชี้แจงเรื่องธุรกิจตึกแถว ห้องเช่า และที่ดินต่าง ๆ ให้วาทิตรับรู้ แรก ๆ วาทิตนั้นไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย แต่เรือนทองหาทางออกด้วยการเสนอเงินเป็นค่าตอบแทนให้ ทำให้วาทิตสบายใจขึ้น เขาตั้งอกตั้งใจที่จะช่วยเรือนทองดูแลเรื่องทรัพย์สมบัติอย่างดี ซึ่งก็สร้างความพอใจให้กับเรือนทองเป็นอย่างมาก เพราะอย่างน้อยแผนการที่ใช้ลองใจของวาทิตเรื่องการดูแลทรัพย์สินก็ประสบความสำเร็จไปแล้วหนึ่งอย่าง เรือนทองไม่ห่วงอีกต่อไปหากวันหนึ่งวาทิตจะเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินของเธอทั้งหมด เพราะเขาจัดว่าเป็นเด็กหนุ่มที่มีนิสัยดี ซื่อสัตย์คนหนึ่งเลยทีเดียว เมื่อวาทิตได้มีโอกาสใกล้ชิดกับคนของทรัพย์สถิตย์ เขาก็เริ่มคุ้นเคยสนิทสนมกับทุกคนในบ้านในเวลาเพียงไม่นาน รวมถึงครูทั้งสามของเกษราด้วย ทำให้ชายหนุ่มเริ่มมองเกษราในแง่มุมที่ดีขึ้นมาอีก
ยังไม่ทันที่ความสัมพันธ์ของเกษรากับวาทิตจะดำเนินไปด้วยดี โรเจอร์ คนรักเก่าของเกษราก็เดินทางกลับมาจากฝรั่งเศส โรเจอร์ตัดพ้อต่อว่าที่เกษราแต่งงานอย่างกะทันหัน และไม่ยอมบอกกับเขาเพราะหญิงสาวเคยให้สัญญากับชายหนุ่มว่าจะให้คำตอบเรื่องความรักกับเขาก่อน เกษราให้ความสนิทสนมกับโรเจอร์ด้วยความจริงใจ เพราะครั้งหนึ่งหญิงสาวเคยไปอาศัยอยู่ที่บ้านของโรเจอร์ครั้งที่ไปเรียนต่อที่เมืองนอก เธอจึงให้โรเจอร์เข้ามาพักอยู่ในบ้านทรัพย์สถิตย์ ระหว่างที่มาเที่ยวเมืองไทย ด้วยความเป็นห่วงครูทั้งสามจึงออกปากตักเตือนด้วยความหวังดีเพราะเกรงว่าเกษราจะผิดใจกับวาทิต แต่กลับสร้างความไม่พอใจให้กับเกษราเป็นอย่างมาก ครูทั้งสามน้อยใจมากจึงถือโอกาสลาเพ็ญแขกลับบ้านโดยทั้งสามให้เหตุผลว่าหมดหน้าที่ของพวกเธอแล้ว เกษราพาโรเจอร์ไปทานข้าวที่บ้านอภิบูรณาและได้พบกับกิ่งแก้วซึ่งนั่งเคียงคู่อยู่กับวาทิต ทำให้ไพลินกระอักกระอ่วนใจมากกับภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในบ้าน กิ่งแก้วเองก็เกิดการปะทะคารมกับโรเจอร์ วาทิตก็รู้สึกเสียหน้าอย่างแรงจึงมีเรื่องทะเลาะกับเกษรา ทุกอย่างจึงดูยุ่งเหยิงไปหมดประจวบกับที่เรือนทองป่วยหนัก เกษราจึงต้องกลับไปดูแลยายที่บ้านบ่อยครั้ง ทำให้ทั้งสองห่างเหินกัน วาทิตเข้าใจเกษราผิดมากขึ้นไปอีก เพราะเข้าใจว่าผู้เป็นภรรยานั้นกลับไปคบหากับแฟนเก่าเหมือนดั่งเดิมถึงขนาดไม่มีเวลากลับมาหาตนที่บ้านอีก รำไพกับรพีพรรณได้ที ก็ยุให้วาทิตหย่าขาดกับเกษรา ซึ่งกิ่งแก้วเองก็เห็นดีด้วยจึงตามไปต่อว่าเกษราถึงที่บ้าน และบังเอิญได้พบกับโรเจอร์ทั้งสองจึงปะทะคารมกันอีก โรเจอร์นั้นไม่ยอมแพ้เขาตามไปหาเธอถึงมหาวิทยาลัย ถึงแม้จะมี รัศมี เพื่อนขาเม้าท์คนสนิทของกิ่งแก้วคอยกีดกัน หนุ่มตาน้ำข้าวตามกิ่งแก้วจนไปถึงที่บ้านและได้ทำความรู้จักกับพ่อและแม่ของเธอ ด้วยเพราะเขาเริ่มพอใจในตัวอาจารย์สาวผู้นี้เข้าเสียแล้ว ความมึนตึงประชดประชันระหว่างสองสามีภรรยาทำให้สถานการณ์ยิ่งตึงเครียด วาทิตกล่าวหาว่าเกษราจะกลับไปคืนดีกับโรเจอร์ ส่วนเกษราเองก็ต่อว่าชายหนุ่มที่ต้องการจะหย่าขาดจากเธอก็เพื่อไปแต่งงานใหม่กับกิ่งแก้วและจะเอาสมบัติมากู้ฐานะบ้านอภิบูรณาด้วยหลังจากที่เขาและเธอได้หย่าขาดจากกัน ด้วยความโกรธที่ถูกเกษราต่อว่าชายหนุ่มจึงขาดสติปลุกปล้ำหญิงสาวในคืนนั้น และเขาก็ได้รู้ว่าเกษราเป็นหญิงสาวที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่ใช่สาวเปรี้ยว หัวนอก เหมือนกับภาพที่ทุกคนมองเห็น
ยังไม่ทันที่ความสัมพันธ์ของเกษรากับวาทิตจะดำเนินไปด้วยดี โรเจอร์ คนรักเก่าของเกษราก็เดินทางกลับมาจากฝรั่งเศส โรเจอร์ตัดพ้อต่อว่าที่เกษราแต่งงานอย่างกะทันหัน และไม่ยอมบอกกับเขาเพราะหญิงสาวเคยให้สัญญากับชายหนุ่มว่าจะให้คำตอบเรื่องความรักกับเขาก่อน เกษราให้ความสนิทสนมกับโรเจอร์ด้วยความจริงใจ เพราะครั้งหนึ่งหญิงสาวเคยไปอาศัยอยู่ที่บ้านของโรเจอร์ครั้งที่ไปเรียนต่อที่เมืองนอก เธอจึงให้โรเจอร์เข้ามาพักอยู่ในบ้านทรัพย์สถิตย์ ระหว่างที่มาเที่ยวเมืองไทย ด้วยความเป็นห่วงครูทั้งสามจึงออกปากตักเตือนด้วยความหวังดีเพราะเกรงว่าเกษราจะผิดใจกับวาทิต แต่กลับสร้างความไม่พอใจให้กับเกษราเป็นอย่างมาก ครูทั้งสามน้อยใจมากจึงถือโอกาสลาเพ็ญแขกลับบ้านโดยทั้งสามให้เหตุผลว่าหมดหน้าที่ของพวกเธอแล้ว เกษราพาโรเจอร์ไปทานข้าวที่บ้านอภิบูรณาและได้พบกับกิ่งแก้วซึ่งนั่งเคียงคู่อยู่กับวาทิต ทำให้ไพลินกระอักกระอ่วนใจมากกับภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในบ้าน กิ่งแก้วเองก็เกิดการปะทะคารมกับโรเจอร์ วาทิตก็รู้สึกเสียหน้าอย่างแรงจึงมีเรื่องทะเลาะกับเกษรา ทุกอย่างจึงดูยุ่งเหยิงไปหมดประจวบกับที่เรือนทองป่วยหนัก เกษราจึงต้องกลับไปดูแลยายที่บ้านบ่อยครั้ง ทำให้ทั้งสองห่างเหินกัน วาทิตเข้าใจเกษราผิดมากขึ้นไปอีก เพราะเข้าใจว่าผู้เป็นภรรยานั้นกลับไปคบหากับแฟนเก่าเหมือนดั่งเดิมถึงขนาดไม่มีเวลากลับมาหาตนที่บ้านอีก รำไพกับรพีพรรณได้ที ก็ยุให้วาทิตหย่าขาดกับเกษรา ซึ่งกิ่งแก้วเองก็เห็นดีด้วยจึงตามไปต่อว่าเกษราถึงที่บ้าน และบังเอิญได้พบกับโรเจอร์ทั้งสองจึงปะทะคารมกันอีก โรเจอร์นั้นไม่ยอมแพ้เขาตามไปหาเธอถึงมหาวิทยาลัย ถึงแม้จะมี รัศมี เพื่อนขาเม้าท์คนสนิทของกิ่งแก้วคอยกีดกัน หนุ่มตาน้ำข้าวตามกิ่งแก้วจนไปถึงที่บ้านและได้ทำความรู้จักกับพ่อและแม่ของเธอ ด้วยเพราะเขาเริ่มพอใจในตัวอาจารย์สาวผู้นี้เข้าเสียแล้ว ความมึนตึงประชดประชันระหว่างสองสามีภรรยาทำให้สถานการณ์ยิ่งตึงเครียด วาทิตกล่าวหาว่าเกษราจะกลับไปคืนดีกับโรเจอร์ ส่วนเกษราเองก็ต่อว่าชายหนุ่มที่ต้องการจะหย่าขาดจากเธอก็เพื่อไปแต่งงานใหม่กับกิ่งแก้วและจะเอาสมบัติมากู้ฐานะบ้านอภิบูรณาด้วยหลังจากที่เขาและเธอได้หย่าขาดจากกัน ด้วยความโกรธที่ถูกเกษราต่อว่าชายหนุ่มจึงขาดสติปลุกปล้ำหญิงสาวในคืนนั้น และเขาก็ได้รู้ว่าเกษราเป็นหญิงสาวที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่ใช่สาวเปรี้ยว หัวนอก เหมือนกับภาพที่ทุกคนมองเห็น
เกษรากลับมาอยู่บ้านทรัพย์สถิตย์ด้วยหัวใจที่ชอกช้ำและผิดหวังในตัววาทิต เธอสารภาพกับโรเจอร์ว่าสามารถมอบเพียงความเป็นเพื่อนให้กับโรเจอร์ได้เท่านั้น ซึ่งชายหนุ่มเองก็เข้าใจดีและพร้อมที่จะช่วยเหลือเกษราเมื่อรู้ว่าเธอกำลังมีปัญหากับวาทิต โรเจอร์ไปพูดตักเตือนให้กิ่งแก้วได้คิดอีกว่า ยังมีคนใกล้ตัวกิ่งแก้วอีกคนที่ยังสนใจเธออยู่ สร้างความงุนงงให้กับหญิงสาวเป็นอย่างยิ่ง หนุ่มตาน้ำข้าวตัดสินใจออกจากบ้านทรัพย์สถิตย์ แล้วย้ายไปอยู่บ้านใกล้ ๆ กับบ้านของกิ่งแก้วในเวลาต่อมา ชายหนุ่มจึงเริ่มตามจีบกิ่งแก้วอย่างเป็นจริงเป็นจังเกษราตามไปขอขมาครูทั้งสาม ซึ่งทั้งเพลินตา สมพร และ นวลน้อย ก็ยังคบหากันอยู่เหมือนเดิม ไม่ว่าวันใดที่นวลน้อยนึกอยากกินอะไรขึ้นมาก็จะให้เพลินตาทำให้ทาน โดยมีโชคขี่มอเตอร์ไซค์ไปรับกับข้าวมาให้ ซึ่งก็เป็นเหตุให้โชคได้รู้จักกับสายไหมน้องสาวของเพลินตาที่มีฝีไม้ลายมือเรื่องทำกับข้าวไม่แพ้ผู้เป็นพี่สาว ด้วยความเจ้าชู้ของโชคเขาก็ออกลวดลายจีบสายไหมเข้าทันที แต่เพลินตานั้นไม่ชอบใจจึงคอยขัดขวาง ทำเอาชายหนุ่มนึกเกรง ๆ อยู่เหมือนกัน แต่เมื่อมีเกษรามาเป็นแขกที่บ้าน โชคก็เลิกสนใจสายไหมทันทีและหันมาจีบเกษราอย่างจริงจัง แต่เการาก็ไม่ได้ถือสา ปล่อยให้โชคพร่ำเพ้อไปแต่เพียงคนเดียว
ปู่พจน์ป่วยหนัก เฝ้าเรียกหาแต่เกษรา ชายชราขอร้องให้ทุกคนในบ้านเลิกทำท่ารังเกียจสะใภ้หัวนอกคนนี้ แถมขอร้องให้รำไพและรพีพรรณเลิกใช้จ่ายฟุ่มเฟือย จนทำให้อภิบูรณามีปัญหาเรื่องการเงิน เมื่อความลับนี้ถูกเปิดเผยขึ้น ทั้งสองคนจึงถูกไพลินต่อว่าจนต้องยอมรับผิด ปู่พจน์มอบที่ดินผืนสำคัญที่เก็บไว้ตั้งแต่ยังหนุ่มให้กับวาทิตเพื่อนำไปขายแล้วเอาเงินไปไถ่บ้านและที่ดินคืนจากเรือนทอง ไพลินตกใจมากที่สามีล่วงรู้ความลับอันนี้จึงรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถปกป้องทรัพย์สมบัติของตระกูลเอาไว้ได้ เรือนทองเองเมื่อหายจากอาการป่วยก็เดินทางไปที่อภิบูรณาทันที สอบถามเอาความจริงจากวาทิตว่ายังรักหลานสาวของเธออยู่หรือไม่ เพราะอย่างไรเสียเกษรากับวาทิตก็จะได้เป็นเจ้าของทรัพย์สินทั้งหมดอยู่ดี แต่หากวาทิตหมดรักในตัวเกษราแล้วเธอก็จะขายบ้านและที่ดินคืนให้ แต่ไม่มีคำตอบใด ๆ ออกมาจากปากวาทิต ทำให้ทุกคนในบ้านสงสัยถึงความในใจที่เขามีต่อเกษรา
เมื่อวาทิตนึกทบทวนถึงความรู้สึกที่แท้จริงที่เขามีต่อเกษรา ชายหนุ่มจึงตัดสินใจขายที่ดินย่านชานเมืองแล้วนำเงินไปซื้อบ้านและที่ดินของอภิบูรณาคืน เรือนทองเสียใจมากที่วาทิตไม่สามารถกลับมาคืนดีกับเกษราได้อีกจึงจำใจขายทรัพย์สินนั้นคืนให้วาทิตไป ในขณะที่เรือนทองและเพ็ญแขกำลังกลุ้มอกกลุ้มใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพลินตาก็มาปรากฏตัวที่บ้าน เพราะเธอเองก็อดสงสัยในพฤติกรรมของเกษราไม่ได้ ที่ไปขอพักอาศัยอยู่กับตนที่ต่างจังหวัด และไม่เคยพูดถึงวาทิตเลย จึงลงทุนมาสืบเรื่องราวด้วยตนเอง ทั้งเรือนทองและเพ็ญแข จึงเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้กับเพลินตาได้รับรู้ วาทิตไปหากิ่งแก้วที่บ้านและได้รู้ว่าเธอได้ติดบ่วงดวงใจของโรเจอร์เข้าให้แล้ว หญิงสาวจึงสารภาพกับชายหนุ่มว่าจะไปอยู่เมืองนอกกับโรเจอร์ในอนาคต โรเจอร์เองก็บอกกับวาทิตว่าเกษรานั้นมีใจรักต่อวาทิตอย่างแท้จริง สองหนุ่มเกิดความเข้าอกเข้าใจและจับมือแสดงความเป็นมิตรต่อกัน
วาทิตได้พบกับเพลินตาและได้รับรู้เรื่องราวของเกษราทั้งหมดขณะที่ไปอยู่กับครูทั้งสาม ชายหนุ่มจึงรีบกลับไปที่บ้านและบอกกับผู้เป็นย่าว่าจะไปสู่ขอหญิงสาวคนหนึ่งแต่งงาน โดยให้ย่าไปเป็นผู้ใหญ่ให้ ไพลินเข้าใจว่าวาทิตจะไปขอกิ่งแก้วมาเป็นสะใภ้ จึงออกปากปฏิเสธเสียงแข็งไม่ยอมให้ใครมาเป็นสะใภ้อีกนอกจากเกษรา เพราะอย่างไรเสียเธอก็เป็นเด็กสาวที่มีจิตใจงดงามคนหนึ่งเลยทีเดียว เมื่อไม่มีเกษราอยู่ในบ้านก็พลอยทำให้ทุกอย่างเงียบเหงากลับไปสู่บรรยากาศแบบเดิม ๆ
โชคยังตามตื้อเกษราอย่างไม่ย่อท้อ ท้ายสุดเกษราจึงบอกกับเขาว่า เธอแต่งงานแล้ว และไม่สามารถปันใจให้กับชายอื่นได้อีกนอกจากวาทิต และคิดกับโชคเพียงแค่พี่ชายคนหนึ่งเท่านั้น ขอให้เขากลับไปให้ความสำคัญและดูแลสายไหมเหมือนดั่งเดิม โชคจึงได้คิดและหวนกลับไปหาสายไหมอีกครั้ง วาทิตลงทุนติดตามเพลินตาไปงอนง้อขอคืนดีกับเกษราถึงอ่างทอง แต่ไม่ว่าอย่างไรเกษราก็ไม่คลายความโกรธไปได้เสียที จนชายหนุ่มท้อใจเดินทางกลับกรุงเทพฯ อย่างหมดหวัง ทำให้ครูทั้งสามของเกษราพลอยเศร้าใจไปด้วย ครูเติม เพื่อนครูซึ่งรู้จักคบหากับครูสมพรมาเป็นเวลานานก็อดเป็นห่วงสาวใหญ่ไม่ได้ที่เป็นกังวลเรื่องของเกษราจนทำให้เครียดจัด ครูเติมจึงคอยเฝ้าปลอบใจและสารภาพว่าหลงรักสมพรมานับสิบปีและจะไม่รอเวลาอีกต่อไป ทำให้สมพรถึงกับปลื้มและซาบซึ้งกับคำว่าความรักในครั้งนี้
โรเจอร์ตัดสินใจจะพากิ่งแก้วไปอยู่ที่ฝรั่งเศสด้วยจึงพาพ่อกับแม่มาพบญาติผู้ใหญ่ของกิ่งแก้วที่บ้าน ชายหนุ่มออกปากอยากหาแม่ครัวคนไทยสักคนไปช่วยงานที่ร้านอาหารไทยที่โน่น กิ่งแก้วนึกถึงเพลินตาครูสาวของเกษราได้จึงเดินทางไปที่อ่างทองเพื่อพบครูเพลินตาที่นั่น ทั้งสมพรและนวลน้อยต่างก็ดีใจไปกับเพื่อนที่จะได้ไปอยู่ต่างประเทศ กิ่งแก้วได้พบกับเกษราที่นั่นเธอขอโทษในสิ่งที่ผ่านมาและหวังว่าเกษราจะกลับไปคืนดีกับวาทิตในเวลาไม่นาน ประจวบกับที่ปู่พจน์เสียชีวิตลงเกษราจึงยอมกลับมาที่อภิบูรณา ทุกคนมีท่าทีดีกับเธอไม่เหมือนดั่งแต่ก่อน วาทิตยอมสารภาพตรง ๆ ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอในคืนนั้น แท้ที่จริงก็คือความรักที่อยู่ในใจของเขามาเป็นเวลานาน ชายหนุ่มทั้งเสียใจและน้อยใจที่เกษราทิ้งเขาไปอย่างนั้น ต่อไปนี้เขาจะไม่ยอมให้เกษราหนีไปไหนอีก ไม่ว่าหญิงสาวอยากจะทำตัวอย่างไรในบ้านอภิบูรณาเขาก็ยอมได้ทุกอย่าง หากแต่อย่าหนีหายไปจากชีวิตของเขาอีก
เกษราซาบซึ้งในความจริงใจที่วาทิตมีต่อเธอ หญิงสาวจึงยอมยกโทษให้กับความผิดที่ผ่านมา และเธอเองก็ยอมรับว่ารักวาทิตเช่นเดียวกัน ครูสมพรกับครูเติมตกลงที่จะแต่งงานกันและช่วยกันพัฒนาค่ายมวยสมพรยิม ด้านครูนวลน้อยก็ให้นายโชคหลานชายเลิกทำคณะรำซิ่งไปช่วยสายไหมทำกิจการร้านอาหาร ส่วนตัวเองจะกลับไปเปิดโรงเรียนสอนดนตรีไทยที่กรุงเทพฯ โดยการสนับสนุนของเกษรา โชคกับสายไหมตกลงใจใช้ชีวิตร่วมกัน เพลินตาก็ติดตามโรเจอร์กับกิ่งแก้วไปอยู่ต่างประเทศไม่ยอมทิ้งกระทะกับตะหลิวอาชีพที่เธอรักไปตลอดชีวิต คุณไพลินกับคุณเรือนทองก็กลายเป็นคู่หูคู่ใหม่ที่ควงกันไปวัดเป็นประจำเพื่อไปปรึกษาพระเรื่องตั้งชื่อเหลนที่กำลังจะเกิดมา ทั้งสองบ้านกลายเป็นทองแผ่นเดียวกันโดยมีความรักของวาทิตและเกษราเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ของสองตระกูล
ลักษณะตัวละคร
1. วาทิต ชายหนุ่มวัย 25-28 รูปร่างหน้าตาดี บุคลิกดีมีความสง่างามด้วยมาดผู้ดี แม้เป็นอาจารย์ที่มีความคิดอ่านทันสมัยในวิทยาการ แต่การดำเนินชีวิตนั้นยึดติดอยู่กับกรอบประเพณีที่ดีงาม มีอุดมคติเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตที่ไม่หวือหวา ไม่โลดโผน เชื่อมั่นในชาติตระกูล และฝังใจว่าผู้เป็นภรรยาต้องสงบเสงี่ยมเหมือนแม่ตัวเอง ต้องเป็นช้างเท้าหลัง
2. ไพลิน หญิงชรามาดดีวัย 55-60 ที่คงความเป็นผู้ดีทั้งกริยาวาจาและท่วงท่า เผด็จการ หยิ่งและจมไม่ลง ภาคภูมิใจในชาติตระกูลตนเองเป็นอย่างยิ่ง ปลูกฝังทั้งลูกและหลานให้อยู่กินอย่างผู้ดี ทำตัวอย่างผู้ดี แม้บางครั้งแววตาจะแสดงออกถึงความเจ็บปวดสิ้นหวังกับการทำคอระหง บางครั้งอยากจะปล่อยวางมาดผู้ดี จนในที่สุดแบกถือไว้ไม่ไหว เมื่อพบคนจริงใจด้วยอย่างคุณยายเรือนทองก็ต้องยอมจมลง
3. รพีพรรณ สาวใหญ่วัย 35-40 มาดดี เย่อหยิ่ง หัวสูง แต่งตัวเก่ง รสนิยมดี ปากร้ายปากไวแต่คม ชอบค่อนนินทาคนแบบเจ็บ ๆ แบบผู้ดี ขี้โกงนิด ๆ โกงเงินแม่เงินพี่ชายมาเก็บสะสมซื้อข้าวของของตัวเอง ไม่มีน้ำใจพอครอบครัวตกอับไม่เอาใคร
4. รำไพ สาวใหญ่วัย 35-40 มาดดี เย่อหยิ่ง เจ้าคิดเจ้าแค้น จอมประชด ทำตัวเรื่อยเปื่อยไม่สนใจจะทำมาหากินอะไรเพื่อประชดผู้เป็นแม่ที่จัดให้แต่งงานกับผู้ชายที่เป็นผู้ดีจอมปลอม แก้แค้นแม่อยู่เงียบ ๆ ด้วยการเม้มเงินไว้ใช้จ่ายส่วนตัว เวลาครอบครัวตกอับไม่สนใจใครแม้แต่ลูก
5. รองเมือง หนุ่มใหญ่วัย 35-40 เป็นลูกชายคนเดียวของคุณไพลินที่ต้องฟังบัญชาจากแม่ ยอมแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก แต่ยังมีใจรักมั่นกับคนรักเดิม เป็นคนรักษาสัญญา รักเพื่อน อดทน เสียสละให้พี่น้อง
6. วารี สาวใหญ่วัย 35-40 เป็นผู้หญิงหน้าตาธรรมดา กิริยานุ่มนวลเนิบช้า ใจเย็น สงบเสงี่ยม รักครอบครัว กตัญญูต่อแม่สามี
7. รุ่งทิวา หญิงสาววัย 25-28 ลูกสาวของคุณรำไพที่หน้าตาธรรมดา เป็นคนเงียบ ๆ เซื่อง ๆ เหมือนไม่รู้สึกรู้สา แต่รู้เรื่องราวหลายเรื่องลึกซึ้ง คนมองเหมือนติงต๊อง แต่ลึก ๆ คือคนเก็บกด รักความถูกต้องยุติธรรม รู้ผิดชอบชั่วดี
8. เรือนทอง หญิงชราวัย 55-60 ที่มาดดี อารมณ์ดีเบิกบาน จิตใจดีแจ่มใส ทันสมัย ร่ำรวยและใจสปอตกล้าได้กล้าเสีย ขี้เล่นบางเรื่อง จริงจังบางสถานการณ์
9. เกษรา หญิงสาววัย 22-25 สวยเท่ ทันสมัย มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงแต่ก็ยอมทำทุกอย่างตามที่แม่ขอเพราะไม่อยากเป็นเด็กไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับพ่อว่าจะแต่งงานกับคนที่พ่อเลือกให้ ฉลาดหัวไว คล่องแคล่วปราดเปรียว เรียนรู้อะไรได้เร็ว แต่ไม่ค่อยเต็มใจ ไม่พิถีพิถัน แต่แม้จะทำตัวน่าหวาดเสียวสำหรับผู้ใหญ่ที่ได้เห็นแต่ไม่ยอมเสียความเป็นสาวให้ใคร ด้วยความเชื่อมั่นส่วนตัวว่าจะเก็บความภาคภูมิใจไว้ให้ผู้ชายคนที่ตัวเองรักที่สุดเท่านั้น
10. ดวงดาว สาวใหญ่วัย 35-40 ที่มีความคล่องแคล่วปราดเปรียว รู้เรื่องธุรกิจของครอบครัวควบคู่ไปกับครูเพ็ญแขเลขาของเรือนทอง เป็นคนใจนักเลง แต่ไม่กร่างมีความมุ่งมั่นประมาณสิบปีแก้แค้นก็ไม่สาย มีความหวังที่จะเกี่ยวดองกับตระกูลอภิบูรณาให้ได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เมื่อตนเองพลาดรักยังอยากให้ลูกสาวไปเกี่ยวดองแบบมีแผนสลับซับซ้อนเพื่อแก้เผ็ดคุณย่าไพลิน ที่ครั้งหนึ่งเคยปฏิเสธไม่รับเธอเป็นสะใภ้ แต่โดยปกติเป็นคนดี และจริงจังจริงใจต่อการกระทำทุก ๆ อย่าง
11. ดวงเดือน สาวใหญ่วัย 35-40 เป็นสาวโสดที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง เป็นนักธุรกิจที่คล่องแคล่วปราดเปรียว รักหลานสาว รักแรงเกลียดแรง เป็นผู้หญิงมากเรื่องพิธีการเยอะ จึงไม่ตกลงปลงใจแต่งงานกับใคร
12. ดวงแก้ว สาวใหญ่วัย 35-40 เป็นสาวโสดที่รักอิสระทำงานในแวดวงศิลปะบันเทิง มีความเป็นตัวของตัวเองสูง หยิ่งเพราะถือว่าแม่รวย รักพี่ ๆ รักหลาน รักที่จะทำเรื่องสนุก ๆ
13. เพ็ญแข สาวใหญ่วัย 40-50 ที่เป็นลูกจ้างผู้ซื่อสัตย์ ขยันและจริงจัง จริงใจต่อคนตระกูลทรัพย์สถิตย์ รักษาผลประโยชน์ให้สุดชีวิต รักความถูกต้องยุติธรรม
14. เพลินตา สาวโสดสาวใหญ่วัย 40-45 ที่ในอดีตเป็นครูสอนคหกรรมในโรงเรียนเอกชนที่มีชื่อเสียงที่สุด มีฝีมือในการทำอาหารทำขนมระดับมือรางวัล และสอนเด็กจนได้รับรางวัลจากการประกวดทำอาหารและขนมมามากแล้ว ปกติเป็นคนใจเย็น ขยัน รักสวยรักงาม ประณีต บรรจง แต่สถานการณ์เปลี่ยนไปเป็นตรงกันข้ามเมื่อออกจากครูแล้วต้องไปผจญภัยกับการค้าขายข้าวแกงอาหารตามสั่งให้วินมอเตอร์ไซค์ คนงานก่อสร้าง หนุ่ม ๆ สาว ๆ โรงงาน ที่มีทั้งกวนประสาท กวนใจ กวนตีน จึงกลายเป็นคนโผงผางจอมโวยวาย มีตะหลิวเป็นอาวุธคู่กายมานับ 10 ปี
15. สมพร สาวโสดสาวใหญ่วัย 40-45 ที่เป็นอดีตครูสอนศิลปวัฒนธรรมมารยาทไทยให้กับเด็กจนมีเด็กได้รับรางวัลมารยาทงามมาแล้ว หลายปีหลังจากออกจากครูเพราะโรงเรียนปิดกิจการ วิถีชีวิตก็ต้องเปลี่ยนไปต้องไปรับมรดกตกทอดของพ่อดูแลค่ายมวย จากครูมารยาทดีกลายเป็นครูปากร้ายขี้โมโห มือไวกำปั้นหนัก ทันชกเป็นชก ทันถีบเป็นถีบ เพราะต้องควบคุมเด็กหนุ่ม ๆ นักมวย แต่โดยพื้นฐานเป็นคนใจเย็น สงบ พูดน้อย
16. นวลน้อย สาวโสดสาวใหญ่วัย 40-45 ที่แสนจะบอบบางกริยาเนิบนาบ เสียงเพราะ เก่งในเครื่องดนตรีไทยหลายชนิด ร้องเพลงไทยเดิมได้ไพเราะจับใจ ส่งลูกศิษย์ให้ไปรับรางวัลมากมาย ปัจจุบันต้องมาเป็นครูสอนรำซิ่งให้หลานชาย
17. กิ่งแก้ว อาจารย์สาววัย 25-27 ที่สวยสง่าสงบเรียบร้อยในสายตาของคนทั่วไป มีความเป็นกุลสตรีเพราะได้รับการปลูกฝังมาจากแม่ที่เคยเป็นคนรับใช้ในบ้านเชื้อพระวงศ์ เก่งด้านการทำอาหารขนมและนาฏศิลป์ แต่เพราะรักวาทิตมากจึงทำอะไรร้ายได้อย่างแนบเนียนกับเกษรา
18. ก้องไกร หนุ่มใหญ่วัย 40 เศษ ที่เป็นสุภาพบุรุษ รักครอบครัว ซื่อสัตย์ กตัญญู เพราะรักคุณดวงตาด้วยความจริงใจ เมื่อรู้ว่าคุณดวงตาไม่ได้แต่งงานกับคุณรองเมืองเพื่อนกันแล้วก็พยายามดูแลคุณดวงตาจนได้แต่งงานด้วย แต่เพราะทำงานหนักและมีโรคร้าย ทำให้ต้องเสียชีวิตลงก่อนใคร ๆ และได้ฝากฝังครอบครัวและลูกสาวไว้พร้อมกับบอกยกเกษราให้เป็นสะใภ้ตระกูลอภิบูรณา
19. โรเจอร์ หนุ่มชาวฝรั่งเศส อายุ 25-28 สุภาพเรียบร้อยและสนใจวัฒนธรรมไทย สนใจชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย ให้เกียรติสุภาพสตรี และไม่เคยล่วงเกินเกษรา ยอมรับการอกหัก
20. จอน คนขับรถบ้านคุณย่าไพลินที่รับใช้มาตั้งแต่อายุรุ่นหนุ่ม จนเป็นหนุ่มใหญ่อายุ 40-45 ซื่อสัตย์เถรตรง
21. เอียด สาวใช้สาวใหญ่วัย 40-45 ที่มีฝีมือในการทำอาหารไทย ขนมไทย และในการจัดการเรื่องงานบ้านงานเรือน เป็นสาวโสด เป็นคนเค็ม เขี้ยว ชอบเม้มเล็กผสมน้อย ชอบทำธุรกิจเล็ก ๆ น้อย ๆ ออกเงินกู้ ยอมรับที่เงินของคนมากกว่ายอมรับคน
22. ล้อม สาวใช้วัย 20-25 หลานแม่เอียด ซื่อสัตย์ ขยัน รักสวยรักงาม รักความถูกต้องยุติธรรม
23. จวน สาวใช้วัย 40-45 ที่ดูแลความเรียบร้อยของบ้านทรัพย์สถิตย์มานาน เหมือนเป็นสมาชิกคนหนึ่งในบ้าน รักและซื่อสัตย์ต่อคุณยายเรือนทอง รักและเอ็นดูเกษราเพราะเลี้ยงมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย
24. เติม ครูมวยที่เป็นศิษย์รุ่นแรก ๆ ของค่ายมวย อายุ 40-45 เป็นโสด ใจดี ซื่อสัตย์
25. รัศมี เพื่อนครูสาวของกิ่งแก้ว อายุ 25-27 เป็นคนไม่สวย ไม่มีเสน่ห์ แต่ก็เป็นแรงเชียร์เป็นขาเม้าท์ของการะเกด
26. โชค หลานชายของครูนวลน้อย อายุ 25-30 เป็นหนุ่มลูกทุ่งที่มีความฝันความหวังจะได้ออกทีวีแต่จับพลัดจับผลูต้องมาเป็นหัวหน้าคณะรำซื่งโชว์ตามคาเฟ่
27. พุดกรอง แม่ของการะเกด วัยประมาณ 40-45 ท่วงท่ากิริยาเป็นผู้ดี สงบเสงี่ยม เรียบง่าย แต่ปลูกฝังลูกให้มองหาผู้ชายที่เพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติและทรัพย์สมบัติ
28. ประสาน พ่อของการะเกด วัยเกษียณที่สงบเงียบไม่มีปากเสียง แต่คอยค้านเวลาที่เมียปลูกฝังลูกเรื่องการหาคู่
29. พจน์ ปู่ของวาทิต อายุประมาณ 60 สงบปากสงบคำ หม่นเศร้า เพราะเป็นอัมพาธเดินไม่ได้
30. สายไหม น้องสาวครูเพลินตาวัย 25-30 เป็นชาวบ้าน เป็นคนเรียบง่าย เนิบช้า ครูเพลินตาต้องคอยจ้ำจี้จ้ำไชตามสไตล์ครู
31. สายพิณ แม่ของครูเพลินตา วัย 55-60 หญิงชราที่สงบเสงี่ยม มีชีวิตที่เรียบง่าย
32. จิ๊บ สาวใช้ลูกสาวแม่จวน อายุ 20-25 ชื่นชอบชื่นชมคนของเกษราทุกคน ไม่ว่าจะเป็นวาทิตหรือโรเจอร์ ปลื้ม กรี๊ด ฝันเฟื่อง
33. ชุบ คนขับรถวัยประมาณ 40-45 แอบปลื้ม ๆ บรรดาครูสาวใหญ่อยู่เงียบ ๆ แต่เป็นคนดี ซื่อสัตย์