Thursday, June 11, 2009

เรื่องย่อ: ดงผู้ดี



เด็กหญิง ขม (ณฐพร เตมีรักษ์) วัย 10 ขวบเติบโตขึ้นมาโดยไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อ รู้เพียงแต่ว่ามีแม่ชื่อ แข (จริยา แอนโฟเน่) ซึ่งจำเรื่องราวอะไรที่เกิดขึ้นในชีวิตก่อนหน้านี้ไม่ได้เลยแม่รู้เพียงแต่ว่าตัวเองชื่อแข
และมีลูกชื่อขมอย่างอื่นจำไม่ได้ รวมทั้งจำไม่ได้ว่าทำไมหลังแม่จึงบาดเจ็บจนกลายเป็นคนหลังค่อมแม่ลูกได้รับการอุปการะจากคุณครูสมพร คุณครูผู้ใจดีมีฐานะเป็นครูใหญ่และเจ้าของโรงเรียนสมพรอนุกูลแล้ววันหนึ่งขมก็ได้เจอพ่อเมื่อครูสมพรจัดงานวันเกิดให้พี่ชายคือท่านข้าหลวงสมศักดิ์ พิทักษ์เขต แล้วใครคนหนึ่งก็เข้ามาหาแม่เรียกแม่ว่า “แข” แม่จำเขาได้และบอกขมว่าจำได้แล้วว่าใครเป็นพ่อขม แม่ฝากขมไว้กับเขาคนนั้นและแม่ก็สิ้นลม


เมื่อจัดงานศพแม่เสร็จ “เขา” ซึ่งขมเข้าใจว่าเป็นพ่อ บอกกับใครๆว่าชื่อ“พิทย์ รุ้งพลาย” (ธนากร โปษยานนท์)พิทย์พาขมเข้ากรุงเทพฯและนำขมไปฝากไว้กับเพื่อนเก่าชื่อ รังสรรค์ รัตนเดชากร (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) ให้เลี้ยงดูแลให้การศึกษาเสมอด้วยลูกสาวสองคนของเขา คือ รติรสและพจนีย์ (ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง) รังสรรค์ข่มความโกรธและจำใจรับขมไว้ ขมอยู่ในบ้านอย่างไม่มีความสุขเพราะรังสรรค์และบุหงา ภรรยาใหม่ของเขาไม่ชอบหน้าสั่งให้ทำงานเสมือนเด็กรับใช้คนหนึ่ง ดีที่มีเพื่อนเล่นอย่างรัฐ และรัมภ์ พิชัยรณรงค์ สองพี่น้องหลานชายของคุณหญิงนรราชเสวี ที่อยู่บ้านติดกันจึงพอจะคลายเหงาไปบ้าง ฝ่ายพิทย์เดินทางไปต่างประเทศจะไม่มีข่าวคราวแต่พิทย์หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ชวาล สุรบดินทร์ ได้ฝากญาติผู้น้องคือ ชาติสยาม สุรบดินทร์ (กฤษฎา พรเวโรจน์) ให้ช่วยดูแลขมด้วย หากเขาเป็นอะไรไป


ไพลิน รัตนเดชา พี่สาวของรังสรรค์ เกิดสงสัยว่าขมเป็นลูกของใครเพราะหน้าตาเหมือนใครคนหนึ่งที่เธอรู้จักแต่คุณหญิงรัตน เดชากร ก็มั่นใจว่าขมเป็นลูกของ แขนภา นิติการ ซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวของขุนนิติการดำรงค์ ทนายประจำตระกูลรัตนเดชากร วันเวลาผ่านไปหลายปีจนเด็กหญิงขมโตเป็นสาวสวยเธอนับวันรอพ่อกลับมารับแต่ก็ไม่เคยเจอพ่อเลยแม้แต่ครั้งเดียว ภาสธร ลูกชายคนเดียวของคุณไพลินเพิ่งกลับมาจากอเมริกา ได้นำข่าวของพิทย์มาบอกว่าสบายดีไม่ต้องเป็นห่วงทำให้ขมรู้สึกสบายใจขึ้นแล้วในที่สุดชาติสยามก็เดินทางมาถึงเมืองไทย ชาติสยามได้บอกให้หม่อมเจ้าหญิงโสมวดี สุรบดินทร์ คุณแม่ของเขาทราบว่า ชวาลญาติผู้พี่ของเขาได้เสียชีวิตแล้วโดยได้เขียนพินัยกรรมยกทรัพย์สมบัติของเขาทั้งหมดให้กับขม


คุณหญิงรัตนเดชากรและคุณไพลินทั้งคู่มั่นใจว่าขมเป็นหลานสาวของตนเองและเป็นลูกของแขนภากับรังสรรค์จึงพยายามถามประวัติของพิทย์ รุ้งพลายจากชาติสยามจึงได้รู้ความจริงว่าชื่อจริงคือ ชวาล สุรบดินทร์เคยเป็นเพื่อนรักของรังสรรค์ซึ่งไปมาหาสู่กันเสมอแต่มาผิดใจกันเพราะรังสรรค์เข้าใจว่าชวาลเป็นชู้ของแขนภาภรรยาคนแรกซึ่งเป็นแม่ของรติรสด้วยประกอบกับช่วงนั้นรังสรรค์ไปถูกใจสาวคนใหม่ชื่อบุปผาพี่สาวของบุหงา จึงทำให้แขนภาตรอมใจและหนีหายออกจากบ้านไปโดยไม่มีข่าวคราว ทำให้ทุกคนเข้าใจว่าหนีตามชวาลไป เมื่อปะติดปะต่อเรื่องราวคุณหญิงรัตนเดชากรและไพลินเชื่อมั่นว่า ขมเป็นหลานของเธออย่างแน่นอนจึงขอร้องให้ชาติสยามติดต่อชวาลเพื่อมายืนยันความเป็นจริง ชาติสยามจึงเล่าให้ทั้งสองทราบว่าชวาลสียชีวิตแล้วแต่ได้ทิ้งเอกสารสำคัญไว้ให้เปิดดูตอนขมอายุ18ปี


เมื่อรังสรรค์รู้ความจริงว่าขมเป็นลูกของตนจึงรู้สึกสำนึกผิดและพยายามทำดีกับขม แต่ขมก็ไม่สามารถยอมรับได้ว่ารังสรรค์เป็นพ่อเพราะสิ่งที่รังสรรค์ได้ทำไว้กับขมนั้นเกิดจะให้อภัยได้ส่วนรัฐขอขมแต่งงานหลังเรียนจบ ขมเองแม้จะไม่ได้รักรัฐแต่ใจอยากจะไปจากบ้านก็เลยยอมตามใจรัฐ แต่สุดท้ายขมก็เปลี่ยนใจไม่แต่งงานกับรัฐ ส่วนชาติสยามกำหนดวันแต่งงานกับรุ้งกาญจน์หลังวันที่ขมเดินทางไปเรียนต่อแต่รัฐขอทำปริญญาโทในเมืองไทยเพราะเป็นห่วงคุณหญิงนรราชเสวี ขมได้เขียนจดหมายมาเล่าให้ฟังว่ารู้จักหนุ่มนักเรียนไทยชื่อปิยะ ปิติกุล มีความสนิทสนมกันมากและ ปิยะได้ขอหมั้นขมไว้ก่อน


คุณรังสรรค์ป่วยหนักเป็นมะเร็งที่ตับเขาขอร้องอยากจะพบหน้าขมก่อนตายขมยอมละทิฐิไปเยี่ยมพ่อเป็นครั้งสุดท้ายทำให้รังสรรค์ดีใจมากคุณรังสรรค์ตายอย่างสงบท่ามกลางความเสียใจของทุกคน รัฐกับรติรสก็คิดจะหมั้นกันไว้ก่อน หลังงานเผาของพ่อรุ้งกาญจน์เกิดอุบัติเหตุรถที่นั่งไปชนกับแท็กซี่อาการสาหัสมาก โดยก่อนสิ้นใจเธอได้ฝากขมให้ช่วยดูแลชาติสยามด้วยหลังจากรุ้งกาญจน์ตายไปชาติสยามก็พยามทำงานหนักเพื่อให้ลืมเรื่องราวต่างๆ ส่วนขมก็กลับไปเรียนต่อจนจบ หนึ่งปีผ่านไปเมื่อได้เจอหน้ากันอีกครั้ง ชาติสยามไม่ได้ตั้งความหวังใดๆเพราะคิดว่าขมจะหมั้นและแต่งงานกับปิยะแต่แล้วขมก็ปฎิเสธปิยะไปทำให้ชาติสยามมีความหวังอีกครั้งจึงขอขมแต่งงานซึ่งขมไม่ปฎิเสธเพราะในใจนั้นรักและเทิดทูนอาชาติสยามมาตลอด


บทประพันธ์ : -บทโทรทัศน์ : -กำกับการแสดง : พงษ์พัฒน์ วชิระบรรจง

ออกอากาศทุกวัน : ศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3

นักแสดงฉัตรชัย เปล่งพานิช รับบทเป็น รังสรรค์ รัตนเดชากร : ชายวัย 40 ต้นๆ เมื่อเริ่มเรื่อง เป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลเก่าแก่ ที่มั่งคั่ง จึงถูกเลี้ยงดูมาอย่างค่อนข้าง จะเอาความคิด และอารมณ์ตัวเองเป็นใหญ่ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เต็มไม้เต็มมือนัก เพราะยังมีแม่( คุณหญิงรัตนเดชากร – คุณจารุวรรณ ปัญโญภาส )และพี่สาว ( คุณไพลิน – คุณชลิดา เถาว์ชาลี ตันติพิภพ ) คอยทัดทานเสมอ เป็นคนอารมณ์ร้อน และเชื่อมั่นว่าความคิด การตัดสินใจของตัวเองถูกต้องเสมอ ไม่ยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และพร้อมจะโยนให้เป็นความผิดของคนอื่น


จริยา แอนโฟเน รับบทเป็น แขนภา นิติการ : ลูกสาวขุนนิติการดำรง ทนายความประจำตระกูล รัตนเดชากร เมื่อพ่อตายคุณหญิงรัตนเดชากรจึงนำมาเลี้ยงดูเป็นลูกบุญธรรม เธอสวยงามหมดจดทั้งกายและใจ อ่อนหวาน มารยาทงามเยี่ยงหญิงไทยที่ได้รับการอบรมมาอย่างดี การศึกษาไม่ใช่ขี้ๆ อ่านออกเขียนได้แตกฉานประมาณนึง เป็นที่รักของคนในบ้านพุทธชาด รวมทั้งรังสรรค์ซึ่งรักอย่างโงหัวไม่ขึ้น แขนภาเองก็รักรังสรรค์อย่างมอบ หัวใจ และความภักดีให้ทั้งหมด จนกระทั่งมีลูกคนแรกด้วยกัน( รติรส )

แต่จู่ๆ ความหวัง ความฝัน ก็ต้องพังทลายเพราะรัง ณฐพร เตมีรักษ์ รับบทเป็น ขม รุ้งพราย : เริ่มเรื่องอายุ 10-11 ขวบ เป็นเด็กกำพร้าพ่อ อยู่กับแม่อย่างรอคอยความหวังว่าซักวัน จะได้รู้ชาติกำเนินตัวเอง เพราะรู้สึกต่ำต้อยที่ตัวเองไม่มีพ่อเหมือนคนอื่น แต่คนที่อยู่รายล้อม พร่ำสอนอบรมอย่างดีเสมอ ขมจึงมีพื้นฐานจิตใจที่อ่อนโยน แต่แข็งแกร่ง ต่อต้านความไม่ยุติธรรมและการเอารัดเอาเปรียบ หรือแม้แต่ความเหลื่อมล้ำ ทางฐานะและสภาพในสังคม เมื่อแม่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ ชีวิตทั้งชีวิตขมจึงฝากไว้กับพ่อ (พิทย์ รุ้งพราย ) แต่ความสุขแสนสั้น เพราะพ่อต้องพาขมไปฝากไว้ทีเพือนเก่า


กฤษฎา พรเวโรจน์ รับบทเป็น ชาติสยาม สุรบดินทร์ : หนุ่มไม่น้อยไม่ใหญ่ วัยสามสิบต้นๆ นักเรียนเก่งอังกฤษ กิริยามารยาทจึงสง่าผ่าเผย เป็นสุภาพบุรุษทุกกระเบียดนิ้ว ไม่มีตกหล่น อ่อนโยน เก็บอารมณ์ได้เป็นอย่างดี มองโลกในแง่ดีเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเหตุผลและคุณธรรมนำทาง ใส่ใจในทุกรายละเอียดของการดำเนินชีวิต และความรู้สึกของคนรอบตัว แต่ไม่ใช่ผู้ชายอ่อนไหว ชาติสยามรับราชการในกระทรวงการต่างประเทศ อนาคตไกล พื้นฐานครอบครัวเป็นตระกูลเก่า ที่ทำคุณเอนกอนันต์ต่อประเทศชาติ ความองอาจภาคภูมิใจจึงออกมาทุกลมหายใจ


ธนากร โปษยานนท์ รับบทเป็น ชวาล (พิทย์ รุ้งพราย ) : เพื่อนรักเพื่อนสนิทของรังสรรค์ เรียนหนังสือมาด้วยกันตั้งแต่เด็กๆ จนเป็นหนุ่มก็ยังรักและผูกพันไว้ใจเพื่อนจนร่วมลงทุนทำธุรกิจด้วยกัน ชวาลเป็นผู้ดีอย่างยิ่งยวด สุภาพอ่อนโยน และให้เกียรติทุกคน จนดูเหมือนถ่อมตัวเอง ยกย่องคนอื่นให้สูงกว่าตนเสมอ จริงใจไม่มีเลห์กล หรือหวังผลประโยชน์ ใดๆ จากใคร ทำอะไรจะทุ่มเทสุดตัวสุดกำลัง ชวาลเป็นผู้ชายโรแมนติกมาก แต่ก็เก็บซ้อนความรู้สึกมิดชิด แม้แต่เรื่องความรัก ความจริงเขาแอบหลงรักแขนภาตั้งแต่แรกพบ แต่ความที่สุภาพและอ่อนโยน


เ จารุวรรณ ปัญโญภาส รับบทเป็น คุณหญิงรัตนเดชากร : หญิงม่ายวัยหกสิบต้นๆ สามีจากไปนานมากแล้ว ดูแลลูกหลานในฐานะประมุขของบ้านด้วยความเมตตาปราณี เที่ยงธรรมและเหตุผล ชีวิตสงบนิ่งเพราะใช้ธรรมะนำทาง เฝ้ามองความเป็นไปทุกอย่างด้วยความสุขุม แต่ถ้าถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจอะไรก็เฉียบคม เด็ดขาดมีอำนาจในตัวเอง จนใครหน้าไหนก็ต้องเกรง ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง เพราะให้เกียรติมนุษย์ทุกคนเสมอกัน (ผู้ดีโดยแท้) เกียรติยศและศักดิ์ศรีอยู่ในความคิดจิตใจ ไม่ต้องปั้นแต่ง บารมีจึงฉายแสงออกมาด้วยตัวของมันเอง จากทุกท่วงท่า


คุณหญิงรับเ ชลิดา เถาว์ชาลี ตันติพิภพ รับบทเป็น ไพลิน รัตนเดชากร : วัยสี่สิบต้นๆ แก่กว่ารังสรรค์สองปี พี่สาวรังสรรค์..คุณไพลินใกล้ชิดคุณหญิงมาก จนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีครอบครัว ครองตัวเป็นโสด ไม่ใช่เพราะไม่ปรารถนาความรัก แต่เพราะเธอเลือกที่จะใช้เวลาทั้งหมดดูแลแม่อย่างใกล้ชิด และจากการได้เห็น ตัวอย่างความล้มเหลว ของครอบครัวรังสรรค์ เห็นความโลเลของจิตใจผู้ชาย เธอจึงเข็ดขยาด และปวารณาตัวเองว่าจะไม่ขอแบกความทุกข์จากการมีความรัก สงบนิ่ง คิดและทำมากกว่าพูด แต่ถ้าได้พูด คำเดียวก็สยบมารได้เหมือนกัน เป็นหูเป็นตาแทนคุณหญิงได้ทุกเรื่อ ง


มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล รับบทเป็น บุหงา รัตนเดชากร : เมียคนล่าสุดของรังสรรค์ อายุน่าจะเฉียดสามสิบ ใกล้วัยสาวสะพรั้งโรยรา เธอจึงต้องพิถีพิถันกับการฉาบปรุงโฉมตัวเองให้ดูดีอยู่ตลอดเวลา ยิ่งเด็กๆ หลานๆมันเติบโต ความสาวไล่ขึ้นมาเปรียบเทียบ เธอยิ่งรู้สึกบาดใจรับไม่ได้ บุหงาเป็นน้องสาวเมียเก่ารังสรรค์ เธอตัดสินใจแต่งงานกับรังสรรค์ไม่ใช่ด้วยความรักแต่เพราะเงิน เธอรู้ดีว่ารัตนเดชากรล่ำซำประมาณนึง แล้วเรื่องอะไรจะปล่อยให้สิทธิอันพึงมีพึงได้จากพี่สาวตัวเองสูญเปล่าไปเฉยๆ ประกอบกับรถไฟขบวนสุดท้ายมาแล้วเรื่องอะไรเธอจะไม่กระโดดเข้าใส่


ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง รับบทเป็น พจนีย์ รัตนเดชากร : ลูกสาวคนเล็กของคุณรังสรรค์ เกิดมาอย่างได้รับการประคบประหงม เอาอกเอาใจ จากคนรอบๆตัว ในฐานะลูกคนเล็ก พจนีย์จึงได้ทุกอย่างที่อยากได้จนเคยตัว หัวอ่อนจนพร้อมจะซึมซับทุกอย่างที่ผู้ใหญ่ป้อนข้อมูลสั่งสอน อารมณ์ชัดเจน รู้สึกอย่างไร ก็แสดงออกมาอย่างนั้น ไม่ใช่คนขี้อิจฉา แต่เธอปกป้องสิทธิ์ ที่กำลังจะสูญเสียไปของเธอมากกว่า รักความสบายเพราะตั้งแต่เล็กก็ไม่ต้องทำอะไรเอง ความอดทน พากเพียร บากบั่น เพื่อความสำเร็จจึงน้อยกว่าใครๆ คิดตื้นๆ ง่ายๆ และยึดติดกับตัวกูของกู

No comments:

Post a Comment

My Blog List